สนช. แจงดราม่า พ.ร.บ.ข้าว โต้กฎหมายเอื้อนายทุนใหญ่ ยืนยันชาวนาซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวได้อย่างเสรี ไม่มีความผิด ยกเว้นเอาไปค้ากำไร ต้องขออนุญาต
![สนช. แจงดราม่า พ.ร.บ.ข้าว ไม่เอื้อนายทุนใหญ่ ยันชาวนาซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนเสรี]( "สนช. แจงดราม่า พ.ร.บ.ข้าว ไม่เอื้อนายทุนใหญ่ ยันชาวนาซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนเสรี")
โดยที่สำคัญ กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นการเอื้อนายทุนยักษ์ใหญ่ตามที่หลายฝ่ายกล่าวหา เพราะถ้าชาวนามีเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี ก็สามารถทำการซื้อ-ขายหรือแลกเปลี่ยนได้อย่างอิสระ เว้นแต่ชาวนาจะไปทำลักษณะผู้ประกอบการเพื่อค้ากำไรเสียเอง หากจะทำต้องขออนุญาตจากกรมการข้าวก่อน ดังนั้น ยืนยันได้ว่า สนช. ไม่ได้มีการแก้ไขข้อกฎหมายเพื่อปิดกั้นการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวแต่ประการใด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาร่างกฎหมายใกล้เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่คณะกรรมการตรวจร่างกฎหมายของสภา ก่อนที่จะประชุม สนช. เพื่อพิจารณาความเห็นชอบในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังเตรียมพิจารณาร่างกฎหมาย พ.ร.บ.ข้าว ซึ่งมีประเด็นถกเถียงกันอยู่ข้อหนึ่งในมาตรา 27 ที่กฎหมายให้อำนาจเฉพาะการค้าเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดว่าหมายถึง เกษตรกรไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้หรือขายเองได้ และเป็นการจำกัดสิทธิชาวนาให้ต้องซื้อจากผู้ที่ขึ้นทะเบียนการค้าเมล็ดพันธุ์เท่านั้น
โดยมีโทษสูงถึงจำคุก 1 ปี และปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่ขัดกับวิถีของชาวนาไทย และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจและการเกษตร โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาและการค้าเมล็ดพันธุ์
โดยมีโทษสูงถึงจำคุก 1 ปี และปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่ขัดกับวิถีของชาวนาไทย และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจและการเกษตร โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาและการค้าเมล็ดพันธุ์
ล่าสุด (15 กุมภาพันธ์ 2562) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิก สนช. ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ข้าว ยืนยันว่าคณะกรรมาธิการไม่ได้มีการแก้กฎหมายเพื่อให้ชาวนาต้องติดคุก แต่แก้ให้ดีขึ้น ส่วนประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องห้ามไม่ให้เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองนั้น เป็นบทบัญญัติที่ห้ามเฉพาะกลุ่มนายทุนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นกลุ่มชาวนาที่ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการ และมีการเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้ หรือทำการแลกเปลี่ยนในเครือข่ายชาวนาด้วยกันนั้นไม่มีความผิด
โดยที่สำคัญ กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นการเอื้อนายทุนยักษ์ใหญ่ตามที่หลายฝ่ายกล่าวหา เพราะถ้าชาวนามีเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี ก็สามารถทำการซื้อ-ขายหรือแลกเปลี่ยนได้อย่างอิสระ เว้นแต่ชาวนาจะไปทำลักษณะผู้ประกอบการเพื่อค้ากำไรเสียเอง หากจะทำต้องขออนุญาตจากกรมการข้าวก่อน ดังนั้น ยืนยันได้ว่า สนช. ไม่ได้มีการแก้ไขข้อกฎหมายเพื่อปิดกั้นการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวแต่ประการใด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาร่างกฎหมายใกล้เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่คณะกรรมการตรวจร่างกฎหมายของสภา ก่อนที่จะประชุม สนช. เพื่อพิจารณาความเห็นชอบในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
