เซ็นทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางแยกราชประสงค์ เป็นพื้นที่สำคัญทางธุรกิจและเป็นจุดที่ใช้จัดกิจกรรมสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ มายาวนาน แต่อีกแง่มุมนั้นพบว่าห้างและบริเวณใกล้เคียงมีประวัติความสูญเสียมาหลายต่อหลายครั้ง จนถึงปัจจุบันเกิดเหตุไฟไหม้และมีผู้เสียชีวิตในปี 2562 โดยเหตุการณ์สำคัญในช่วงที่ผ่านมามีดังนี้
พ.ศ. 2553
- เกิดเหตุชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ จนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าสลายการชุมนุม จนทำให้แกนนำต้องประกาศยุติการชุมนุม และเข้ารายงานตัวกับตำรวจ หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุจลาจลขึ้นทั่วกรุงเทพมหานคร โดยพบว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ถูกวางเพลิงจนเสียหาย ไฟได้ทำลายตัวอาคารประมาณ 1 ใน 3
- ในระหว่างการซ่อมแซมนั้น ได้เกิดเหตุนั่งร้านที่ใช้ค้ำยันเพดานชั้น 7 ทรุดตัวลงและถล่มลงมา ส่งผลให้คนงานเสียชีวิต 2 คน และได้รับบาดเจ็บ 6 คน
พ.ศ. 2554
- เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้า ZEN ที่ยังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม จุดเกิดเหตุอยู่บนชั้น 11 ของอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาเพียง 15 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
พ.ศ. 2557
- วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557 คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กลุ่ม กปปส. ได้เริ่มปักหลักชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯ ตั้งเวทีใหญ่ที่แยกราชประสงค์ ส่งผลให้ห้างต้องประกาศปรับเวลาปิดให้เร็วขึ้น และปรับให้กระชั้นขึ้นอีกครั้งภายหลังที่เกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนจะกลับมาสู่สภาวะปกติเมื่อมีการยุติการชุมนุม
พ.ศ. 2558
- วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.55 น. เกิดเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน และบาดเจ็บ 130 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวซึ่งมาเยี่ยมชมศาลท้าวมหาพรหม โดยพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ
พ.ศ. 2562
- เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 10 เมษายน 2562 เกิดเหตุไฟไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 20 คน เบื้องต้นประเมินว่า จุดต้นเพลิงคือ ห้องปั๊มน้ำ ชั้นใต้ดิน B2 ก่อนกลุ่มควันจะถูกระบายไปตามช่องอากาศขึ้นไปยังชั้นต่าง ๆ จนไปถึงชั้น 8 ที่มีควันพวยพุ่งออกมา
อาถรรพ์ที่ดินตั้งแต่ครั้งอดีต
- เป็นที่พูดถึงกันว่าที่ดิน เซ็นทรัลเวิลด์ และบริเวณใกล้เคียง มีประวัติมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เดิมเป็นที่ตั้งของ "พระราชวังปทุมวัน" และ "วังเพ็ชรบูรณ์" เป็นที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2400 เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าฯ สิ้นพระชนม์ นักธุรกิจญี่ปุ่นได้ขอซื้อที่ดินบริเวณวังเพื่อก่อสร้างห้างไทยไดมารู ส่วนหนึ่งของโครงการศูนย์การค้าราชประสงค์
- ขณะที่วังเพ็ชรบูรณ์ ถูกนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ธนาคารเพื่อดำเนินธุรกิจสายการบินพาณิชย์ แอร์สยาม ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช ก่อนจะถูกธนาคารยึด ต่อมาสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้ซื้อที่ดินผืนนี้ไว้ จากนั้น บริษัท วังเพชรบูรณ์ จำกัด ได้เช่าที่ดินนี้เพื่อก่อสร้างห้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ แต่ประสบความล่าช้า และประสบปัญหาทางการเงิน จึงถูกบอกเลิกสัญญาเช่า โดยมีกลุ่มเซ็นทรัล ชนะการประมูลโครงการ จนกลายเป็นห้างเซ็นทรัลเวิลด์
- อาถรรพ์ของที่ดินผืนนี้นั้น นายไพศาล พืชมงคล ทนายความนักโหราศาสตร์ เล่าว่า ที่ดินของเซ็นทรัลเวิลด์ มีการสาปแช่งจากเจ้าของเก่า คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ที่ทรงไม่อยากให้ผู้ที่ได้ครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่ลูกหลาน จึงทำการสาปแช่งเอาไว้ว่า หากผู้ที่ครอบครองมิใช่ลูกหลานก็ให้ฉิบหาย แต่หากไปสร้างศาลเจ้าพ่อเสือในที่ดินแปลงหนึ่งที่รังสิต ก็จะยกเว้นไม่ต้องคำสาป
- อาจารย์วิศิษฐ์ เตชะเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยชื่อดังของไทย ก็มีการกล่าวถึงที่ดินที่แยกราชประสงค์ ที่ถูกเรียกขานว่า สี่แยกมหาเทพ เอาไว้ว่า ที่ตรงนั้นเคยเป็นทางแยกซึ่งส่วนใหญ่จะมีวิญญาณชั่วร้ายอาศัยอยู่เยอะ เมื่อก่อนโรงแรมเอราวัณก็ประสบปัญหามาก แต่หลังจากมีพระผู้ใหญ่ที่เป็นพราหมณ์แนะนำให้ตั้งศาลพระพรหม ทุกอย่างก็ค่อย ๆ ดีขึ้น โรงพยาบาลตำรวจก็ต้องมีการตั้งพระนารายณ์เพื่อคุ้มครอง ห้างไทยไดมารูในสมัยก่อนก็ต้องเจ๊งเพราะไปสร้างทับที่ดินของเจ้าในรัชกาลที่ 4 และสุดท้ายวังเพ็ชรบูรณ์ก็มีการสาปแช่งเอาไว้อีกมาก
อย่างไรก็ดี เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณที่ตั้งเซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ทางการเมือง และอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคนจะมองว่าเป็นอาถรรพ์หรือเป็นเหตุบังเอิญ ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณ
