แม่สุดปวดหัว ลูกชายวัย 13 เพิ่งพ้นจากอาการช็อก คว้ามือถือมาเล่นอีกแล้ว ด้าน รอง ผอ. เผย พบเด็กเป็นโรคสมาธิสั้นขั้นรุนแรง ต้องรักษาตามระดับ ฝากเตือนผู้ปกครองต้องเข้มงวดเรื่องการเล่นเกมบุตรหลาน ไม่ควรปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก
จากกรณี เด็กชายวัย 13 ปี
เล่นเกมในมือถือติดต่อกันทั้งวันทั้งคืนไม่กินอาหาร กระทั่งเกิดช็อก
ปากสั่น ใจสั่น มือเท้าเย็น แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ทำให้ผู้ปกครองต้องหามส่งโรงพยาบาลด่วนนั้น (อ่านข่าว : อุทาหรณ์.. เด็ก 13
เล่นเกมทั้งวัน จนช็อก แม่เผยต้องทำงานไม่มีเวลาดูแล)
ล่าสุด (3 พฤศจิกายน 2561) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า
เด็กชายวัย 13 ปี ร่างกายฟื้นตัว และทางโรงพยาบาลอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
หลังแพทย์เจ้าของไข้ได้ให้น้ำเกลือแร่แก่เด็ก
เนื่องจากร่างกายขาดน้ำและสารอาหารอย่างรุนแรง
รวมทั้งสั่งให้เด็กได้นอนพักผ่อนให้เต็มที่
พร้อมกำชับผู้ปกครองให้ดูแลอย่างใกล้ชิด
ทั้งเรื่องการรับประทานอาหารให้ตรงเวลา การพักผ่อนเพียงพอ
และเข้มงวดเรื่องการเล่นเกมทั้งจากคอมพิวเตอร์และมือถือ
ไม่ควรปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เด็กก็ยังคงเล่นแต่มือถือไม่หยุด สร้างความปวดหัวให้กับผู้เป็นแม่อย่างมาก
โดย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รอง ผอ. โรงพยาบาลน่าน เผยว่า ขณะนี้เด็กพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่พบว่าเด็กมีลักษณะเป็นโรคสมาธิสั้นขั้นรุนแรง ต้องทำการรักษาในตามระดับต่อไป จึงอยากฝากเตือนผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานในเรื่องการดูคอมพิวเตอร์ หรือเล่นมือถือ ควรกำหนดเวลาและสร้างเงื่อนไขไม่ให้อยู่กับหน้าจอนานเกินไป เช่น เล่นได้ไม่เกินวันละ 1-2 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ควรหาเกมที่สร้างเสริมพัฒนาการเด็ก มากกว่าเกมที่ให้แค่ความเพลิดเพลิน พ่อแม่ควรทราบว่าเกมออนไลน์ใด ที่เหมาะกับพัฒนาการของลูก เล่นแล้วเกิดประโยชน์อะไรบ้าง เป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรใส่ใจ หากไม่อยากให้ทุกอย่างสายเกินไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก