พรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่อดราม่า ส.ส. ในพรรคซัดกันเอง บอกมิ่งขวัญ ลาออกจาก ส.ส. ด้วย

             พรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่อเค้าดราม่า หลัง ส.ส. ในพรรคซัดกรณี มิ่งขวัญ ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ชี้เป็นการกระทำที่ไม่สง่างาม ลั่นควรจะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ไปด้วยเลย
             จากกรณี มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้ฝ่ายบริหารพรรคเข้ามาทำหน้าที่ต่อ แต่ยังคงสถานะเป็นสมาชิกพรรค และ ส.ส. ตามเดิมนั้น (อ่านข่าว : มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ แต่ยังยึดคำมั่นเดิม)

             เกี่ยวกับเรื่องนี้ (23 พฤษภาคม 2562) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายอังกฤษฎา ราวินิช ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดอุดรธานี พรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้เดินทางมาขอคำปรึกษาทางกฎหมาย และขอความเป็นธรรมที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีถูกกรรมการบริหารพรรคหลอกลวง โดยการสัญญาว่าจะให้เงินสนับสนุนในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่เมื่อเสร็จสิ้น และทางพรรคได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 6 คน จาก 480,000 คะแนน กลับถูกทางพรรคบ่ายเบี่ยง ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

             โดย นายอังกฤษฎา เปิดเผยว่า ผู้สมัครลงทุนหาเสียงไปคนละ 2 แสน ถึง 2 ล้านบาท ทำให้ผู้สมัครของพรรคเกิดความเครียดจนอยากฆ่าตัวตาย เพราะปัญหาหนี้สินรุมเร้า ซึ่งมีผู้สมัครเสียชีวิตไปแล้ว 2 คน เนื่องจากความเครียด แต่เมื่อติดต่อไปก็ถูกทางพรรคกีดกัน ไม่ให้เข้าร่วมประชุม และต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง
             ส่วนกรณีที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค นายอังกฤษฎา กล่าวว่า ตนไม่ทราบเหตุผลว่ามาจากปัญหาค่าใช้จ่ายจากการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ พูดได้เพียงว่าเป็นการกระทำที่ไม่สง่างาม ควรจะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ไปเลย โดยพวกตนไม่ได้มาก่อม็อบร้องยุบพรรค แต่มาเพื่อวิงวอนขอความเป็นธรรม หากพรรคไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้สมัครที่เปรียบเสมือนคนในบ้านหลังเดียวกันได้ พวกเขาต้องมีหนี้สินเพื่อนำเงินมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ถ้าพรรคแก้ปัญหาเล็กไม่ได้ ก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติได้ ดังนั้น ผู้สมัครของพรรคจึงต้องรวมตัวกันเพื่อร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ กกต. ช่วยขจัดเหลือบทางการเมือง

             นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้สมัครพรรคเศรษฐกิจใหม่ยังได้นำภาพการสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ระหว่างผู้บริหารพรรคกับผู้สมัคร ส.ส.เขต เพื่อยืนยันให้เห็นว่า ทางพรรครับปากว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายให้กับผู้สมัครที่ได้คะแนนตั้งแต่ 500 คะแนนขึ้นไป และจะประเมินจ่ายตามเกรดของบุคคลที่ลงสมัคร รวมทั้งกำหนดให้ผู้สมัครติด GPS ที่รถหาเสียง เพื่อตรวจสอบว่ามีการลงพื้นที่จริงหรือไม่

             ทั้งนี้ ผู้สมัครหลายคนต้องไปกู้ยืมหนี้นอกระบบ และนำทรัพย์สินไปจำนำเพื่อนำเงินมาสำรองจ่ายค่าหาเสียง ทำให้หลังเลือกตั้ง ทางผู้สมัครต้องแบกภาระค่าดอกเบี้ยเดือนละ 2 หมื่นบาท

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก