เสี่ยเบนซ์เมาขับชนตำรวจดับ จ่ายเยียวยาครอบครัวเหยื่อ 45 ล้าน-เลิกดื่มเหล้า

          เสี่ยเบนซ์เมาแล้วขับชนตำรวจ-ภรรยาเสียชีวิต ชดใช้จ่ายเยียวยาครอบครัวรวม 45 ล้าน ทนายเผยเสี่ยรู้สึกผิด เลิกดื่มเหล้า-เลิกขับรถ ด้านแม่ตำรวจเชื่อลูกให้อภัย
          จากกรณี นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ วัย 57 ปี เสี่ยใหญ่เจ้าของโรงงาน เมาแล้วขับรถเบนซ์ ชนรถซูซูกิ สวิฟท์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ท. จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก.(สอบสวน) กองกำกับการ 2 กองปราบปราม และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยา เสียชีวิต ส่วนลูกสาววัย 12 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส

          โดย นายวีรวุฒิ บำรุงใจ ทนายความ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทางครอบครัวนายสมชาย ยืนยันว่าจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด รวมทั้งค่าเลี้ยงดูบุตรสาวทั้ง 2 คน ของผู้เสียชีวิต ซึ่งได้ข้อสรุปต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า นายสมชาย จะดูแลค่าไร้อุปการะให้กับมารดาของ พ.ต.ท. จตุพร เป็นเงิน 2.5 ล้านบาท และให้ทางครอบครัวของนางนุชนาถอีก 2.5 ล้านบาท ส่วนลูกสาวทั้ง 2 คน จะมีการมอบเงินให้อีกจำนวนหนึ่ง โดย น.ส.ศุภาพิชญ์ อายุ 16 ปี และ ด.ญ.พิชญาภา อายุ 12 ปี  จะได้เงินคนละ 15 ล้านบาท แต่เนื่องจากทั้งคู่เป็นเยาวชนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตนจะยื่นเรื่องต่อศาลเยาวชนฯ ให้เป็นผู้กำหนดคนดูแลจัดการทรัพย์สินทั้งหมด จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ และจะโอนเงินให้ทันที
          นายวีรวุฒิ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้นายสมชายยังรู้สึกผิด ยังทำบุญให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ทุกวัน นายสมชายดูแลครอบครัวนี้อย่างดีที่สุด ตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาล ด.ญ.พิชญาภา ประมาณ 1.5 ล้าน ซื้อรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง ให้ 1 คัน ดูแลเรื่องหนี้สินในบัตรเครดิตให้ทั้งหมด ให้ญาติทั้ง 2 ฝ่าย 5 ล้านบาท ค่าดูแลเด็กอีกคนละ 15 ล้านบาท และอื่น ๆ อีกรวมแล้วเกือบ 45 ล้านบาท หากลูกสาวทั้ง 2 คน ต้องการจะทำงานที่บริษัทของนายสมชาย ก็พร้อมที่จะรับเข้าทำงานทันที ทุกวันนี้นายสมชายเลิกดื่มเหล้าหันมาดื่มกาแฟ เลิกขับรถ แต่มีคนขับรถ อยากให้เรื่องนี้จบแบบทุกฝ่ายพอใจมากที่สุด
          ด้านมารดาของ พ.ต.ท. จตุพร กล่าวว่า ลูกชายตนมีนิสัยชอบให้อภัยคน ตนเชื่อว่าลูกชายก็ต้องให้อภัยนายสมชายอย่างแน่นอน และถ้าขึ้นศาล ก็จะแถลงศาลว่าไม่ติดใจใด ๆ ให้ด้วย 

          ทั้งนี้ ร.ต.อ. พิทักษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจส่งฟ้องนายสมชายทั้งหมด 5 ข้อหาตามเดิม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สั่งฟ้องสาเหตุที่ล่าช้า เพราะเพิ่งสอบ ด.ญ.พิชญาภา แล้วเสร็จ ในส่วนของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงและพอใจกันตรงไหน ก็ต้องลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าเจ้าพนักงาน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก