วงจรปิดจับภาพ แม่ใจร้ายรีดลูกออกจากครรภ์ นำซากทารกแฝดใส่ถุง หิ้วทิ้งถังขยะ

 
             สลดสังคม แม่ใจร้ายรีดลูกออกจากครรภ์ นำซากทารกแฝดใส่ถุง หิ้วทิ้งถังขยะ สุดเวทนาทารกโตจนมีอวัยวะครบ 32 แต่กลับไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก

              เมื่อตรวจสอบสภาพซากทารก พบว่าเด็กมีพัฒนาการจนอวัยวะครบ 32 แล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุเพศได้ว่าเป็นชายหรือหญิง ลักษณะผิวขาวและผิวดำ นอนอยู่บนกองขยะภายในถังขยะ ใกล้กันพบถุงหูหิ้วลายดอกไม้และถุงร้านสะดวกซื้อเปื้อนเลือดตกอยู่ 2 ใบ ภายในถุงใบลายดอกไม้มีผ้าอนามัยเปื้อนเลือดอยู่ 2 แผ่น พร้อมด้วยเส้นผม โดยคาดว่าถุงทั้ง 2 ใบน่าจะถูกนำมาทิ้งพร้อมกัน


              ทั้งนี้ เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ที่นำทารกมาทิ้งน่าจะเป็นสาวใจแตกหรือแรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรักสนุกจนเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาโดยไม่พร้อม จึงได้ทำแท้งหรือกินยาขับทารกออกมา ก่อนนำใส่ถุงหูหิ้วมาทิ้งใส่ถังขยะ คาดว่าแม่ของทารกน่าจะตกเลือดและต้องเข้ารักษาตัวตามสถานพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่งในละแวกใกล้เคียง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจออกสอบถามตามสถานพยาบาลในละแวกใกล้เคียง

              นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ระหว่างอาคารที่ 24 และ 25 พบว่าสามารถจับภาพของหญิงสาวอายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำสวมคล้ายกระโปรงชุดนอนสีขาว เดินหิ้วถุงพลาสติกนำมาโยนทิ้งถังขยะ คาดว่าภายในถุงคือซากทารกแฝด จึงเป็นแนวทางในการติดตามแม่ใจร้ายมาสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก