เจ้าหน้าที่บุกตรวจวิลล่าหรูบนยอดเขาเกาะสมุย พบเจ้าของเป็นชาวเยอรมัน ไม่มีใบอนุญาตใด ๆ เผย โดนเจ้าหน้าที่แต่งชุดคล้ายทหารบุกขู่จ่ายสินบน 8 แสน แลกกับการก่อสร้างและเปิดแบบไม่มีปัญหา
วันที่ 26 เมษายน 2562 Workpoint News รายงานว่า พล.อ.ต. วันชัย บุญภักดี ที่ปรึกษา ผอ.รมน.ภาค 4 ร่วมกับ ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะสมุย พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบวิลล่าหรูบนภูเขาเฉวงน้อย ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะสมุย ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง ว่าถูกโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตมาเปิดแย่งลูกค้า เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบซึ่งเป็นวิลล่าหรูเปิดเป็นโรงแรมให้เช่าเป็นรายคืน ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชัน ค่าบริการ คืนละ 6,000 บาท ภายในวิลล่ามี 6 ห้องนอน ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าพัก โดยมีนายสมิท ออลริช (MR.SCHMIDT ULRICH) อายุ 47 ปี สัญชาติเยอรมัน แสดงตัวเป็นเจ้าของ
โดยเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารการจองห้องพัก ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม, ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และการแจ้งที่พักของคนต่างด้าว (แบบอ.1) รวมถึงการแจ้งคนต่างด้าวเข้าพักภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งนายสมิทไม่มีเอกสารใด ๆ มาแสดง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม
นายสมิท ให้การกับว่า เมื่อประมาณ 1 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่เดินทางไปประเทศเยอรมนี ผู้จัดการส่วนตัวแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายทหารเข้ามาตรวจสอบ ถ่ายรูปวิลล่าหลังนี้ ขณะกำลังก่อสร้างอยู่ พร้อมขอดูเอกสารก่อสร้าง แต่ตนไม่ได้ขออนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้ข่มขู่บอกให้หยุดสร้างและรื้อถอนออก แต่ถ้าอยากก่อสร้างให้เสร็จและไม่ถูกดำเนินคดี ต้องจ่ายเงินเรื่องทุกอย่างจะจบ ตนจึงตกลงแล้วโอนเงินให้ไปในจำนวน 800,850 บาท เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560 หลังจากนั้นก็ก่อสร้างจนเสร็จแล้วเปิดเป็นโรงแรมถึงทุกวันนี้
ด้านเจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้นายสมิท นำหลักฐานการโอนเงินพร้อมทนายเข้าแจ้งความ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว แต่ในส่วนที่พบความผิดก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย และต้องขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรมให้ถูกต้องเสียก่อน จึงค่อยเปิดดำเนินการได้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายสมิท ร่วมกันกระทำการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจ (โรงแรมและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม) ที่คนไทยไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าวตามที่กำหนดไว้ในบัญชีสาม (17),(19) และ เป็นเจ้าบ้าน เจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ดูแลเคหสถานหรือผู้จัดการโรงแรม ไม่แจ้งบุคคลต่างด้าวเข้าพักอาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 38 พร้อมสั่งระงับการใช้อาคารจะส่งเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครเกาะสมุยเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
![วิลล่าบนเกาะสมุย]( "วิลล่าบนเกาะสมุย")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 26 เมษายน 2562 Workpoint News รายงานว่า พล.อ.ต. วันชัย บุญภักดี ที่ปรึกษา ผอ.รมน.ภาค 4 ร่วมกับ ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะสมุย พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบวิลล่าหรูบนภูเขาเฉวงน้อย ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะสมุย ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง ว่าถูกโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตมาเปิดแย่งลูกค้า เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบซึ่งเป็นวิลล่าหรูเปิดเป็นโรงแรมให้เช่าเป็นรายคืน ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชัน ค่าบริการ คืนละ 6,000 บาท ภายในวิลล่ามี 6 ห้องนอน ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าพัก โดยมีนายสมิท ออลริช (MR.SCHMIDT ULRICH) อายุ 47 ปี สัญชาติเยอรมัน แสดงตัวเป็นเจ้าของ
โดยเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารการจองห้องพัก ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม, ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และการแจ้งที่พักของคนต่างด้าว (แบบอ.1) รวมถึงการแจ้งคนต่างด้าวเข้าพักภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งนายสมิทไม่มีเอกสารใด ๆ มาแสดง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม
นายสมิท ให้การกับว่า เมื่อประมาณ 1 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่เดินทางไปประเทศเยอรมนี ผู้จัดการส่วนตัวแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายทหารเข้ามาตรวจสอบ ถ่ายรูปวิลล่าหลังนี้ ขณะกำลังก่อสร้างอยู่ พร้อมขอดูเอกสารก่อสร้าง แต่ตนไม่ได้ขออนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้ข่มขู่บอกให้หยุดสร้างและรื้อถอนออก แต่ถ้าอยากก่อสร้างให้เสร็จและไม่ถูกดำเนินคดี ต้องจ่ายเงินเรื่องทุกอย่างจะจบ ตนจึงตกลงแล้วโอนเงินให้ไปในจำนวน 800,850 บาท เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560 หลังจากนั้นก็ก่อสร้างจนเสร็จแล้วเปิดเป็นโรงแรมถึงทุกวันนี้
ด้านเจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้นายสมิท นำหลักฐานการโอนเงินพร้อมทนายเข้าแจ้งความ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว แต่ในส่วนที่พบความผิดก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย และต้องขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรมให้ถูกต้องเสียก่อน จึงค่อยเปิดดำเนินการได้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายสมิท ร่วมกันกระทำการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจ (โรงแรมและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม) ที่คนไทยไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าวตามที่กำหนดไว้ในบัญชีสาม (17),(19) และ เป็นเจ้าบ้าน เจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ดูแลเคหสถานหรือผู้จัดการโรงแรม ไม่แจ้งบุคคลต่างด้าวเข้าพักอาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 38 พร้อมสั่งระงับการใช้อาคารจะส่งเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครเกาะสมุยเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
