น้องชาย แจงถูกนำชื่อไปอ้าง เป็นเจ้าของวินอริพี่ชายตัวเอง จนเกิดศึกวินตีกันกลางเมือง รับไม่ถูกกันจริงกับพี่ชาย แต่ไม่เคยทำร้ายครอบครัว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า นายพร้อมพงศ์ วิเชียรดิลกกุล น้องชายนายประมุข กล่าวว่า เรื่องที่มีกระแสข่าวว่าตนเป็นเจ้าของวินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นฝั่งวินคู่อริของพี่ชายนั้นไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ารู้จักเด็กในวิน สามารถพูดคุยกันได้หมด ก่อนหน้านี้ก็มีปัญหากับพี่ชายเรื่องนี้ เพราะมีคนมาบอกว่าวินดังกล่าวเป็นวินของตน ซึ่งตนก็ยืนยันไปว่าไม่ใช่ ทั้งยังให้พ่อกับแม่มาช่วยไกล่เกลี่ยให้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นนานแล้ว

ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
จากกรณีวินมอเตอร์ไซค์ 2 กลุ่ม ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณย่านอุดมสุข กรุงเทพฯ
เป็นเหตุให้มีกระสุนยิงเข้าที่บริเวณเหนือคิ้วขวาของนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ
อายุ 20 ปี เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
หลังจากที่ฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่ร่วมก่อเหตุ ได้ผู้ต้องหาแล้ว 6 คน
และยังมีผู้ที่ถูกออกหมายจับ 2 คน คือ นายวันชัย มงคลเข็ม และนายประมุข
วิเชียรดิลกกุล หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ซอยอุดมสุข 1 อยู่ระหว่างหลบหนี
ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : วินมอเตอร์ไซค์ ป่าเถื่อน
ยกพวกไล่ยิงกันแย่งลูกค้า หนุ่มเคอรี่โดนลูกหลงดับสลด)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า นายพร้อมพงศ์ วิเชียรดิลกกุล น้องชายนายประมุข กล่าวว่า เรื่องที่มีกระแสข่าวว่าตนเป็นเจ้าของวินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นฝั่งวินคู่อริของพี่ชายนั้นไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ารู้จักเด็กในวิน สามารถพูดคุยกันได้หมด ก่อนหน้านี้ก็มีปัญหากับพี่ชายเรื่องนี้ เพราะมีคนมาบอกว่าวินดังกล่าวเป็นวินของตน ซึ่งตนก็ยืนยันไปว่าไม่ใช่ ทั้งยังให้พ่อกับแม่มาช่วยไกล่เกลี่ยให้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นนานแล้ว
นายพร้อมพงศ์
กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าตนค่อนข้างมีชื่อเสียงจึงอาจมีคนเอาไปแอบอ้าง
เพื่อป้องกันตัวในการเปิดวินได้สะดวก และจะได้ไม่มีใครกล้ายุ่ง
ตนก็เคยไปถามเด็กขี่วินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ว่าใครเป็นคนพูด
ก็ไม่มีใครยอมรับ ปัจจุบันตนมีวินที่ตัวเองดูแลอยู่ และไม่เกี่ยวกับ 2
วินที่ก่อเหตุทะเลาะกัน โดยวินของตนนั้นจะดูแลกันเองแบบพี่น้อง
พร้อมทั้งมองว่าหากมีคนดูแล มีการกำหนดค่าโดยสารอย่างถูกต้องชัดเจน
ก็คงไม่มีปัญหาบาดหมางกันเช่นนี้
ซึ่งวินของตนคนขี่จะเก็บเงินค่าส่วนกลางกันเอง ตนไม่ได้เรียกเก็บ

ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ส่วนของวินนายประมุขนั้น ตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว
และไม่รู้รายละเอียดเรื่องที่มีการเรียกเก็บเงินหัวละ 3,500 บาท
ทราบเพียงว่าทั้ง 2 วินนั้นมีปัญหากันมานานแล้ว
แต่ไม่คิดว่าจะบานปลายใหญ่โตเช่นนี้ ตนในฐานะที่รู้จักทั้ง 2
ฝ่ายก็เคยห้ามไปแล้ว 1 ครั้ง ขอให้ต่างคนต่างทำมาหากิน ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนกับพี่ชายมีปัญหากันตามประสาผู้ชาย และไม่เคยคุยกันมากว่า 10 ปีแล้ว
ตนยอมรับว่าไม่ถูกกับพี่ชายจริง แต่ไม่ได้ให้ใครไปตีพี่ชาย
เพราะถูกสอนมาให้รักครอบครัว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก