x close

เปิดปมเขยโหดฆ่ายกครัว 5 ศพ เปย์ให้ครอบครัวเมียเยอะ คาดแค้นสูญเงินกว่า 20 ล้าน

          เปิดปมเขยโหดฆ่ายกครัวภรรยา 5 ศพ คาดแค้นสูญเงินให้ครอบครัวภรรยากว่า 20 ล้านบาท เผยรวยอู้ฟู่ มีรถยนต์เกือบ 10 คัน ซึ่งโอนเป็นชื่อครอบครัวภรรยา แถมซื้อทอง-ให้เงินพ่อตาเป็นล้าน อ้างเล่นหุ้นจนรวย ชอบโม้รู้จักนักการเมืองและคนมีสีระดับสูงหลายคน

          จากเหตุสะเทือนขวัญกรณี นายธีรพล ปิ่นอมร อายุ 38 ปี ใช้อาวุธปืนยิงภรรยา ที่กำลังตั้งท้องลูก 4 เดือน และครอบครัวภรรยา เสียชีวิตยกครัว ซึ่งสาเหตุมาจากความหึงหวง หลังภรรยาขอเลิกและตามง้อไม่สำเร็จ โดยก่อเหตุยิง 2 จุด คือยิงพ่อตากับภรรยาก่อนที่บ้านหลังหนึ่ง จากนั้นขับรถยนต์ไปยิงแม่ยายและญาติคนอื่นอีก เสียชีวิตรวม 5 ศพ ก่อนจะหลบหนีไป (อ่านข่าว : เหี้ยม ! ผัวหึงโหดฆ่ายกครัวกระหน่ำยิง เมีย-พ่อตา-แม่ยาย-ญาติ ดับ 5 ศพ)


          โดยพฤติการณ์ก่อเหตุของนายธีรพล หรือ ปุ๊ จุดแรกที่บ้าน หมู่ 1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ยิงนายวิรัตน์ กิ่งแก้ว อายุ 48 ปี พ่อตา และนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยาที่กำลังตั้งท้อง โดยยิงปืนทะลุศีรษะและกลางหลัง เสียชีวิตคาโรงจอดรถ


          จุดที่ 2 ที่บ้านหมู่ 2 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ห่างจากจุดแรกประมาณ 5 กิโลเมตร นายธีรพลใช้ปืนยิง นางน้ำผึ้ง อินทรสิทธิ์ อายุ 48 ปี แม่ยาย, นางน้ำผา อินทรสิทธิ์ อายุ 48 ปี พี่สาวฝาแฝดของนางน้ำผึ้ง ทั้งคู่ถูกยิงหลายนัดเข้าที่หัวและหน้าอก เสียชีวิตภายในห้องนอน และนางกนกวรรณ อินทรสิทธิ์ อายุ 53 ปี พี่สาวของนางน้ำผึ้ง เสียชีวิตอยู่บริเวณริมถนนหน้าบ้าน อีกทั้งยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน คือ นายเอกราช กำแหง และนายเวียง ยี่มุข ซึ่งเป็นญาติกับผู้ตาย


          ต่อมา นายธีรพลหลบหนีไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งได้นำรถยนต์จอดทิ้งไว้หน้าห้องพัก แล้วขอยืมรถจักรยานยนต์ของแม่บ้านในโรงแรม โดยอ้างว่าจะไปรับแฟนที่หน้าห้างสรรพสินค้า จากนั้นก็หายตัวไป ซึ่งจากกล้องวงจรปิดพบว่า นายธีรพลขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ข้างทาง ก่อนจะขึ้นรถกระบะสีขาวที่มาจอดรอรับหลบหนีไป



          ส่วนทางด้านคดี พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมชุดสืบสวน ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด ซึ่งในบ้านยังพบร่องรอยคราบเลือดอยู่ พร้อมเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้มาเก็บหลักฐานปลอกกระสุนปืน เพื่อส่งตรวจสอบว่าปืนเคยใช้ก่อคดีมาก่อนหรือไม่ รวมถึงประสานตำรวจในพื้นที่ทั้งหมด เพื่อเร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องหา ส่วนพยานที่รอดชีวิต ตนได้สั่งให้คุ้มครองตัวพยานไว้แล้ว และหากสืบทราบว่าผู้ต้องหามีคนให้ความช่วยเหลือในการหลบหนี ก็จะขออนุมัติศาลออกหมายจับทันที โดยตนเชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 1 คน


          ด้าน นายสุริยา แก้วสน เพื่อนบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ เวลา 09.00 น. ตนเห็นนายธีรพลขับรถมาพร้อมภรรยา มาที่บ้านของแม่ยาย ซึ่งตนก็ยังเห็นนายธีรพลนอนเล่นอยู่บนเปล จากนั้นก็กลับไป กระทั่งเวลา 17.00 น. ตนได้ยินเสียงดังปัง ๆ หลายครั้งติดต่อกัน ตอนแรกคิดว่ามีคนเคาะสังกะสีข้างบ้าน จึงเปิดประตูออกมาดู พบว่านายธีรพลกำลังถอยรถยนต์ออกจากบ้าน และเมื่อนายธีรพลเห็นนางกนกวรรณ (พี่สาวของแม่ยาย) นายธีรพลก็ยิงนางกนกวรรณทันที 3 นัด ทั้งที่มือยังจับพวงมาลัยถอยรถออกจากบ้าน

          โดยที่ผ่านมา นายธีรพลเคยทะเลาะรุนแรงกับภรรยา และนำรถพ่วงมาลากรถยนต์ 8 คัน กลับไปยังบ้านตัวเองที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งรถยนต์เหล่านั้น ตนทราบมาว่าถูกโอนเป็นชื่อของพ่อตาให้เป็นเจ้าของ เนื่องจากนายธีรพลอ้างว่าเคยเป็นคนล้มละลายมาก่อน จึงโอนให้เป็นชื่อของพ่อตาในตอนหลัง รวมถึงตนทราบมาว่านายธีรพลหมดเงินไปกับนางกัญญารัตน์ และครอบครัวร่วม 20 ล้านบาท

          นอกจากนี้ นายธีรพลยังมีนิสัยใจนักเลง ชอบอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโตหลายคน ส่วนตนไม่เชื่อว่านางกัญญารัตน์จะมีมือที่สาม เพราะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และฝ่ายหญิงก็รู้ว่านายธีรพลจะหึงหวงอยู่ตลอด


          ด้าน นายชยานันต์ อนุเคราะห์ สารวัตรกำนัน หมู่ 1 เปิดเผยว่า นายธีรพลมักพกอาวุธปืนเป็นประจำ ทั้งยังเคยยิงปืนขึ้นฟ้าอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าประกอบอาชีพเล่นหุ้น ทำให้มีฐานะ โดยนายธีรพลได้ช่วยจุนเจือครอบครัวภรรยาอยู่ตลอด ทั้งยังซื้อบ้านกว่า 3 ล้านบาท และซื้อรถไถให้อีก 8 แสนบาท เป็นเงินสด รวมถึงมีรถยนต์อีกเกือบ 10 คัน ซึ่งมีรถกระบะและรถยนต์หลายคัน ที่โอนเป็นชื่อของภรรยาและพ่อตา

          นอกจากนี้ ความร่ำรวยของนายธีรพล ยังซื้อรถกระบะให้เป็นชื่อของนายเอกราช (น้องเขยของภรรยา) เรียกได้ว่าครอบครัวนี้ลืมตาอ้าปากได้เพราะผู้ชายคนนี้ ทั้งยังเคยเอาเงินฝากในบัญชีพ่อตาอีกล้านกว่าบาท ซื้อทองให้ใส่ ซึ่งทรัพย์สินที่ยกให้ครอบครัวนี้ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ส่วนเรื่องที่นายธีรพลจะพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบชัดเจน แต่มีพฤติกรรมน่าสงสัย อีกทั้งนายธีรพลเคยอ้างว่า เคยมีนามสกุลดัง ก่อนจะเปลี่ยนนามสกุล แถมรู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่น จ.ระนอง หลายคน รวมถึงรู้จักกับคนมีสีระดับสูงจำนวนมาก


          ขณะที่ นางนิด (นามสมมติ) ญาติของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนทราบว่านายธีรพลรักภรรยามาก ทุ่มเทใจให้มาตลอด แต่สิ่งที่นางกัญญารัตน์รับไม่ได้คือ ฝ่ายชายชอบดื่มสุราแล้วอารมณ์ร้าย เวลาไม่เมาก็เป็นคนใจร้อน พูดจาไม่ค่อยดี อีกทั้งยังเคยข่มขู่ครอบครัวของภรรยาว่าจะยิงให้ตาย ส่วนเรื่องทรัพย์สินเงินทองและรถยนต์ที่มอบให้ ตนคิดว่าเป็นการให้โดยเสน่หา อย่างไรก็ตาม แม้นางกัญญารัตน์จะเป็นคนหน้าตาดี แต่ตนยืนยันได้ว่าไม่ใช่คนเจ้าชู้




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดปมเขยโหดฆ่ายกครัว 5 ศพ เปย์ให้ครอบครัวเมียเยอะ คาดแค้นสูญเงินกว่า 20 ล้าน อัปเดตล่าสุด 15 มกราคม 2562 เวลา 18:10:19 54,833 อ่าน
TOP