ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบ พรรคไทยรักษาชาติ อันขัดจากหลักที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องอยู่เหนือการเมือง พระบรมวงศานุวงศ์ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
![จาตุรนต์ ฉายแสง และ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ?]( "จาตุรนต์ ฉายแสง และ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ?")
![จาตุรนต์ ฉายแสง และ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ?]( "จาตุรนต์ ฉายแสง และ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ?")
วันที่ 7 มีนาคม 2562 วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของหน้าประวัติศาสตร์ไทย จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยเพื่อยุบพรรคไทยรักษาชาติ จากกรณีที่ทางพรรค ได้เสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
โดยเมื่อเวลา 13.47 น. ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ได้เดินทางไปเข้ารับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีโฆษกและคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการรณรงค์หาเสียง ที่เข้ามาร่วมรับฟังคำวินิจฉัยพร้อมหน้า โดยในตอนนี้ได้มีการยื่นเอกสารเพื่อตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกองทัพนักข่าว มาร่วมเฝ้าสังเกตการณ์ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินในเวลา 15.00 น.
รายงานระบุว่า ก่อนที่แกนนำของพรรคจะเดินทางไปศาลนั้น ได้มีเสียงเฮขึ้น 2 ครั้ง พร้อมกับท่อนหนึ่งจากเพลง ศรัทธา ของวง หิน เหล็ก ไฟ ที่ร้องว่า "ใจสู้หรือเปล่า"
14.42 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จากพรรคไทยรักษาชาติ เดินทางมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ
15.24 น. ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า แม้พรรคการเมืองจะมีสิทธิและเสรีภาพ แต่สิทธิและเสรีภาพดังกล่าว ต้องไม่มาย้อนทำลายหลักการพื้นฐาน และคุณค่าตามรัฐธรรมนูญ
15.26 น. ยุบพรรคไทยรักษาชาติ เนื่องจากมองว่า เป็นการล้มล้างระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในรัฐธรรมนูญ มีหมวดพระมหากษัตริย์เป็นการเฉพาะ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง อีกทั้ง พระมหากษัตริย์ทรงใช้อธิปไตย และทรงดำรงอยู่เหนือการเมือง พระมหากษัตริย์ พระราชโอรส พระราชธิดา ไม่เคยใช้สิทธิ์เลือกตั้ง หากให้พระบรมวงศานุวงศ์ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ย่อมก่อให้เกิดการขัดแย้งที่ทรงอยู่เหนือการเมือง
การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ ที่เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นแคนดิเดตนั้น ถือว่าส่งผลให้ระบอบการเมืองการปกครองเปลี่ยนเป็นระบอบที่พระมหาษัตริย์ใช้อำนาจบริหาร กลายเป็นการบ่อนทำลายและเสื่อมทรามระบอบการปกครองปัจจุบัน
การกระทำนั้น ถือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองของประเทศ ในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในรัฐธรรมนูญ มีหมวดพระมหากษัตริย์เป็นการเฉพาะ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง อีกทั้ง พระมหากษัตริย์ทรงใช้อธิปไตย และทรงดำรงอยู่เหนือการเมือง พระมหากษัตริย์ พระราชโอรส พระราชธิดา ไม่เคยใช้สิทธิ์เลือกตั้ง หากให้พระบรมวงศานุวงศ์ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ย่อมก่อให้เกิดการขัดแย้งที่ทรงอยู่เหนือการเมือง
การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ ที่เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นแคนดิเดตนั้น ถือว่าส่งผลให้ระบอบการเมืองการปกครองเปลี่ยนเป็นระบอบที่พระมหาษัตริย์ใช้อำนาจบริหาร กลายเป็นการบ่อนทำลายและเสื่อมทรามระบอบการปกครองปัจจุบัน
การกระทำนั้น ถือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองของประเทศ ในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
