สาวท้อง 6 เดือน ไปนวด ก่อนชักคาเตียง อาการโคม่าแท้งลูก-แพทย์ชี้ลิ่มเลือดอุดตัน

           พ่อร้อง ลูกสาวตั้งท้อง 6 เดือน ไปนวด แต่เกิดชักคาเตียง จนแท้งลูก ขณะนี้อาการโคม่าต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ชี้ลิ่มเลือดไปอุดตันที่ปอดและสมอง ด้านร้านนวดบ่ายเบี่ยง


           โดยนายชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นลุง กล่าวว่า หลานสาวชื่นชอบการนวดแผนโบราณมากและมักไปใช้บริการอยู่เป็นประจำ ปกติหลานเป็นคนแข็งแรง ชอบออกกำลังกายและไม่มีโรคประจำตัว เมื่อวันที่ 11 มกราคม ได้ไปใช้บริการนวดที่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่ง โดยได้ติดต่อคุยกับเพื่อนทางไลน์ชวนไปนวดด้วยกัน แต่เพื่อนติดเลี้ยงลูก จึงสอบถามว่าไปนวดที่ไหนพร้อมกับให้ส่งภาพถ่ายร้านนวดมาให้ดูทางไลน์ หลานก็บอกว่ามาใช้บริการที่ร้านนวดที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป ต่อมาทราบข่าวว่าหลานนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จึงรีบเดินทางไปเยี่ยม

           นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามทราบว่า ขณะหลานสาวกำลังนวดอยู่เกิดอาการชักเกร็งและหมดสติคาเตียงนวด ระหว่างนั้นมีพยาบาลที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปช่วยเหลือ เพราะหลานหยุดหายใจ โดยหลังปั๊มหัวใจขึ้นมาได้ก็แจ้งรถพยาบาลมารับตัวไปรักษา แต่ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลกลับหยุดหายใจอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็ช่วยปั๊มหัวใจขึ้นมาได้ จากนั้นแพทย์ตรวจพบว่าหลานสาวมีอาการโคม่าและแท้งลูกในท้อง จึงนำเข้าห้องไอซียู โดยระหว่างนั้นไม่สามารถผ่าตัดนำทารกที่เสียชีวิตในท้องออกมาได้เพราะจะมีผลกับชีวิตของแม่ จึงต้องให้ยารักษากระทั่งสามารถนำทารกออกมาได้ แต่หลานโคม่าไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา โดยแพทย์แจ้งว่าหลานสาวมีอาการลิ่มเลือดไปอุดตันที่ปอดและสมองจึงทำให้เกิดอาการช็อก

           ด้านนายบุญมี เผยว่า ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับพนักงานนวดและร้านนวด พร้อมเผยว่า เหตุที่ต้องร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพราะอยากให้คู่กรณีแสดงความรับผิดชอบบ้าง และอยากเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับร้านนวดด้วย เพราะตั้งแต่ลูกสาวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จนถึงทุกวันนี้ทางร้านนวดก็ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และไม่บอกว่าใครเป็นคนนวด อย่างไรก็ตาม ล่าสุดครอบครัวได้ย้ายลูกสาวออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเอกชนตามสิทธิประกันสังคม ตนสงสารลูกมากที่ต้องมานอนไม่รู้สึกตัวเช่นนี้ โดยลูกถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องเลี้ยงดูลูกชาย 1 คน เมื่อป่วยโคม่าเช่นนี้ทำให้ครอบครัวลำบากมาก

           ทั้งนี้ พ.ต.อ. ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และเตรียมเร่งรัดพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและพยานแวดล้อม