Thailand Web Stat

เจ้าของร้านสุดช้ำ ลูกจ้างแสบฉกเพชร 10 ล้าน หนีลอยนวล อุตส่าห์ไว้ใจมา 10 ปี

 
          เจ้าของร้านเพชรสุดช้ำ ลูกจ้างแสบฉกเครื่องเพชรมูลค่า 10 ล้านบาท หนีลอยนวล เผยทำงานด้วยกันมา 10 ปี ให้กุญแจและรหัสตู้เซฟทั้งหมด ผิดที่ไว้ใจมากไป ด้านตำรวจเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี


          วันที่ 29 มกราคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายรัตน์ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี เจ้าของร้านเพชร เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับนางชโณทัย หรือ สา อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพนักงานขายประจำร้าน ได้ขโมยชุดเครื่องเพชรและเครื่องประดับอัญมณีไปกว่า 100 รายการ รวมมูลค่า 10 ล้านบาท

          โดยนายรัตน์ เจ้าของร้านเพชร เปิดเผยว่า ร้านแต่ละสาขาจะมีพนักงานที่ไว้ใจประจำอยู่ 1 คน ทำหน้าที่ดูแลสินค้า ขายสินค้า ไว้ใจให้รหัสตู้เซฟและให้ดูแลกุญแจ ปล่อยให้พนักงานขายตามปกติ ไม่ได้เข้มงวดเพราะความไว้วางใจ ส่วนพฤติกรรมของนางสา พนักงานคนดังกล่าว ไม่มีแนวโน้มส่อไปในทางทุจริต อีกทั้งเป็นคนที่รู้จักกันมากว่า 20 ปี และทำงานด้วยกันมาร่วม 10 ปีแล้ว ลักษณะการทำงานก็ดูแลกันแบบคนในครอบครัว

ขโมยเพชร
          ก่อนหน้านี้ วันที่ 18 มกราคม ยังสามารถติดต่อนางสาได้ตามปกติ กระทั่งในวันที่ 19 มกราคม เริ่มขาดการติดต่อไป ด้วยความไว้ใจตนก็คิดว่านางสาอาจจะไม่สบาย และไม่ได้โทร. มาลา จึงไม่รู้สึกผิดสังเกตอะไร แต่ก็พยายามติดต่อทุกช่องทาง เพราะทางบริษัทจะเข้าไปเอากุญแจเซฟที่อยู่กับนางสา แต่ก็ติดต่อไม่ได้ กระทั่งหลายวันต่อมา ร้านข้าง ๆ โทร. มาถามตนว่าทำไมปิดร้านหลายวัน ทั้งที่ตนเข้าใจว่านางสาเปิดร้านตลอด และเมื่อไปตรวจสอบที่ร้านก็พบว่าเครื่องเพชรถูกขโมยไปหมดแล้ว

          ส่วนเรื่องกรณีที่ลูกค้าซื้อสินค้าภายในร้านและกลายเป็นเพชรปลอมนั้น ทางบริษัทยังไม่ทราบรายละเอียดต้องรอสอบถามข้อเท็จจริงจากนางสา ว่ามีการสลับเปลี่ยนสินค้าหรือไม่ แต่ยืนยันว่าทางร้านขายแต่ของจริง ไม่มีของปลอม

          ทั้งนี้ อยากฝากเตือนสังคมโดยเฉพาะผู้ประกอบการให้ระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น ครั้งนี้ยอมรับความผิดพลาดที่บริษัทหละหลวม ไม่ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ปล่อยให้พนักงานทำงานด้วยความไว้ใจ และขอให้ตำรวจเร่งติดตามตัวนางสามาดำเนินคดีโดยเร็ว


          ด้านนายเจริญ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี คนสนิทนางสา ซึ่งเคยร่วมงานขายเพชรด้วยกันมาก่อน เปิดเผยว่า นางสามีการแบ่งสัดส่วนกำไรกับเจ้าของร้าน น่าจะสัดส่วน 60:40 แต่คนที่ต้องจ่ายค่าเช่าทั้งหมดคือนางสา ลักษณะการประกอบธุรกิจคล้ายลงทุนร่วมกัน เพราะหากเป็นพนักงานขายคงไม่ต้องรับผิดชอบค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท

          ส่วนข่าวที่บอกว่าเพชรหายไปมูลค่า 10 ล้านบาทนั้น ตนไม่เชื่อ เพราะมีการขายระบายสินค้าออกไปเยอะ มีโปรโมชั่นส่วนลดกว่า 70% และเป็นการขายสินค้าในสต็อกกว่า 200 ชิ้น โดยไม่มีการเติมสินค้าในตู้ ซึ่งตนมองว่าเพชรที่ถูกขโมยไปน่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 2 ล้านบาท

          ต่อมา เมื่อเดินทางไปที่บ้านของนางสา พบว่ามีผู้สูงอายุป่วยโรคมะเร็ง นอนติดเตียงอาศัยอยู่ 1 คน มีเด็กชายวัย 7 ขวบ และนางน้อย (นามสมมติ) พี่สาวของนางสา เผยว่า เมื่อวันที่ 18 มกราคม นางสากลับมาที่บ้านเพื่อเก็บของออกไป โดยเจ้าตัวบอกว่าจะออกไปส่งของให้ลูกค้า จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย


          อย่างไรก็ตาม พี่สาวยังเผยอีกว่านางสาเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนใจสปอร์ต รับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด ตอนนี้ทุกคนเป็นห่วงนางสามาก ลูกชายของนางสาก็ร้องไห้คิดถึงแม่ อยากให้กลับมาสู้กับความจริง ไม่มีใครทำอะไรได้ เชื่อว่ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์พอ แต่หากขโมยเพชรไปจริง ญาติก็จะช่วยกันทุกวิถีทางเพื่อประกันตัว คนในบ้านไม่มีใครโกรธ เพียงแต่อยากฟังความจริงจากปากนางสา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รายการทุบโต๊ะข่าว


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ้าของร้านสุดช้ำ ลูกจ้างแสบฉกเพชร 10 ล้าน หนีลอยนวล อุตส่าห์ไว้ใจมา 10 ปี อัปเดตล่าสุด 30 มกราคม 2562 เวลา 16:14:48 9,025 อ่าน
TOP
x close