นักท่องเที่ยวหลายคน เดินทางไปพื้นที่ประสบภัยสึนามิ ในอินโดนีเซีย เพื่อโพสท่าถ่ายภาพเซลฟี่กับจุดที่ได้รับความเสียหาย เผยภาพเซลฟี่กับซากปรักหักพัง มียอดไลก์ยอดแชร์เยอะ
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยน รายงานว่า พื้นที่ประสบภัยสึนามิ ในจังหวัดบันเติน บริเวณช่องแคบซุนดา บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ได้กลายเป็นสถานท่องเที่ยวไปได้อย่างแปลกประหลาดและไม่มีใครคาดคิด โดยนักท่องเที่ยวหลายคน ลงทุนเดินทางมายังจุดที่ได้รับความเสียหาย เพื่อโพสท่าถ่ายภาพเซลฟี่คู่กับฉากหลังที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของบ้านเรือน และโพสต์แชร์ลงบนโซเชียลมีเดีย เพื่อเรียกยอดไลก์ยอดแชร์
โซลิฮัต หญิงชาวอินโดนีเซีย วัย 40 ปี เล่าว่า เธอและเพื่อน ๆ อีก 3 คน จากกลุ่มสตรีมุสลิมเมืองจิเลกอน เดินทาง 2 ชั่วโมงมายังจุดที่ได้รับความเสียหายในบันเติน เพื่อบริจาคเสื้อผ้าให้กับผู้ประสบภัย เธอกล่าวว่าจำเป็นต้องถ่ายรูปแล้วเอาไปโพสต์แชร์ลงเฟซบุ๊ก จะได้เป็นหลักฐานให้ผู้คนรับรู้ว่าเธอมาที่นี่จริง และได้บริจาคเสื้อผ้าไปแล้ว
แต่การถ่ายภาพเซลฟี่ในพื้นที่ประสบภัยทำให้เธอและเพื่อนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งเพื่อนคนหนึ่งของเธอยังยิ้ม แถมชู 2 นิ้วให้กล้อง อย่างไรก็ตาม โซลิฮัตได้แก้ตัวว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร และภาพความเสียหายทำให้ผู้คนรู้สึกดีขึ้น ทำให้รู้สึกว่าชีวิตตัวเองโชคดีกว่าผู้ประสบภัย และรู้สึกขอบคุณที่ไม่ได้พบเจอกับสึนามิ
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าตามหาและเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตกันอย่างต่อเนื่อง การทำงานของพวกเขาเป็นอะไรที่ยากลำบากมากอยู่แล้ว เพราะต้องค้นหาตามซากปรักหักพัง หลายพื้นที่ก็ยังมีน้ำท่วมขังอีกด้วย ซึ่งคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาถ่ายภาพเซลฟี่ ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ลำบากมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะบางคนเข้าไปยืนขวางทางเกะกะ
ยังมีอีกหลายคนที่ลงทุนเดินทางมาที่นี่ โดยวาเลนตินา เด็กสาววัย 18 ปี กล่าวว่า เธอเดินทางมาจากกรุงจาการ์ตา ต้องนั่งรถ 3 ชั่วโมง กว่าจะมาถึง แต่เธอก็ไม่รู้สึกผิดหวังเลย เพราะเธออยากเห็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย และอยากมาดูคนที่ประสบภัย เมื่อผู้สื่อข่าวถามเธอว่า เธอมาทำอะไร และถ่ายรูปไปเท่าไหร่แล้ว วาเลนตินาก็หัวเราะ บอกว่าเธอมาเพื่อถ่ายเซลฟี่โดยเฉพาะ
วาเลนตินากล่าวอีกว่า เธอถ่ายภาพไปเยอะมาก โพสมาหลายท่า และแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ดูในกรุ๊ปแชต นอกจากนี้แล้ว เธอยังเดินลุยซากปรักหักพัง เพื่อจะเข้าไปถ่ายรูปกับซากบ้านซากรถที่จมน้ำแบบใกล้ ๆ ขณะที่กลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันรื้อซาก
ทางด้าน บะห์รูดิน วัย 40 ปี ประธานสมาคมชาวนาในพื้นที่ และเจ้าของรถที่เสียหายดังกล่าว เปิดเผยว่า ตอนที่เห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาทำแบบนั้น เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจและผิดหวังมาก เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่เศร้าสลด ทุกพื้นที่มีคนตาย แต่กลับมีคนเข้ามาถ่ายรูปยิ้มแย้ม อย่างไม่คำนึงถึงความเหมาะสม
สำหรับ โซลิฮัต หญิงที่มาถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ผู้สื่อข่าวเดอะการ์เดี้ยนได้สอบถามเธอว่า รู้สึกอย่างไรที่เข้าไปถ่ายเซลฟี่แบบนั้น เพราะจุดที่เธอและเพื่อนเข้าไปแชะภาพ มันเป็นจุดที่มีคนเสียชีวิต และใต้พื้นดินด้านหลังเธอ หรือในจุดที่เธอยืน อาจจะมีร่างผู้เคราะห์ร้ายฝังอยู่และรอการเก็บกู้ โซลิฮัตกล่าวว่า เรื่องนี้ก็แล้วแต่มุมมองและเจตนาของคน ถ้าเข้ามาถ่ายเพราะอยากโชว์อยากอวด มันก็คงไม่ค่อยเหมาะสม
โซลิฮัต กล่าวอีกว่า ถ้านักท่องเที่ยวเข้าถ่ายภาพเพื่อแสดงความรู้สึกไว้อาลัย กรณีนี้สามารถทำได้ไม่ผิด แต่แม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น สิ่งที่เธอทำก็เหมือนกับว่าต้องการถ่ายภาพไปอวด ไม่ได้ต้องการจะไว้อาลัยอย่างที่อ้าง เพราะเธอเผยว่า ในจำนวนภาพที่แชร์บนเฟซบุ๊ก ภาพเซลฟี่ในพื้นที่ประสบภัย จะได้รับการกดไลก์และกดแชร์มากกว่าภาพอื่น ๆ
