ช็อกแทบหัวใจวาย ! สาวแทบล้มทั้งยืน อยู่ ๆ เจอลุงโผล่มาที่บ้าน หลังจัดงานศพให้เมื่อ 2 เดือนก่อน สุดท้ายกลายเป็นคดีโอละพ่อ สุดฉงนศพที่ฝังไปเป็นศพใคร
ในขณะที่เราอาจเคยเห็นพล็อตคนตายกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้ จากตามละครหรือนิยายต่าง ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ในความเป็นจริง และนั่นจึงกลายเป็นเรื่องที่ช็อกสุดขีดสำหรับครอบครัวหนึ่งในคาซัคสถาน เมื่ออยู่ ๆ ญาติของพวกเขาที่น่าจะตายไปแล้ว ก็ปรากฏตัวขึ้น หลังผ่านพ้นงานศพไปแล้ว 2 เดือน
แม้มันจะไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ ญาติของพวกเขากลับมาแล้วจริง ๆ แถมยังกลับมาแบบคนเป็น ๆ ไม่ใช่วิญญาณมาหลอกหลอนแต่อย่างใด และนั่นจึงเกิดเป็นความฉงนหนักว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร ญาติของพวกเขาตายแล้วฟื้นจริง ๆ หรือเป็นแค่ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นเท่านั้น
เว็บไซต์มิเรอร์ หยิบเรื่องดังกล่าวมานำเสนอเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 เผยว่า ชายที่ถูกเข้าใจว่าตายไปแล้วผู้นี้มีชื่อว่า ไอกาลี ซูปูกาลีฟ วัย 63 ปี โดยก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม เขาได้ถูกแจ้งว่าเป็นผู้สูญหาย หลังหายตัวออกไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครในบ้านทราบแม้แต่คนเดียวว่าเขาหายไปไหน
ทางครอบครัวเฝ้ารอข่าวของเขาด้วยความเป็นห่วง กระทั่ง 2 เดือนต่อมาจึงได้ทราบข่าวร้าย มีผู้พบศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยใกล้ ๆ บ้านของพวกเขา ซึ่งจากผลการตรวจดีเอ็นเอของศพ พบว่ามีความคล้ายคลึงกับไอกาลีมากถึง 99.92% มันเกือบจะแน่ชัดแล้วว่านี่คือร่างไร้วิญญาณของเขา ดังนั้นจึงมีการออกใบมรณบัตรของไอกาลี และน้องชายของไอกาลีก็รับศพกลับไปด้วยความเศร้า นำไปทำพิธีทางศาสนา แล้วฝังร่างดังกล่าวไว้ในสุสานมุสลิม
แต่แล้วโดยที่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากงานศพผ่านพ้นไป 2 เดือน อยู่ ๆ ไอกาลีก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูบ้าน คนแรกที่เจอตัวเขาก็คือหลานสาว ซึ่งน้องชายของไอกาลีถึงกับบอกเลยว่า "ตอนที่ไอกาลีเดินเข้ามาในบ้านแบบตัวเป็น ๆ และแข็งแรงดี ซูลี ลูกสาวของผม ที่เห็นลุงตัวเองแทบจะหัวใจวาย"
"ผลการวิเคราะห์ดีเอ็นเอยืนยันแล้วว่าศพนั้นเป็นพี่ชายผม ซึ่งเราก็เชื่อในผลนั้นแล้วก็จัดงานศพให้เขา ผมใช้เงินไปมากกับงานศพ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเงินหรอก ประเด็นคือเราฝังศพของใครไป บางทีญาติของผู้ตายอาจจะกำลังตามหาเขาอยู่ก็ได้" น้องชายของไอกาลี กล่าว
สุดท้ายความจริงปรากฏว่า ไอกาลีนั้นยังมีชีวิตอยู่ดี ไม่ได้เสียชีวิตแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่เขาหายตัวไปนั้น ไอกาลี เผยว่า เขาไปทำงานในฟาร์มที่ห่างไกลแห่งหนึ่งเป็นเวลา 4 เดือน โดยตอนไปนั้นก็ไม่ได้คิดว่าต้องบอกญาติ ๆ ให้ทราบ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน
หลังจากเกิดเรื่องช็อกดังกล่าว ไอกาลีจึงได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับป้ายสุสานของเขา ซึ่งทางครอบครัวกำลังสร้างอยู่ตอนที่เขาเดินเข้ามาในบ้าน ขณะที่น้องสะใภ้ของไอกาลี และคนในครอบครัว ต่างก็ดีใจที่ไอกาลียังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขาก็กำลังเตรียมฟ้องร้องผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคนตรวจดีเอ็นเอจากศพ
ทั้งนี้ สำหรับการตรวจดีเอ็นเอดังกล่าวได้นำชิ้นส่วนเล็บของศพมาใช้ในการตรวจ โดย อักมารัล ซูห์บาตโรวา นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นผู้ดำเนินการตรวจดีเอ็นเอ ชี้ว่า แค่ผลตรวจดีเอ็นเอนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุได้แน่ชัดว่าศพดังกล่าวเป็นใคร นอกจากนี้ต้องไม่ลืมด้วยว่าผลตรวจดังกล่าวยังเหลือตัวเลขที่ไม่เหมือนกับไอกาลีอีก 0.08%
ภาพจาก aaj.tv
