สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เผยผลตรวจบัตรพลังงาน พบค่าระดับรังสีสูงกว่าขีดจำกัด 350 เท่า แนะหลีกเลี่ยงครอบครอง เตรียมหาหลักฐานดำเนินคดีบริษัทผู้จำหน่าย
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 17 มิถุนายน 2562 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจการ์ดพลังงานอย่างละเอียด พบระดับรังสีของแผ่นการ์ดสูงกว่าค่าขีดจำกัดการได้รับปริมาณรังสีสำหรับประชาชนทั่วไป 350 เท่า หากนำไปผสมน้ำดื่ม มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง โดยได้ผลการวิเคราะห์ ดังนี้
1. ไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีที่วัสดุห่อหุ้มและพื้นผิวของแผ่นการ์ด สำหรับการ์ดตัวอย่างที่สมบูรณ์ไม่แตกหัก
2. การวัดธาตุองค์ประกอบของแผ่นการ์ดด้วยเทคนิคการเรืองรังสีเอ็กซ์ (X-ray Fluorescence: XRF) พบธาตุยูเรเนียมและทอเรียม
3. การวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในแผ่นการ์ดด้วยระบบวิเคราะห์ Gamma Spectroscopy พบนิวไคลด์กัมมันตรังสีของอนุกรมทอเรียมและยูเรเนียม
4. การวัดค่าระดับรังสี (Dose rate) เทียบกับค่ารังสีพื้นหลัง พบว่า ระดับรังสีของแผ่นการ์ดสูงกว่าระดับรังสีพื้นหลัง ประมาณ 200 เท่า ที่ระยะห่างจากแผ่นการ์ด 1 เซนติเมตร ซึ่งระดับรังสีที่วัดได้อยู่ที่ประมาณ 40 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง หรือเทียบเป็น 350 เท่าของขีดจำกัดการได้รับปริมาณรังสีสำหรับประชาชนทั่วไปในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงความปลอดภัยทางรังสี พ.ศ. 2561
5. การวัดค่าการกระจายตัวของสารกัมมันตรังสีในแผ่นการ์ด ด้วยเทคนิค Imaging Plate พบว่าสารกัมมันตรังสีกระจายอยู่ทั่วทั้งแผ่นการ์ดอย่างสม่ำเสมอ
6. การถ่ายภาพเพื่อดูลักษณะภายในของแผ่นการ์ดด้วยรังสีเอ็กซ์ ไม่พบชิ้นส่วนอื่นใดประกอบอยู่ภายในแผ่นการ์ด
ภาพจาก สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
จากกรณีที่มีชาวบ้านซื้อบัตรพลังงาน เพื่อรักษาโรค
อ้างว่ามีสรรพคุณในการรักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และอื่น ๆ
โดยการใช้บัตรแตะบริเวณที่ปวด หรือนำแก้วน้ำไปวางบนบัตร
หรือนำบัตรจุ่มน้ำคนไป-มา แล้วนำมาดื่ม
ซึ่งอ้างว่าสามารถช่วยให้อาการปวดทุเลาลงได้ โดยพบว่าขายในราคาใบละ
1,100-1,500 บาท ก่อนจะมีการออกมาพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องเกินจริง ขณะที่ รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด ได้เผยผลการตรวจเบื้องต้น
พบว่าบัตรดังกล่าวมีกัมมันตภาพรังสี และโลหะหนักปะปนด้วยนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 17 มิถุนายน 2562 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจการ์ดพลังงานอย่างละเอียด พบระดับรังสีของแผ่นการ์ดสูงกว่าค่าขีดจำกัดการได้รับปริมาณรังสีสำหรับประชาชนทั่วไป 350 เท่า หากนำไปผสมน้ำดื่ม มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง โดยได้ผลการวิเคราะห์ ดังนี้
2. การวัดธาตุองค์ประกอบของแผ่นการ์ดด้วยเทคนิคการเรืองรังสีเอ็กซ์ (X-ray Fluorescence: XRF) พบธาตุยูเรเนียมและทอเรียม
3. การวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในแผ่นการ์ดด้วยระบบวิเคราะห์ Gamma Spectroscopy พบนิวไคลด์กัมมันตรังสีของอนุกรมทอเรียมและยูเรเนียม
4. การวัดค่าระดับรังสี (Dose rate) เทียบกับค่ารังสีพื้นหลัง พบว่า ระดับรังสีของแผ่นการ์ดสูงกว่าระดับรังสีพื้นหลัง ประมาณ 200 เท่า ที่ระยะห่างจากแผ่นการ์ด 1 เซนติเมตร ซึ่งระดับรังสีที่วัดได้อยู่ที่ประมาณ 40 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง หรือเทียบเป็น 350 เท่าของขีดจำกัดการได้รับปริมาณรังสีสำหรับประชาชนทั่วไปในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงความปลอดภัยทางรังสี พ.ศ. 2561
5. การวัดค่าการกระจายตัวของสารกัมมันตรังสีในแผ่นการ์ด ด้วยเทคนิค Imaging Plate พบว่าสารกัมมันตรังสีกระจายอยู่ทั่วทั้งแผ่นการ์ดอย่างสม่ำเสมอ
6. การถ่ายภาพเพื่อดูลักษณะภายในของแผ่นการ์ดด้วยรังสีเอ็กซ์ ไม่พบชิ้นส่วนอื่นใดประกอบอยู่ภายในแผ่นการ์ด
ทั้งนี้ หากยูเรเนียมและทอเรียมเข้าสู่ร่างกายจะก่อให้เกิดการแผ่รังสีต่ออวัยวะภายใน
และเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ปส.
เตรียมวิเคราะห์การปนเปื้อนของวัสดุกัมมันตรังสีเมื่อนำแผ่นการ์ดแช่ในน้ำในลำดับต่อไป
และเมื่อมีข้อมูลครบถ้วน ปส. อาจดำเนินคดีกับบริษัทผู้จำหน่ายต่อไป
จึงแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการครอบครองและใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของวัสดุกัมมันตรังสี
วัสดุนิวเคลียร์ หรือวัตถุอันตรายดังกล่าว
เพราะนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์หรือความคุ้มค่าแล้ว
อาจได้รับรังสีโดยไม่จำเป็น
ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าระดับรังสีที่มีอยู่ตามธรรมชาติทั่วไป
ภาพจาก สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
ภาพจาก สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
ภาพจาก สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก