ศรีสุวรรณ เตรียมพาชาวอยุธยาร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบและสั่งย้ายอธิบดีกรมศิลป์ฯ-ผอ.อุทยานฯ อยุธยา ปมตัดหัวเสาตะลุง เพนียดคล้องช้าง
วันที่ 21 กรกฎาคม 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีที่กรมศิลป์ฯ
บูรณะอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซ่อมแซมเพนียดคล้องช้าง
จ.พระนครศรีอยุธยา มีการตัดหัวเสาตะลุง หรือที่เรียกว่า ปีกกา ออกทั้งหมด
ซึ่งไม่เป็นไปตามรูปแบบทางประวัติศาสตร์
ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนตามกฎหมาย
และใช้งบประมาณในการดำเนินการส่อไปในทางทุจริตนั้น
การกระทำดังกล่าว อาจชี้ได้ว่าเป็นการบิดเบือนและทำลายรากฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชาวอยุธยาไม่อาจที่จะยอมรับได้ เพราะที่ผ่านมา มีการบูรณะซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้ง ทางผู้รับเหมาได้สร้างตามหลักฐานที่เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปคือ เสาตะลุงที่หลงเหลืออยู่เดิมมีหัวมัณฑ์ หรือหัวบัว กรมศิลปากรจึงได้ทำการซ่อมแซมทั้งด้านนอกด้านใน และซ่อมต่อเนื่องกันมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไปเชื่อเพียงแค่รูปถ่ายเพนียดคล้องช้างชั่วคราวของฝรั่งเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้วเท่านั้น โดยไม่ดูบริบททางประวัติศาสตร์และความเชื่อที่แท้จริง นอกจากนั้นยังพบว่ามีการนำไม้เสาตะลุงเดิมมาปะผุแซมกับไม้ใหม่อย่างผิดสังเกต ทั้ง ๆ ที่มีการใช้งบประมาณสูงถึง 35.8 ล้านบาท
แม้เรื่องดังกล่าวชาวอยุธยาจะได้แสดงออกโดยการร่วมลงชื่อกันนับหมื่นรายชื่อเพื่อเสนอให้ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
และอธิบดีกรมศิลปากร ได้ทบทวนการบูรณะให้เป็นไปตามอัตลักษณ์ที่แท้จริงแล้วก็ตาม
แต่ก็หาได้รับการทบทวนหรือใส่ใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่
เหตุดังกล่าวสมาคมและชาวอยุธยาจึงไม่อาจปล่อยให้กรมศิลปากรใช้อำนาจโดยไม่ฟังเสียงประชาชนต่อไปได้ จึงจะนำหลักฐานทั้งหมดไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ใช้อำนาจตาม ม.230 (2) ในการแสวงหาข้อเท็จจริง และสอบอธิบดีกรมศิลปากรและผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อแจ้งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งปลดหรือย้ายบุคคลทั้งสองออกจากตำแหน่งดังกล่าวต่อไป โดยจะยกขบวนกันไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

การกระทำดังกล่าว อาจชี้ได้ว่าเป็นการบิดเบือนและทำลายรากฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชาวอยุธยาไม่อาจที่จะยอมรับได้ เพราะที่ผ่านมา มีการบูรณะซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้ง ทางผู้รับเหมาได้สร้างตามหลักฐานที่เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปคือ เสาตะลุงที่หลงเหลืออยู่เดิมมีหัวมัณฑ์ หรือหัวบัว กรมศิลปากรจึงได้ทำการซ่อมแซมทั้งด้านนอกด้านใน และซ่อมต่อเนื่องกันมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไปเชื่อเพียงแค่รูปถ่ายเพนียดคล้องช้างชั่วคราวของฝรั่งเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้วเท่านั้น โดยไม่ดูบริบททางประวัติศาสตร์และความเชื่อที่แท้จริง นอกจากนั้นยังพบว่ามีการนำไม้เสาตะลุงเดิมมาปะผุแซมกับไม้ใหม่อย่างผิดสังเกต ทั้ง ๆ ที่มีการใช้งบประมาณสูงถึง 35.8 ล้านบาท
เหตุดังกล่าวสมาคมและชาวอยุธยาจึงไม่อาจปล่อยให้กรมศิลปากรใช้อำนาจโดยไม่ฟังเสียงประชาชนต่อไปได้ จึงจะนำหลักฐานทั้งหมดไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ใช้อำนาจตาม ม.230 (2) ในการแสวงหาข้อเท็จจริง และสอบอธิบดีกรมศิลปากรและผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อแจ้งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งปลดหรือย้ายบุคคลทั้งสองออกจากตำแหน่งดังกล่าวต่อไป โดยจะยกขบวนกันไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน