เปิดเรื่องราวหญิงยูกันดา วัย 39 ปี ตั้งท้องแฝด 15 ครั้ง ทั้งแฝดสอง แฝดสาม และแฝดสี่ รวมลูก 44 คน แต่เหลือรอด 38 คน สุดท้ายสามีทิ้ง ชีวิตสุดลำบาก
สำหรับครอบครัวที่พร้อมและอยากมีลูกมาเป็นโซ่ทองคล้องใจแล้ว การเซอร์ไพรส์ได้ลูกแฝดน่าจะเป็นข่าวดีที่สร้างรอยยิ้มให้กับทั้งบ้าน ยิ่งถ้าเป็นแฝดชาย-หญิง แฝดสาม หรือแฝดสี่ คุณพ่อคุณแม่คงยิ่งแฮปปี้มากกว่าเดิมหลายเท่า อย่างไรก็ตาม การจะมีลูกแฝดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญตามธรรมชาติ หรือการทำเด็กหลอดแก้วก็ตาม และการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีลูกแฝดซ้ำ ก็คงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
แต่สำหรับหญิงวัย 39 ปี ที่ชื่อ มาเรียม นาบาทันซี นั้น การมีลูกแฝดมันดูเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับเธอ เพราะคุณแม่ลูกดกคนนี้ให้กำเนิดลูกแฝดติดต่อกันหลายครั้ง ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง แต่เธอมีลูกรวมกันทั้งหมดถึง 44 คน !
เรื่องราวชีวิตของคุณแม่ลูกดกคนนี้ ถูกนำมาเผยแพร่โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 โดยมาเรียมอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่รายล้อมด้วยไร่กาแฟ ทางตอนเหนือของกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของยูกันดา ชีวิตของมาเรียมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอเกิดในครอบครัวที่ยากจนมาก แม่ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็กทารก พ่อต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงดูลูก ๆ ทั้ง 6 คน ตามลำพัง
ต่อมาพ่อของมาเรียมได้แต่งงานใหม่ตอนที่เธออายุ 7 ขวบ แม่เลี้ยงคนนี้เป็นหญิงจิตใจโหดเหี้ยม และแอบเอาเศษแก้วผสมในอาหารเพื่อฆ่าลูกเลี้ยง พี่ ๆ ทั้ง 5 คนของมาเรียมเสียชีวิตทั้งหมด แต่เคราะห์ดีที่เธอไปอยู่บ้านญาติในช่วงเกิดเหตุ เธอจึงเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้
เมื่อมาเรียมโตขึ้น เธอก็ประสบพบเจอกับสิ่งที่ผู้หญิงแอฟริกันส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือก นั่นคือการต้องแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย เธอกลายเป็นเจ้าสาวตั้งแต่ตอนอายุแค่ 12 ปี และตั้งครรภ์ไม่นานหลังจากนั้น เมื่อเวลาผ่านไป 9 เดือน มาเรียมก็คลอดลูกออกมาเป็นฝาแฝด
หลังจากคลอดลูกครั้งแรก มาเรียมก็เดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และในตอนนั้นเอง เธอก็พบว่าร่างกายของตัวเองมีความผิดปกติบางอย่าง โดยแพทย์บอกเธอว่ามดลูกของเธอมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่แบบผิดปกติ พร้อมกับเตือนว่าการกินยาคุมกำเนิดสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อร่างกายของเธอ
ตามปกติแล้ว คนแอฟริกันมักจะมีลูกมาก เฉลี่ยแล้วประมาณ 5 คนต่อครอบครัว แต่กรณีของมาเรียมนับว่าแตกต่างไปจากปกติหลายเท่าตัว เพราะหลังจากที่คลอดลูกแฝดครั้งแรก มาเรียมก็ตั้งครรภ์อีก และลูกก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นลูกแฝดทั้งหมด มาเรียมตั้งครรภ์มาแล้ว 15 ครั้ง เป็นแฝดสอง 6 ครั้ง แฝดสาม 4 ครั้ง และตั้งครรภ์แฝดสี่อีก 5 ครั้ง รวมจำนวนลูกทั้งหมด 44 คน แต่เหลือมีชีวิตรอดมาถึงปัจจุบัน 38 คน
การมีลูกจำนวนมากถึง 38 คน ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของมาเรียมเป็นอย่างยิ่ง และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ สามีของเธอแทบไม่เคยเหลียวแลครอบครัว เขาไม่เคยทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว มักจะหายตัวไปเป็นเวลานาน จนกระทั่งล่าสุด เขาก็ได้ทิ้งมาเรียมไป และไม่กลับมาอีก ปล่อยให้เธอเลี้ยงดูลูกทั้งหมดตามลำพัง โดยทั้ง 39 ชีวิตอาศัยอยู่ด้วยกันบนที่ดินของครอบครัว กระจายกันนอนในบ้านปูนเล็ก ๆ 4 หลัง ซึ่งก็ต้องอยู่กันอย่างเบียดเสียด
"ฉันเติบโตมากับคราบน้ำตา สามีสร้างความทุกข์มากมายให้กับชีวิตของฉัน เวลาในแต่ละวันของฉันหมดไปกับการเลี้ยงดูลูก ไหนจะต้องออกไปทำงานอีก" มาเรียม กล่าวถึงชีวิตของเธอด้วยน้ำตาคลอ
ด้วยความที่สถานะครอบครัวลำบากมาก มาเรียมจึงต้องทำทุกอย่างเท่าที่สองมือของเธอทำได้ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูปากท้องของครอบครัว ตั้งแต่เป็นช่างตัดผม ทำงานตกแต่งสถานที่จัดเลี้ยงต่าง ๆ เก็บเศษเหล็กขาย และหมักยาดองเหล้าสมุนไพรขาย เงินที่ได้มาทั้งหมดก็ต้องแบ่งสรรปันส่วนใช้ ทั้งเป็นค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสื้อผ้า รวมทั้งค่าเทอมของเด็ก ๆ ซึ่งก็ไม่พอเหลือใช้
"แม้ว่าพวกเราจะช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่ในสิ่งที่พวกเราทำได้ อย่างหุงหาอาหาร หรือล้างจาน ซักผ้า แต่แม่ก็ต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อครอบครัว แม่ต้องเหนื่อยสาหัสมาก งานเยอะท่วมหัว ล้นมือไปหมด ผมสงสารแม่มาก ๆ" อีวาน คิบูกา ลูกชายคนโต วัย 23 ปี กล่าว
อย่างไรก็ตาม โชคดีของมาเรียมที่ลูก ๆ หลายคนของเธอเป็นเด็กดี ทั้งช่วยทำงานบ้าน ช่วยหาเงิน และคนที่โตแล้วก็ช่วยดูแลน้อง ๆ แม้ว่า อีวาน อิบูกา ลูกชายคนโต วัย 23 ปี จะต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะครอบครัวไม่มีเงินส่ง แต่น้อง ๆ ของเขาก็ตั้งใจเรียน บางคนตั้งใจเรียนมาก จบการศึกษาด้วยผลการเรียนที่ดีและได้เหรียญทองเป็นเกียรติ มาเรียมก็แขวนภาพแห่งความภาคภูมิใจนั้นไว้กลางฝาผนังบ้านเล็ก ๆ ของเธอ
สำหรับครอบครัวที่พร้อมและอยากมีลูกมาเป็นโซ่ทองคล้องใจแล้ว การเซอร์ไพรส์ได้ลูกแฝดน่าจะเป็นข่าวดีที่สร้างรอยยิ้มให้กับทั้งบ้าน ยิ่งถ้าเป็นแฝดชาย-หญิง แฝดสาม หรือแฝดสี่ คุณพ่อคุณแม่คงยิ่งแฮปปี้มากกว่าเดิมหลายเท่า อย่างไรก็ตาม การจะมีลูกแฝดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญตามธรรมชาติ หรือการทำเด็กหลอดแก้วก็ตาม และการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีลูกแฝดซ้ำ ก็คงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
แต่สำหรับหญิงวัย 39 ปี ที่ชื่อ มาเรียม นาบาทันซี นั้น การมีลูกแฝดมันดูเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับเธอ เพราะคุณแม่ลูกดกคนนี้ให้กำเนิดลูกแฝดติดต่อกันหลายครั้ง ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง แต่เธอมีลูกรวมกันทั้งหมดถึง 44 คน !
เรื่องราวชีวิตของคุณแม่ลูกดกคนนี้ ถูกนำมาเผยแพร่โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 โดยมาเรียมอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่รายล้อมด้วยไร่กาแฟ ทางตอนเหนือของกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของยูกันดา ชีวิตของมาเรียมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอเกิดในครอบครัวที่ยากจนมาก แม่ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็กทารก พ่อต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงดูลูก ๆ ทั้ง 6 คน ตามลำพัง
ต่อมาพ่อของมาเรียมได้แต่งงานใหม่ตอนที่เธออายุ 7 ขวบ แม่เลี้ยงคนนี้เป็นหญิงจิตใจโหดเหี้ยม และแอบเอาเศษแก้วผสมในอาหารเพื่อฆ่าลูกเลี้ยง พี่ ๆ ทั้ง 5 คนของมาเรียมเสียชีวิตทั้งหมด แต่เคราะห์ดีที่เธอไปอยู่บ้านญาติในช่วงเกิดเหตุ เธอจึงเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้
เมื่อมาเรียมโตขึ้น เธอก็ประสบพบเจอกับสิ่งที่ผู้หญิงแอฟริกันส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือก นั่นคือการต้องแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย เธอกลายเป็นเจ้าสาวตั้งแต่ตอนอายุแค่ 12 ปี และตั้งครรภ์ไม่นานหลังจากนั้น เมื่อเวลาผ่านไป 9 เดือน มาเรียมก็คลอดลูกออกมาเป็นฝาแฝด
หลังจากคลอดลูกครั้งแรก มาเรียมก็เดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และในตอนนั้นเอง เธอก็พบว่าร่างกายของตัวเองมีความผิดปกติบางอย่าง โดยแพทย์บอกเธอว่ามดลูกของเธอมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่แบบผิดปกติ พร้อมกับเตือนว่าการกินยาคุมกำเนิดสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อร่างกายของเธอ
ตามปกติแล้ว คนแอฟริกันมักจะมีลูกมาก เฉลี่ยแล้วประมาณ 5 คนต่อครอบครัว แต่กรณีของมาเรียมนับว่าแตกต่างไปจากปกติหลายเท่าตัว เพราะหลังจากที่คลอดลูกแฝดครั้งแรก มาเรียมก็ตั้งครรภ์อีก และลูกก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นลูกแฝดทั้งหมด มาเรียมตั้งครรภ์มาแล้ว 15 ครั้ง เป็นแฝดสอง 6 ครั้ง แฝดสาม 4 ครั้ง และตั้งครรภ์แฝดสี่อีก 5 ครั้ง รวมจำนวนลูกทั้งหมด 44 คน แต่เหลือมีชีวิตรอดมาถึงปัจจุบัน 38 คน
การมีลูกจำนวนมากถึง 38 คน ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของมาเรียมเป็นอย่างยิ่ง และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ สามีของเธอแทบไม่เคยเหลียวแลครอบครัว เขาไม่เคยทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว มักจะหายตัวไปเป็นเวลานาน จนกระทั่งล่าสุด เขาก็ได้ทิ้งมาเรียมไป และไม่กลับมาอีก ปล่อยให้เธอเลี้ยงดูลูกทั้งหมดตามลำพัง โดยทั้ง 39 ชีวิตอาศัยอยู่ด้วยกันบนที่ดินของครอบครัว กระจายกันนอนในบ้านปูนเล็ก ๆ 4 หลัง ซึ่งก็ต้องอยู่กันอย่างเบียดเสียด
"ฉันเติบโตมากับคราบน้ำตา สามีสร้างความทุกข์มากมายให้กับชีวิตของฉัน เวลาในแต่ละวันของฉันหมดไปกับการเลี้ยงดูลูก ไหนจะต้องออกไปทำงานอีก" มาเรียม กล่าวถึงชีวิตของเธอด้วยน้ำตาคลอ
ด้วยความที่สถานะครอบครัวลำบากมาก มาเรียมจึงต้องทำทุกอย่างเท่าที่สองมือของเธอทำได้ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูปากท้องของครอบครัว ตั้งแต่เป็นช่างตัดผม ทำงานตกแต่งสถานที่จัดเลี้ยงต่าง ๆ เก็บเศษเหล็กขาย และหมักยาดองเหล้าสมุนไพรขาย เงินที่ได้มาทั้งหมดก็ต้องแบ่งสรรปันส่วนใช้ ทั้งเป็นค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสื้อผ้า รวมทั้งค่าเทอมของเด็ก ๆ ซึ่งก็ไม่พอเหลือใช้
"แม้ว่าพวกเราจะช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่ในสิ่งที่พวกเราทำได้ อย่างหุงหาอาหาร หรือล้างจาน ซักผ้า แต่แม่ก็ต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อครอบครัว แม่ต้องเหนื่อยสาหัสมาก งานเยอะท่วมหัว ล้นมือไปหมด ผมสงสารแม่มาก ๆ" อีวาน คิบูกา ลูกชายคนโต วัย 23 ปี กล่าว
อย่างไรก็ตาม โชคดีของมาเรียมที่ลูก ๆ หลายคนของเธอเป็นเด็กดี ทั้งช่วยทำงานบ้าน ช่วยหาเงิน และคนที่โตแล้วก็ช่วยดูแลน้อง ๆ แม้ว่า อีวาน อิบูกา ลูกชายคนโต วัย 23 ปี จะต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะครอบครัวไม่มีเงินส่ง แต่น้อง ๆ ของเขาก็ตั้งใจเรียน บางคนตั้งใจเรียนมาก จบการศึกษาด้วยผลการเรียนที่ดีและได้เหรียญทองเป็นเกียรติ มาเรียมก็แขวนภาพแห่งความภาคภูมิใจนั้นไว้กลางฝาผนังบ้านเล็ก ๆ ของเธอ
แม้ว่าชีวิตของมาเรียมจะยากลำบากมาก แต่เธอก็ไม่ทอดทิ้งลูก ๆ เธอกล่าวว่า ตัวเธอเองลำบากมากมาตั้งแต่เล็ก ไม่เคยได้มีความสุขมาตั้งแต่เกิด เธอจึงพยายามทำให้ลูก ๆ ได้มีชีวิตที่ดีที่สุด และหวังว่าชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้นกว่านี้ในอนาคต
