เปิด 5 ประเด็นน่ารู้ เกี่ยวกับ บอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษคนใหม่

          เปิด 5 ประเด็นน่ารู้ เกี่ยวกับ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ จากนักข่าวสายการเมือง สู่ตัวตั้งตัวตี Brexit และผู้กำหนดทิศทางอนาคตใหม่ของอังกฤษ
          หลังจากที่ นางเทเรซา เมย์ ประกาศลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี สหราชอาณาจักรก็จำเป็นต้องมีผู้นำคนใหม่อีกครั้ง และผู้ได้รับตำแหน่งนั้นก็คือ นายบอริส จอห์นสัน (Boris Johnson) หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าเพราะเหตุใดเขาจึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ ทั้งที่ไม่ได้มีการเลือกตั้ง

          คำตอบคร่าว ๆ ก็คือ นางเทเรซา เมย์ เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมของอังกฤษ หรือพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เธอได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค พร้อม ๆ กับการลาจากตำแหน่งผู้นำประเทศ ด้วยความที่พรรคอนุรักษนิยมเป็นพรรครัฐบาลและอยู่ในอำนาจอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้น

          สมาชิกพรรคจะทำการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ขึ้นมา นั่นหมายความว่าบุคคลที่ได้รับเลือกจะได้เป็นหัวหน้ารัฐบาล และจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไปโดยอัตโนมัติ
          แคนดิเดตที่จะแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟคนใหม่มี 2 คน คือ นายบอริส จอห์นสัน และ นายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบัน ข้อมูลจากบีบีซี ระบุว่า ผลปรากฏว่า นายบอริส จอห์นสัน ชนะไปด้วยคะแนนเสียง 92,153 เสียง ขณะที่นายเจเรมี ฮันต์ ได้คะแนนไป 46,656 เสียง

          คงมีคำถามมากมายเกิดขึ้นว่า บอริส จอห์นสัน คือใคร ? เขาเป็นนักการเมืองแบบไหน และจะนำพาอังกฤษไปในทิศทางใด ? และนี่คือเรื่องราวน่ารู้ 5 ข้อ เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้

1. การศึกษาและครอบครัว

          บอริส จอห์นสัน มีชื่อเต็มว่า อเล็กซานเดอร์ บอริส เดอ เฟฟเฟิล จอห์นสัน (Alexander Boris de Pfeffel Johnson) เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2507 ปัจจุบันอายุ 55 ปี ข้อมูลจากนิวส์วีก และบริเตนิกา ระบุว่า เขาเกิดที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และใช้ชีวิตวัยเด็กที่นิวยอร์ก ลอนดอน รวมทั้งกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ถือสองสัญชาติ ทั้งอเมริกันและอังกฤษ ก่อนจะสละสัญชาติอเมริกันไปในภายหลัง ด้วยเหตุผลด้านภาษี
          ครอบครัวของนายบอริส จอห์นสัน เป็นชนชั้นสูงที่ร่ำรวย เขาเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนประจำในยุโรป ก่อนจะได้ทุน King's Scholarship ที่วิทยาลัยอีตัน โรงเรียนประจำชั้นสูงที่มีชื่อเสียง จากนั้นได้ศึกษาต่อด้านวรรณคดีคลาสสิก ที่วิทยาลัยแบลเลียล มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ซึ่งเขาก็ดำรงตำแหน่งประธานสหภาพนักศึกษาด้วยเช่นกัน

          สำหรับชีวิตส่วนตัวนั้น เขาแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง และมีบุตร-ธิดา รวม 5 คน

2. ชีวิตการทำงาน ก่อนเข้าสู่วงการการเมือง

          นายจอห์นสัน เริ่มชีวิตการทำงานในวงการสื่อสารมวลชน โดยเริ่มเป็นนักข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษ ในปี 2530 แต่ก็ถูกไล่ออก จากปัญหาการลอกเลียนผลงานนักเขียนคนอื่น

          ต่อมาเขาได้ทำงานเป็นนักข่าวประจำให้กับหนังสือพิมพ์ The Daily Telegraph ในช่วงปี 2532-2537 และได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการในปี 2537

          ในระหว่างนั้น นายจอห์นสันก็ได้เป็นนักเขียนข่าวการเมืองให้กับนิตยสาร The Spectator ด้วยเช่นกัน จนได้ขยับเป็นบรรณาธิการในปี 2542-2548 ก่อนลาออกและเข้าสู่วงการการเมือง

3. ชีวิตในแวดวงการเมือง

          อาชีพการงานในฐานะนักการเมืองของนายจอห์นสัน อ้างอิงจากบีบีซี มีดังต่อไปนี้

          - ปี 2540 ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาสามัญชนในฐานะตัวแทนพรรคอนุรักษนิยม แต่ก็ได้พ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งจากพรรคแรงงาน
          - ปี 2544 ชนะการเลือกตั้งเป็นตัวแทนสมาชิกสภาเขตเฮนลีย์-เธมส์ (รวมวาระ 7 ปี)
          - ปี 2551 ชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีมหานครลอนดอน (รวมวาระ 8 ปี)
          - ปี 2558 หวนกลับเข้าสู่สภาอีกครั้ง และได้ชนะการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเขตอักซ์บริดจ์ และเซาท์ รุยสลิป (ยังอยู่ในวาระ)
          - ปี 2559 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศและเครือจักรภพ (รวมวาระ 2 ปี)
          - ปี 2562 ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม และได้เป็นนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร
4. มุมมองทางการเมือง

          นายจอห์นสัน ถูกเปรียบเทียบกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อยู่หลายครั้ง ด้วยเหตุผลด้านการมีส่วนพัวพันกับประเด็นอื้อฉาวต่าง ๆ ไปจนถึงทรงผม แต่เขาก็เป็นนักการเมืองที่มีความเป็นมืออาชีพสูง

          ข้อมูลจากเดอะการ์เดี้ยน ระบุว่า นายจอห์นสันมีส่วนสำคัญในนโยบายต่าง ๆ มากมาย และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนหัวอนุรักษนิยม แต่เขาก็ยังคงมีความเป็นกลางอยู่บ้าง ที่รับฟังเสียงจากทั้งสองฝั่งของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งหัวสมัยใหม่ที่ต่อต้านระบบ หรือกลุ่มคนหัวเก่า

          อย่างไรก็ตาม ชีวิตการเมืองของนายจอห์นสันก็เรียกได้ว่าจัดจ้าน เขาเป็นคนที่สนับสนุนด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงตลาดเสรีทางการค้า แต่เขาก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง Brexit

          ข้อมูลจากเอ็นบีซี ระบุว่า นายจอห์นสันเป็นตัวตั้งตัวตีสนับสนุนให้อังกฤษออกจากสภาพยุโรปมาตั้งแต่แรก ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างหนักในสังคมอังกฤษ และกลุ่มคนที่ไม่ต้องการ Brexit ก็ให้การต่อต้านเขามาอย่างต่อเนื่อง
5. การเป็นนายกรัฐมนตรี และอนาคตของอังกฤษ

          นายจอห์นสันได้วางแผนสู่การเป็นผู้นำเอาไว้แล้ว ข้อมูลจากเดอะการ์เดี้ยน ระบุว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่คนนี้จะผสานความแตกแยกของพรรคอนุรักษนิยม ให้กลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง

          นายจอห์น แอลลี นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง ให้ความเห็นว่า นายจอห์นสันเป็นนักการเมืองที่ชัดเจนในแนวคิด one-nation และเขาก็จะบริหารประเทศตามแนวทางนี้ คาดว่านายจอห์นสันจะเลือกทุกคนที่มีความสามารถในด้านแตกต่างกันขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล ที่จะสะท้อนถึงความเป็นอังกฤษสมัยใหม่อย่างแท้จริง

          นอกจากนี้แล้ว นายจอห์นสันยังประกาศอย่างมั่นใจว่า เขาจะทำให้ Brexit เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า นายกฯ คนใหม่คนนี้ จะบรรลุข้อตกลงอะไรบ้าง ในวันที่อังกฤษโบกมืออำลาจากสภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ