วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนซีไรต์ เล่าประสบการณ์โดนโกงค่าอาหารที่ตลาดหัวหิน ซึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติไปด้วย ก่อนเช็กบิลคาดไม่เกิน 2 พัน ปรากฏโดนกุ้งเผาตัวละพัน รวม 6 พันกว่าบาท เตือนควรถามราคาอาหารก่อนสั่งทุกครั้ง
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 นายวินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และนักเขียนซีไรต์ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวโดนแม่ค้าโกงขณะไปเที่ยวชะอำ โดยระบุว่าเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้พาคนต่างชาติไปเที่ยว และไปทานข้าวกันที่ตลาดหัวหิน ซึ่งทำเช่นนี้มา 20-30 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา
แต่ครั้งนี้คนต่างชาติบอกว่าอยากไปกินอาหารทะเลที่ร้านซีฟู้ดแห่งหนึ่งในตลาด บอกว่าเห็นชื่อนี้จากเว็บไซต์ จึงเข้าไปนั่ง เป็นร้านธรรมดาไม่ใช่ภัตตาคารหรูอะไร ผมปล่อยให้แขกสั่งอาหารตามสบาย ก็มีกุ้งเผาสี่ตัว ต้มยำ หอย อาหารไทยพื้น ๆ ธรรมดา และขณะสั่งกุ้งเผา คนต่างชาติถามราคาก่อน คนขายบอกว่าเดี๋ยวค่อยมาบอก แต่ก็ไม่ได้มาบอก และนำอาหารมาเสิร์ฟเลย
หลังทานเสร็จก็เรียกเช็กบิล ผมประเมินราคาอาหารบนโต๊ะ อย่างมากก็พันห้าหรือไม่เกิน 2 พันบาท เพราะไม่ใช่กุ้งใหญ่ แต่ปรากฏว่าคนที่นำบิลมาส่งเป็นเด็กหญิงตัวน้อย บิลเขียนราคา 6 พันกว่าบาท กุ้งราคาตัวละ 1 พันบาท จึงมองซ้ายมองขวาหาผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าของร้านเพื่อสอบถาม ก็ไม่มีเงาสักคน มีแต่เด็กหญิงจ้องตาลูกค้ารอรับเงิน เราออกจากร้านด้วยความรู้สึกแย่ เพราะรู้ว่าถูกโกง คนขายตั้งใจไม่บอกราคา เห็นว่าผมเป็นคนไทยคนเดียว ที่เหลือเป็นคนต่างชาติ
เนื่องจากมีแขกต่างชาติ ผมจึงตัดสินใจไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ยอมจ่ายและออกจากร้านไป เมื่อเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง ก็ได้ความว่าร้านซีฟู้ดร้านนี้ มีประวัติในการโกงแบบนี้มานานหลายปี เป็นที่ขึ้นชื่อในหัวหิน แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ ลูกค้าก็บ่นแล้วก็ไปครั้งเดียวไม่กลับไปอีก ร้านก็ยังคงทำอย่างนี้กับคนอื่นต่อไปได้
ผมลังเลอยู่นานว่าจะเล่าเรื่องนี้สู่สาธารณะดีไหม แต่ในที่สุดก็คิดว่าเล่าดีกว่า โดยไม่ต้องบอกชื่อร้าน เนื่องจากผมไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ จึงตั้งตัวไม่ทันจริง ๆ ก็ไม่ได้เก็บหลักฐานใบเสร็จและถ่ายรูปร้าน (แต่หากหาใน Google คำว่า "ร้านซีฟู้ด หัวหิน โกง" ก็รู้) ถ้าหากมีคนได้รับประโยชน์จากคำเตือนนี้สัก 6 พันคน เงิน 6 พันบาทที่ผมเสียไปก็คุ้ม
บทเรียนคนละบาทเดียว สิ่งที่ผมอยากเตือนผู้อ่านมีข้อเดียวคือ เมื่อสั่งอาหาร จงถามราคาเสมอ ถ้าไม่รู้ราคา ก็ไม่ต้องสั่งไม่ต้องกิน ความจริงคนที่ควรจะเดือดร้อนใจและรีบทำอะไรสักอย่างมากที่สุดก็คือชาวหัวหิน เพราะมันทำให้ลูกค้าเข็ดขยาดกับหัวหินในภาพรวม แต่ที่น่าเศร้าใจคือ หัวหินไม่ใช่คดีเดียว การท่องเที่ยวแบบ Mass tourism ก่อให้เกิดมิจฉาชีพที่ซ่อนตัวในรูปพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้า รถแท็กซี่ ฯลฯ ที่พยายามรีดเงินจากนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด โดยไม่คำนึงว่า ท้ายที่สุดแล้ว ผลกรรมจะตกอยู่กับคนไทยทั้งหมดว่าเป็นประเทศขี้โกง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก วินทร์ เลียววาริณ
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 นายวินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และนักเขียนซีไรต์ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวโดนแม่ค้าโกงขณะไปเที่ยวชะอำ โดยระบุว่าเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้พาคนต่างชาติไปเที่ยว และไปทานข้าวกันที่ตลาดหัวหิน ซึ่งทำเช่นนี้มา 20-30 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา
แต่ครั้งนี้คนต่างชาติบอกว่าอยากไปกินอาหารทะเลที่ร้านซีฟู้ดแห่งหนึ่งในตลาด บอกว่าเห็นชื่อนี้จากเว็บไซต์ จึงเข้าไปนั่ง เป็นร้านธรรมดาไม่ใช่ภัตตาคารหรูอะไร ผมปล่อยให้แขกสั่งอาหารตามสบาย ก็มีกุ้งเผาสี่ตัว ต้มยำ หอย อาหารไทยพื้น ๆ ธรรมดา และขณะสั่งกุ้งเผา คนต่างชาติถามราคาก่อน คนขายบอกว่าเดี๋ยวค่อยมาบอก แต่ก็ไม่ได้มาบอก และนำอาหารมาเสิร์ฟเลย
หลังทานเสร็จก็เรียกเช็กบิล ผมประเมินราคาอาหารบนโต๊ะ อย่างมากก็พันห้าหรือไม่เกิน 2 พันบาท เพราะไม่ใช่กุ้งใหญ่ แต่ปรากฏว่าคนที่นำบิลมาส่งเป็นเด็กหญิงตัวน้อย บิลเขียนราคา 6 พันกว่าบาท กุ้งราคาตัวละ 1 พันบาท จึงมองซ้ายมองขวาหาผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าของร้านเพื่อสอบถาม ก็ไม่มีเงาสักคน มีแต่เด็กหญิงจ้องตาลูกค้ารอรับเงิน เราออกจากร้านด้วยความรู้สึกแย่ เพราะรู้ว่าถูกโกง คนขายตั้งใจไม่บอกราคา เห็นว่าผมเป็นคนไทยคนเดียว ที่เหลือเป็นคนต่างชาติ
เนื่องจากมีแขกต่างชาติ ผมจึงตัดสินใจไม่ทำเรื่องวุ่นวาย ยอมจ่ายและออกจากร้านไป เมื่อเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง ก็ได้ความว่าร้านซีฟู้ดร้านนี้ มีประวัติในการโกงแบบนี้มานานหลายปี เป็นที่ขึ้นชื่อในหัวหิน แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ ลูกค้าก็บ่นแล้วก็ไปครั้งเดียวไม่กลับไปอีก ร้านก็ยังคงทำอย่างนี้กับคนอื่นต่อไปได้
ผมลังเลอยู่นานว่าจะเล่าเรื่องนี้สู่สาธารณะดีไหม แต่ในที่สุดก็คิดว่าเล่าดีกว่า โดยไม่ต้องบอกชื่อร้าน เนื่องจากผมไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ จึงตั้งตัวไม่ทันจริง ๆ ก็ไม่ได้เก็บหลักฐานใบเสร็จและถ่ายรูปร้าน (แต่หากหาใน Google คำว่า "ร้านซีฟู้ด หัวหิน โกง" ก็รู้) ถ้าหากมีคนได้รับประโยชน์จากคำเตือนนี้สัก 6 พันคน เงิน 6 พันบาทที่ผมเสียไปก็คุ้ม
บทเรียนคนละบาทเดียว สิ่งที่ผมอยากเตือนผู้อ่านมีข้อเดียวคือ เมื่อสั่งอาหาร จงถามราคาเสมอ ถ้าไม่รู้ราคา ก็ไม่ต้องสั่งไม่ต้องกิน ความจริงคนที่ควรจะเดือดร้อนใจและรีบทำอะไรสักอย่างมากที่สุดก็คือชาวหัวหิน เพราะมันทำให้ลูกค้าเข็ดขยาดกับหัวหินในภาพรวม แต่ที่น่าเศร้าใจคือ หัวหินไม่ใช่คดีเดียว การท่องเที่ยวแบบ Mass tourism ก่อให้เกิดมิจฉาชีพที่ซ่อนตัวในรูปพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้า รถแท็กซี่ ฯลฯ ที่พยายามรีดเงินจากนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด โดยไม่คำนึงว่า ท้ายที่สุดแล้ว ผลกรรมจะตกอยู่กับคนไทยทั้งหมดว่าเป็นประเทศขี้โกง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก วินทร์ เลียววาริณ