สนช. เตรียมถกร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 10 ม.ค. นี้ เพิ่มอำนาจคณะกรรมการออกสลากรูปแบบใหม่ได้ อาทิ หวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว สะสมแจ็กพอตได้ พร้อมเพิ่มโทษขายหวยเกินราคา ทั้งจำทั้งปรับ ด้านเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย หวั่นมอมเมาประชาชนมากกว่าเดิม
![กองสลาก]( "กองสลาก")
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2562 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการประชุมในวันที่ 10 มกราคม ซึ่งมีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 17 มาตรา โดยมีสาระสำคัญคือ การแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 เพื่อปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และกำหนดบทลงโทษความผิดกรณีจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด อาทิ
- มาตรา 7 ที่มีการเพิ่มเติมอำนาจคณะกรรมการสามารถกำหนดจำนวน รูปแบบ และวิธีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่จากเดิมมีอำนาจแค่การกำหนดราคา วิธีการจำหน่าย และการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งจะมีผลทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถออกสลากรูปแบบใหม่ ๆ ตามแบบสากลได้ เช่น สลากรวมชุด สลาก 2 ตัว 3 ตัว สลากลอตโต้ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ หรือตู้ขายสลากอัตโนมัติได้
- มาตรา 10 เรื่องการจัดสรรเงินรางวัล หากการออกรางวัลงวดใดไม่มีผู้มีสิทธิแสดงตัวรับเงินรางวัล จะนำเงินที่จัดสรรไว้ไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไปได้ โดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎกระทรวง
- มาตรา 13 เรื่องการกำหนดโทษผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด การขายในสถานศึกษา และขายให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากเดิมที่มีโทษปรับเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ สำหรับผลจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีอำนาจออกสลากกินแบ่งรัฐบาลในรูปแบบใหม่ ๆ ได้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางมอมเมาประชาชนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
รวมถึงเกรงว่าผู้ค้าสลากรายย่อยอย่างกลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส จะเข้าถึงสลากรูปแบบใหม่ได้ลำบาก เพราะอาจมีการเลือกปฏิบัติ เช่นเดียวกับการเพิ่มโทษแก่ผู้ขายสลากราคาก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง เพราะปัญหาเกิดจากพ่อค้าคนกลาง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไล่จับแต่ผู้ค้ารายย่อย อีกทั้งการขายสลากเกินราคา ส่วนใหญ่เกิดจากการขายสลากรวมชุด
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า ดูจากภาพรวมของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ตนไม่ติดใจ เพราะต้องการปราบปรามเรื่องการขายสลากเกินราคาเป็นหลัก แต่ยังกังวลในเรื่องการเพิ่มอำนาจคณะกรรมการให้พิจารณาออกสลากรูปแบบใหม่ ๆ ได้ เพราะอาจเป็นช่องทางให้เกิดหวยออนไลน์ออกมามอมเมาเยาวชนได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้จะต้องรอความชัดเจนจากตัวแทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และคณะกรรมการกฤษฎีกา มายืนยันต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) ในวันที่ 8 มกราคม ก่อน หากพบว่ามีการโยงไปถึงเรื่องหวยออนไลน์คงต้องแก้ไข
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2562 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการประชุมในวันที่ 10 มกราคม ซึ่งมีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 17 มาตรา โดยมีสาระสำคัญคือ การแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 เพื่อปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และกำหนดบทลงโทษความผิดกรณีจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด อาทิ
- มาตรา 7 ที่มีการเพิ่มเติมอำนาจคณะกรรมการสามารถกำหนดจำนวน รูปแบบ และวิธีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่จากเดิมมีอำนาจแค่การกำหนดราคา วิธีการจำหน่าย และการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งจะมีผลทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถออกสลากรูปแบบใหม่ ๆ ตามแบบสากลได้ เช่น สลากรวมชุด สลาก 2 ตัว 3 ตัว สลากลอตโต้ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ หรือตู้ขายสลากอัตโนมัติได้
- มาตรา 10 เรื่องการจัดสรรเงินรางวัล หากการออกรางวัลงวดใดไม่มีผู้มีสิทธิแสดงตัวรับเงินรางวัล จะนำเงินที่จัดสรรไว้ไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไปได้ โดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎกระทรวง
- มาตรา 13 เรื่องการกำหนดโทษผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด การขายในสถานศึกษา และขายให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากเดิมที่มีโทษปรับเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ สำหรับผลจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีอำนาจออกสลากกินแบ่งรัฐบาลในรูปแบบใหม่ ๆ ได้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางมอมเมาประชาชนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
รวมถึงเกรงว่าผู้ค้าสลากรายย่อยอย่างกลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส จะเข้าถึงสลากรูปแบบใหม่ได้ลำบาก เพราะอาจมีการเลือกปฏิบัติ เช่นเดียวกับการเพิ่มโทษแก่ผู้ขายสลากราคาก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง เพราะปัญหาเกิดจากพ่อค้าคนกลาง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไล่จับแต่ผู้ค้ารายย่อย อีกทั้งการขายสลากเกินราคา ส่วนใหญ่เกิดจากการขายสลากรวมชุด
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า ดูจากภาพรวมของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ตนไม่ติดใจ เพราะต้องการปราบปรามเรื่องการขายสลากเกินราคาเป็นหลัก แต่ยังกังวลในเรื่องการเพิ่มอำนาจคณะกรรมการให้พิจารณาออกสลากรูปแบบใหม่ ๆ ได้ เพราะอาจเป็นช่องทางให้เกิดหวยออนไลน์ออกมามอมเมาเยาวชนได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้จะต้องรอความชัดเจนจากตัวแทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และคณะกรรมการกฤษฎีกา มายืนยันต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) ในวันที่ 8 มกราคม ก่อน หากพบว่ามีการโยงไปถึงเรื่องหวยออนไลน์คงต้องแก้ไข
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
