คุมตัว อั๋น อดีตเวรเปลมือฆ่าพยาบาล ทำแผน ก้มกราบครอบครัวผู้ตายสำนึกผิด อ้างไม่ตั้งใจฆ่า โมโหยืมเงิน 3 พันไม่ให้ แถมยังมาด่าสั่งสอน
วันที่ 12 มีนาคม 2562 สปริงนิวส์ รายงานว่า ที่ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการแถลงข่าวจับกุม นายอั๋น ฟักศิริ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่านางศรีสุภางค์ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น แหวนทอง 2 สลึง 1 วง และรถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บล 3777 พระนครศรีอยุธยา กระเป๋าหนังคาดเอว สีดำ-แดง 1 ใบ โทรศัพท์มือถือสีดำ 1 เครื่อง และชุดในวันก่อเหตุ พร้อมนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนสถานที่จำลองเหตุการณ์ที่หน้า สภ.ภาชี โดยมีกลุ่มญาติของผู้ตายจำนวนหนึ่งเฝ้าร่วมสังเกตการณ์
พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ระบุว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 00.30 น. ผู้ตายได้ออกเวรจากห้องฉุกเฉิน และขับรถยนต์ออกจาก รพ.ภาชี ขณะที่จอดรถรอเลี้ยวซ้ายขึ้นถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าหนองแค นายอั๋น ผู้ต้องหา ที่จอดรถรออยู่ก็ได้เดินมาที่รถยนต์ของผู้ตายและขึ้นรถ จากนั้นรถยนต์ของผู้ตายก็ได้ขับขึ้นถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าไปทางหนองแค
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 01.10 น. รถของผู้ตายได้ขับมาจากทางสี่แยกภาชีผ่านหน้า รพ.ภาชี แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปจอดตรงซอยตรงข้าม รพ.ภาชี โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าผู้ต้องหาลงจากรถของผู้ตายฝั่งด้านคนขับ และเดินไปขึ้นรถกระบะของผู้ต้องหาที่จอดอยู่ตรงปากทางเข้า รพ.ภาชี และขับกลับไปที่บ้านผู้ต้องหาบริเวณวัดวิมลสุนทร แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านนึกขึ้นได้ว่าลืมคัตเตอร์ที่ใช้สังหารผู้ตายเอาไว้ในรถ จึงขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่รถผู้ตายอีกครั้งเพื่อเอาคัตเตอร์ พร้อมโยนกล้องหน้ารถของผู้ตายทิ้งระหว่างทางกลับบ้าน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดไปให้พยานดู ทั้งหมดยืนยันว่าชายในภาพวงจรปิดคือ นายอั๋น และรถในกล้องวงจรปิดคือรถของผู้ต้องหา จึงดำเนินการออกหมายจับและสามารถจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา ในบริเวณวัดลาดชิด จ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะที่ นายอั๋น ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยอ้างว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากการที่ผู้ตายไม่ยอมให้ยืมเงิน 3 พันบาท แถมยังด่าว่า จึงเกิดบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น หลังจากนั้นจึงนำสร้อยคอและแหวนของผู้ตายไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.เสนา เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย
โดยวันเกิดเหตุผู้ต้องหาตั้งใจจะไปยืมเงินคนชื่อตู่ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล แต่มาพบผู้ตายเสียก่อน จึงคิดว่าจะขอยืมเงินผู้ตายแทน เพราะรู้จักกันดี รวมถึงเคยยืมเงินกันมาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ เนื่องจากมีประชาชนมาเฝ้ารอดูจำนวนมาก เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย โดยเปลี่ยนมาทำแผนหน้าสถานีตำรวจภูธรภาชีแทน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, 
พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ระบุว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 00.30 น. ผู้ตายได้ออกเวรจากห้องฉุกเฉิน และขับรถยนต์ออกจาก รพ.ภาชี ขณะที่จอดรถรอเลี้ยวซ้ายขึ้นถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าหนองแค นายอั๋น ผู้ต้องหา ที่จอดรถรออยู่ก็ได้เดินมาที่รถยนต์ของผู้ตายและขึ้นรถ จากนั้นรถยนต์ของผู้ตายก็ได้ขับขึ้นถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าไปทางหนองแค
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 01.10 น. รถของผู้ตายได้ขับมาจากทางสี่แยกภาชีผ่านหน้า รพ.ภาชี แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปจอดตรงซอยตรงข้าม รพ.ภาชี โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าผู้ต้องหาลงจากรถของผู้ตายฝั่งด้านคนขับ และเดินไปขึ้นรถกระบะของผู้ต้องหาที่จอดอยู่ตรงปากทางเข้า รพ.ภาชี และขับกลับไปที่บ้านผู้ต้องหาบริเวณวัดวิมลสุนทร แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านนึกขึ้นได้ว่าลืมคัตเตอร์ที่ใช้สังหารผู้ตายเอาไว้ในรถ จึงขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่รถผู้ตายอีกครั้งเพื่อเอาคัตเตอร์ พร้อมโยนกล้องหน้ารถของผู้ตายทิ้งระหว่างทางกลับบ้าน
ภาพจาก สปริงนิวส์
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดไปให้พยานดู ทั้งหมดยืนยันว่าชายในภาพวงจรปิดคือ นายอั๋น และรถในกล้องวงจรปิดคือรถของผู้ต้องหา จึงดำเนินการออกหมายจับและสามารถจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา ในบริเวณวัดลาดชิด จ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะที่ นายอั๋น ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยอ้างว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากการที่ผู้ตายไม่ยอมให้ยืมเงิน 3 พันบาท แถมยังด่าว่า จึงเกิดบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น หลังจากนั้นจึงนำสร้อยคอและแหวนของผู้ตายไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.เสนา เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย
โดยวันเกิดเหตุผู้ต้องหาตั้งใจจะไปยืมเงินคนชื่อตู่ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล แต่มาพบผู้ตายเสียก่อน จึงคิดว่าจะขอยืมเงินผู้ตายแทน เพราะรู้จักกันดี รวมถึงเคยยืมเงินกันมาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ เนื่องจากมีประชาชนมาเฝ้ารอดูจำนวนมาก เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย โดยเปลี่ยนมาทำแผนหน้าสถานีตำรวจภูธรภาชีแทน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, 
