มงคลกิตติ์ รับผิดตรง ๆ เคยหมิ่นประมาท โบว์ ณัฏฐา ทำร้ายสถาบัน ตอนนี้จับมือกันแล้ว

 
          เต้ มงคลกิตติ์ ยอมรับผิดเคยหมิ่นประมาท โบว์ ณัฏฐา เผยตอนนี้มีจุดยืนร่วมกันต่อต้านปฏิบัติการไอโอ ชี้ถึงเวลาปรองดอง เอาเวลามาร่วมกันแก้ไขปัญหา พัฒนาประเทศดีกว่า


            วันที่ 24 กรกฎาคม 2562 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ร่วมกันแถลงข่าวต่อต้านปฏิบัติการไอโอ (IO) และข่าวปลอม (Fake News) ที่รัฐสภาชั่วคราว สำนักงานใหญ่ทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่ง นายมงคลกิตติ์ ได้ถือโอกาสนี้กล่าวขอโทษที่เคยพาดพิง น.ส.ณัฏฐา จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย


            นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวหาในทำนองที่ว่า ตนไปรับเงินจากต่างชาติมาทำร้ายประเทศไทยและสถาบัน ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นปฏิบัติการไอโอ และข่าวปลอม ส่วนกรณีของนายมงคลกิตติ์ ภายหลังเกิดเหตุก็ได้ติดต่อมาสองครั้ง ซึ่งครั้งแรกตนก็เรียนว่าในทางส่วนตัวไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไร แต่ก็ขอให้ว่าไปตามกระบวนการ และครั้งที่สองก็ติดต่อมาอีก

            ตนจึงขอถือโอกาสนี้แสดงความเห็นว่า ทั้งปฏิบัติการไอโอ และข่าวปลอม ล้วนเป็นภัยต่อสังคม สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่มีเพียงแค่กรณีของตน แต่ยังลามไปถึงนักการเมือง หรือแม้แต่ พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้รับผลกระทบหลังมีการตัดต่อคำพูดในทำนองว่า ถ้ามีการอภิปรายนายกฯ ก็พร้อมจะออกมาทำหน้าที่ของท่าน โดยสื่อนัยยะว่าอาจจะก่อการรัฐประหาร ซึ่งคำพูดดังกล่าว ผบ.ทบ. ไม่ได้เป็นคนพูดเลย

            อย่างไรก็ตามในอดีต ตนกับนายมงคลกิตติ์ อาจจะมีจุดยืนทางการเมืองต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมที่เห็นตรงกันนั้นก็คือ อยากจะหยุดการใส่ร้ายป้ายสีของปฏิบัติการไอโอ และข่าวปลอมต่างๆ ซึ่งถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง            ทางด้านนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนอาจจะเคยพูดหรือสื่อไปถึง น.ส.ณัฏฐา ในทำนองที่ทำให้เกิดความเสียหาย ตนก็เป็นลูกผู้ชาย เมื่อทำผิดก็ยอมรับผิด ถ้ามีคำพูดอะไรที่เคยล่วงเกินที่ทำให้ น.ส.ณัฏฐา เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนก็ต้องขออภัย โดยในวันนี้ตนก็ได้เห็นแล้วว่า ปฏิบัติการไอโอ และข่าวปลอม ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับฝ่ายใดล้วนไม่เป็นผลดี

           จึงขอเชิญชวนพี่น้องนักการเมืองมาร่วมกันทำงาน และทำการเมืองให้สร้างสรรค์ ว่ากันไปตามข้อมูล ข้อเท็จจริง ซึ่งถึงเวลาที่จะต้องปรองดองกันแล้ว ควรเอาเวลามาร่วมกันแก้ไขปัญหาพัฒนาประเทศจะดีกว่า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เดลินิวส์