นักศึกษาเคมบริดจ์วัย 19 หลอนกลางอากาศ เปิดประตู-โดดเครื่องบิน ดิ่งสยอง

               นักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ วัย 19 ปี เสียชีวิตสลด หลังเปิดประตูและกระโดดลงจากเครื่องบิน ครอบครัวเผย ก่อนเกิดเหตุมีอาการหวาดระแวง เครียดหนัก คาดหลอนจากการใช้ยาป้องกันโรคมาลาเรีย

ภาพจาก Instagram alana_cutland

ภาพจาก Instagram alana_cutland

               วันที่ 2 สิงหาคม 2562 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า อลานา คัตแลนด์ นักศึกษาสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี เสียชีวิตสลด หลังจากที่เธอเปิดประตูกระโดดลงจากเครื่องบินเล็ก ขณะออกทริปที่มาดากัสการ์ ท่ามกลางความตกตะลึงของคนบนเครื่องบิน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความโศกเศร้าแก่ครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะเธอเป็นคนร่าเริงสดใส อีกทั้งอนาคตไกล ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้

               อลานา เป็นชาวเมืองมิลตันคีนส์ เทศมณฑลบักกิงแฮมเชอร์ ทางตอนใต้ของอังกฤษ ข้อมูลจากเดลี่เมล ระบุว่า เธอเกิดในครอบครัวที่ดีและมีการศึกษา โดย นีล คัตแลนด์ พ่อของเธอ ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านพลังงาน ขณะที่ อลิสัน แม่ของเธอ เป็นหนึ่งในคณะผู้บริหาร วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยเครนฟีลด์

               ส่วนตัวอลานาก็กำลังศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยโรบินสัน มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยในช่วงก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอได้เดินทางไปมาดากัสการ์ เพื่อฝึกงานระยะสั้น 6 สัปดาห์ รวมทั้งศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปูสีน้ำเงิน

ภาพจาก Instagram alana_cutland

               ทริปดังกล่าวเป็นสิ่งที่อลานาใฝ่ฝันมาโดยตลอด เนื่องจากเธอเป็นคนรักสัตว์และธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง มันควรจะเป็นทริปที่สดชื่นและตื่นเต้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับเป็นไปอย่างตรงข้าม ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอและครอบครัวคาดคิด โดยหลังจากมาอยู่มาดากัสการ์ได้ไม่นาน อลานาก็ส่งอีเมลและโทร. ติดต่อกลับไปหาพ่อแม่หลายครั้ง ซึ่งพวกเขาพบว่าเธออยู่ในสภาพตื่นตระหนก หวาดผวา อีกทั้งยังดูเครียดมาก

               พ่อแม่จึงตัดสินใจให้เธอกลับบ้านมาพักผ่อนก่อน และได้จองเครื่องบินให้ ซึ่งอลานาก็ตกลงเดินทางกลับ หลังจากอยู่ที่มาดากัสการ์เพียง 8 วัน เท่านั้น โดยพ่อแม่ได้ขอร้องให้ รูธ จอห์นสัน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัย เดินทางไปเป็นเพื่อนอลานาด้วย เนื่องจากเป็นห่วงลูกสาวมาก ไม่อยากให้เธอเดินทางไปตามลำพัง

               ในวันที่ 25 กรกฎาคม อลานากับรูธ โดยสารเครื่องบินเซสนา (Cessna) C168 ซึ่งเป็นเครื่องบินเล็กแบบ 5 ที่นั่ง ออกจากเมืองอันจาวีฟ มุ่งหน้าไปยังสนามบินนานาชาติอันตานานาริโว เพื่อขึ้นเครื่องบินไปยังปารีส ก่อนจะต่อเครื่องไปยังลอนดอน ทว่าหลังจากเครื่องบินเทกออฟไปได้ประมาณ 10 นาที จู่ ๆ อลานาก็เปิดประตูพรวดและทำท่าจะกระโดดลงไป

               รูธได้คว้าตัวอลานาเอาไว้ แต่อลานาก็ต่อสู้กลับ ก่อนจะพุ่งออกไปจากเครื่องบิน รูธกับนักบินรีบช่วยกันจับขาอลานาเอาไว้ พยายามดึงเธอกลับขึ้นมา แต่ก็ไม่สำเร็จ และต้องมองดูร่างของเธอร่วงจากความสูง 5,000 ฟุต หรือประมาณ 1,130 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และหล่นหายไปในป่าเบื้องล่าง

ตำรวจมาดากัสการ์ เผยแพร่ภาพจำลองสถานการณ์ตอนเกิดเหตุ ขณะที่อลานากระโดดออกจากเครื่องบิน
ภาพจาก Madagascar Police

               เลสเตอร์ ไรลีย์ วัย 68 ปี ลุงของอลานา เล็งเห็นว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้น่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาป้องกันมาลาเรีย โดยเขาได้เปิดเผยกับเดลี่เมล ว่า หลานสาวเป็นคนปกติดี ไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพจิตมาก่อน

               ในช่วงก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ครอบครัวก็เป็นกังวลมาก เพราะอลานาผิดปกติไปมาก พูดจาฟังไม่รู้เรื่อง พ่อแม่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้จะช่วยอย่างไร จึงตัดสินใจให้หลานกลับบ้าน แต่ก็มาเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

               "พวกเราเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่มันเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้า และทุกคนในครอบครัวก็เจ็บปวดมากกับการสูญเสียครั้งนี้ อลานาเป็นคนที่เพียบพร้อมทุกอย่าง เธอมีทุกสิ่งในชีวิตที่ควรค่าแก่การมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตายจากไป

               ดังนั้นเราจึงไม่เคยคาดคิดว่าหญิงสาวแบบเธอจะคิดจบชีวิตตัวเอง และตอนนั้นเธอหลอน เธอไม่สบาย มันมีบางอย่างที่ทำให้เธอป่วย ซึ่งตัวผมก็เชื่อว่ามันคือผลข้างเคียงจากยา" เลสเตอร์ กล่าว

ภาพจาก Instagram alana_cutland

               ทั้งนี้ ก็มีมูลเหตุที่มีน้ำหนักมากว่า ยาป้องกันโรคมาลาเรีย อาจเป็นตัวการของเรื่องนี้จริง ๆ โดยรายงานระบุว่า ยาป้องกันโรคมาลาเรียอย่าง Larium และ Malarone สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางจิตหลายอย่าง อาทิ อาการหวาดระแวง ซึมเศร้า ประสาทหลอน ไปจนถึงการทำให้เกิดความคิดอยากฆ่าตัวตาย ดังนั้น อลานาจึงอาจจะกระโดดเครื่องบิน เพราะว่าเธอเกิดอาการหลอน ไม่ได้เป็นเพราะเธออยากจบชีวิตตัวเอง

               นอกจากนี้แล้ว จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น พบว่า ในช่วงก่อนที่อลานาจะเสียชีวิต เธออยู่ในสภาพย่ำแย่มาก ไม่สามารถตั้งสมาธิในการทำงานวิจัยได้ เธอต้องการการปรึกษาเยียวยาจิตใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเกิดอาการแพนิกมาแล้ว 5 ครั้ง เธอมีอาการวิตกกังวลอย่างรุนแรงมากอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งออกเดินทาง ซึ่งเป็นอาการที่ค่อนข้างตรงกับผลข้างเคียงของยาป้องกันโรคมาลาเรีย 

               เจ้าหน้าที่ยังได้เผยแพร่ภาพจำลองเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุ ในตอนสุดท้ายที่อลานายังมีชีวิต ซึ่งเธอได้กระโดดออกจากเครื่องบินไป โดยที่รูธกับนักบินพยายามช่วยเหลือ แต่ไม่สำเร็จ

               ขณะนี้ทางการมาดากัสการ์ ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ออกค้นหาศพของเธอแล้ว แต่ด้วยความที่จุดเกิดเหตุเป็นป่าทึบมาก เต็มไปด้วยสัตว์ป่าอันตราย ทางตำรวจจึงกังวลว่าการหาศพคงเป็นไปได้ยากมาก และอาจหาไม่พบ