10 ปีแห่งความทรมาน เปิดใจเหยื่อ "ซานติก้าผับ" คดีสิ้นสุด ศาลตัดสินแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินเยียวยาสักบาท !
จากกรณีคดีดัง ซานติก้าผับ ไฟไหม้ และกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่สะเทือนหัวใจคนไทยทั้งประเทศ โดยผู้เสียหายได้ต่อสู้กันมา 3 ศาล ฎีกาเสร็จเมื่อปี 2559 หนึ่งในจำเลย จาก 33 ราย คือ "เสี่ยขาว วิสุข เสร็จสวัสดิ์" ติดคุก หลังจากเสี่ยขาวออกจากคุกจึงมีการพิสูจน์ทรัพย์ สุดท้ายถูกให้เป็นบุคคลล้มละลาย ผู้เสียหายประมาณ 46 ราย ยังไม่ได้รับการเยียวยาแม้แต่บาทเดียว
ล่าสุด (16 สิงหาคม 2562) รายการโหนกระแส ทางช่อง 28 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ได้เปิดใจสัมภาษณ์เหยื่อซานติก้า ทั้ง คุณจิ๊บ รัตนา, คุณสนทยา, คุณอวยชัย, คุณมาลี, คุณมัทริน มาพร้อม "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ทนายคลายทุกข์
สนทยา : เหมือนเศษขยะ เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด
แต่มีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย หนึ่งในนั้นคือ คุณรัตนา ?
รัตนา : มีอีกคนที่เป็นเยอะ รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนปกติ แต่เขาโดนตัดมือเหมือนกัน คืนนั้นเป็นคืนวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2551 เข้าปี 2552 อยู่ประมาณเกือบ 5 ทุ่ม เพื่อนของเพื่อนจองโต๊ะไว้แล้วอยู่โซนเดียวกับฝั่งเวที พอเกิดเหตุการณ์เราคิดว่าจะออกประตูใหญ่ให้ได้ ทีแรกจะเคาต์ดาวน์ เขาก็จุดไฟเย็น ตอนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้น จิ๊บก็ออกมานอกร้านมาดูพลุ พอกลับเข้าไปไม่เกิน 5 นาที กำลังกดโทรศัพท์ คนที่ไปด้วยก็จับมือเรา เพื่อพาเราออก เราก็อ้าว เพิ่งเข้ามา จะออกแล้วเหรอ แล้วก็มีคนเดินตัดผ่าไปเลย มือเลยหลุดจากกัน จิ๊บก็หันหน้าไปทางหน้าเวที เห็นไฟที่ลุกอยู่บนเวที ซึ่งมันเร็วมาก แล้วไฟมันก็ดับ เราก็ได้ยินเสียงคนร้อง เราก็คิดว่าจะทำยังไง เพราะโซนที่เราอยู่กับประตูมันไกลกันมาก
ตอนนั้นได้ยินแต่เสียงร้อง เหมือนเราอยู่ตัวคนเดียว แต่จิ๊บลงไปนั่ง เราคิดว่าเราไม่ไหวแล้ว นาทีนั้นยอมแพ้ว่าฉันตายแล้ว มันหายใจไม่ไหวแล้ว มันทั้งมืดและมีแต่เปลวไฟ เราคิดว่าหายใจไม่ไหวแล้ว เรายอมดีกว่า เราคงไม่ได้ออกไปแล้ว คงต้องตาย แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าถ้าตายแล้วแม่กับลูกจะอยู่ยังไง จิ๊บก็ลุกขึ้นยืนและก้าวออกไปตรงที่เขาทุบ เขาพังมาแล้ว ออกไปก็สลบ แล้วไปฟื้นอีกทีอยู่โรงพยาบาลแถวทองหล่อ
ทีแรกไม่รู้อะไรเลย รู้อย่างเดียวว่ารอดตาย ไม่เห็นว่าเป็นเยอะ ทุกคนที่มาหาเรามาพูดกับเรา เราได้ยินเสียง คนมาหา มาพบเรา เราจำได้หมด เราคิดในใจว่าเรารอดตายเพราะไฟไหม้ แต่จะมาตายเพราะรถที่เขาไปส่ง เพราะขับรถเร็วมาก จะพาเราไปไหน
รัตนา : ไม่ค่ะ เราคิดว่าเราไม่ตาย เรารอด เดือนแรกที่ไปโรงพยาบาลก็ไม่รู้สึก เพราะเขาให้มอร์ฟีนตลอด แต่เดือนที่สองก็เริ่มรู้ เพราะจิ๊บเป็นเยอะ เขาพันไว้เป็นมัมมี่ เราไม่รู้ว่าเราเป็นเยอะ เห็นตัวเองอีกทีช่วงเดือนเมษายน ช่วงสงกรานต์ถึงเห็นตัวเอง
เห็นได้ยังไง ?
รัตนา : พี่พยาบาลพาไปห้องอาบน้ำสำหรับคนไข้โดยเฉพาะ ไปอาบน้ำปุ๊บจะเป็นอ่างสเตนเลสที่เงามาก เขาก็บอกว่าลุกได้มั้ย เขาจะถูหลัง จิ๊บลุกไปนั่งแล้วเห็นตัวเอง
4 เดือนไม่เคยเห็น ?
รัตนา : ผ้าพันตลอด หน้าก็ไม่เห็น เหมือนเขาปิด เขาปะตลอด
พอเห็นตัวเองครั้งแรก เป็นยังไง ?
รัตนา : โห บอกแม่ว่าไม่รักษาต่อได้มั้ย ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ยังไง จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ยังไง เราเป็นขนาดนี้ ทีแรกเขาพูดว่าต้องตัดมือนะ เพราะเขาไม่สามารถรักษาไว้ได้ นิ้วมันติดเชื้อแล้วลาม กลัวมีปัญหาเราจะเป็นอะไร ตอนนั้นก็คิดว่าต้องเป็นคนพิการถ้าหาย แต่แค่ไม่รู้ว่าคนพิการที่ต้องเป็น มันต้องเป็นแบบนี้ด้วย
รัตนา : ใช่ เห็นตัวเองปุ๊บไม่อยากรักษาเลย บอกแม่ว่ากลับบ้านเถอะ อย่างน้อยติดเชื้อก็ให้อยู่ที่บ้าน ถ้ามันเข้ากระแสเลือดเดี๋ยวหนูก็ตาย แม่บอกว่าไม่เป็นไร รักษาเถอะ ทำศัลยกรรมได้ ทีแรกทุกคนบอกว่าทำได้ ทำเพื่อรักษาได้แต่เพื่อความสวยงามไม่ได้อยู่แล้ว อยู่ 11 เดือนเต็ม
คุณมีลูก ?
รัตนา : มีคนนึง ตอนนั้นลูก 6 ขวบ ทีแรกน้องเห็นเขาบอกว่าไม่ใช่แม่เขา ตอนแรกที่เขาไปเยี่ยม แต่พอปิดเทอมใหญ่ ก็ขออนุญาตให้น้องมาอยู่ด้วยที่โรงพยาบาล เพราะแม่ไม่ได้กลับบ้านเลยก็จำเป็นต้องเอาลูกไปนอนด้วย เราอยู่ห้องแยกนะ ขอหมอให้ลูกมาอยู่ด้วยเป็นกำลังใจ
หลังจากนั้นทำยังไงต่อ ?
รัตนา : ช่วงแรก ๆ คิดตลอดว่าอยากฆ่าตัวตาย แต่ ณ ขนาดนั้น เราเจ็บมากจนเราไม่กล้า จนเรารู้สึกว่าไม่กล้าฆ่าตัวตายนะ ถ้าทำไปแล้วไม่ตาย มันทรมานมาก เพราะสิ่งที่เราเป็นอยู่ ร้องจนเลือดมันพุ่ง พยาบาลเอาไม่อยู่
ตอนนี้ลูกยอมรับได้ ?
รัตนา : ลูกภูมิใจที่มีแม่อยู่ ภูมิใจที่ไปไหนด้วย เขาไม่สนว่าใครจะมอง เขาอยากให้เราไปด้วยตลอด บอกว่าไปโรงเรียนเขามั้ย แต่เรากลัวคนมองเขาไม่ดีหรือเปล่า ไม่อยากให้ลูกมีปมด้อย แต่ไปไหนลูกกอดคอเดินตลอด
รัตนา : ถ้ากระแทกหรือโดนอะไรก็เจ็บกระดูกข้างในอยู่ เลยไม่อยากไปทำอะไร
สตางค์ในการรักษาตัว ?
รัตนา : ฟรีหมดค่ะ
เรื่องการเยียวยากับทางจำเลย เคยได้ไหม ?
รัตนา : เคยได้ช่วงแรก ๆ ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จากทางคนของเสี่ยขาว ที่เขาให้คนมาดูแล เขาเป็นเจ้าของ
ตอนนั้นคุณเรียกร้องค่าเสียหาย ?
รัตนา : จริง ๆ ทีแรกก็คุยกับแม่ว่าถ้าเขาให้ 2-3 แสนก็โอเค แต่พอเห็นตัวเองปุ๊บ ทนายบอกว่าไม่ได้นะ เราเป็นขนาดนี้ เดี๋ยวทนายจะจัดการให้ ก็น่าจะเรียกไป 8 ล้าน แต่ศาลตัดสินมาได้ 6 ล้าน
รัตนา : ไม่ได้สักบาทเดียวค่ะ เคยโทร. ไปเจรจาว่าถ้าคุณช่วยเราครึ่งหนึ่งก็ยังดี แต่เขาบอกว่าให้ที่ 1 แสน ไม่เอาก็คือไม่ได้อะไรเลย
เสี่ยขาวบอกงี้เหรอ ?
รัตนา : ทนายเสี่ยขาวค่ะ อันนั้นช่วงก่อนตัดสินด้วยซ้ำที่โทร. ไป เพราะเรารู้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นแล้วว่าเราได้ 6 ล้าน แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวลองโทร. ไปเจรจา เผื่อเขาเห็นใจเรา เพราะเราเป็นขนาดนี้ ถ้าชีวิตปกติเราไม่อยากได้หรอก เพราะเราทำงานได้ เราอยากได้ชีวิตที่มันปกติกลับมา
น้องมัทริน วันนั้นคนที่ไปมีใครบ้าง ?
มัทริน : แม่กับพ่อไปเที่ยวเคาต์ดาวน์กัน 2 คน คุณแม่โทร. มาหาว่าตอนนี้ซานติก้าไฟไหม้ แต่ตามพ่อไม่เจอ เราเข้าใจว่าไฟไหม้อาจไม่ได้หนักหนา แต่พอมาเห็นข่าวมันหนักหนามาก แม่บอกว่าติดต่อพ่อไม่ได้เลย เราก็โอเค เราขับรถกลับจากเขาใหญ่ มากรุงเทพฯ ไปก็เจอแต่ศพที่เป็นห่อเล็ก ๆ เราก็ภาวนาขอให้พ่อเราที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือถ้ายังอยู่ก็ขอให้เป็นรูปร่างได้บ้าง ให้พอกราบไหว้ได้บ้าง
มัทริน : ใจหวังให้พ่ออยู่ แต่ไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งย้ายไป รพ.จุฬาฯ เขาบอกว่าถ้ามีชื่อหน้าตึกจะเป็นผู้ป่วย แต่ท้ายตึกเป็นชื่อผู้เสียชีวิต หน้าตึกไม่มีชื่อพ่อเรา เราก็ย้อนกลับไปหลังตึก ซึ่งเราเห็นศพพ่อเรานอนอยู่ศพแรกเลย
สภาพพ่อเป็นยังไงบ้าง ?
มัทริน : พ่อไม่ได้ไหม้เกรียมค่ะ แต่ขาผิดรูป อาจจะเหยียบกัน หรือศพทับกัน ทำให้ขาผิดรูป
สาเหตุการเสียชีวิต ?
มัทริน : สูดควันพิษเข้าไป ทำให้พ่อเสียชีวิต หลังเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแม่ก็เป็นโรคลมชักตามมาด้วย จนทุกวันนี้ต้องรักษาตัว
ในแง่ค่าเสียหายที่ศาลตัดสินมาให้ ?
มัทริน : 1 ล้าน 6 แสนบาทค่ะ
จำเลยทั้งหมด 33 ราย บางคนก็จ่าย บางคนก็ไม่ต้องจ่าย 7 รายต้องรับผิดชอบ หนึ่งในนั้นคือ เสี่ยขาว คุณได้เท่าไหร่ ?
มัทริน : ไม่ได้ค่ะ มีแค่ค่าโลงศพ ค่าเยียวยาที่เขาให้คือ 5 หมื่นบาทเท่านั้น ทุกวันนี้ไม่ได้อะไรเลย
มัทริน : ใช่ค่ะ
มาลี : น้องสาวค่ะ พอทราบข่าวจากเพื่อนว่าน้องสาวอยู่ในซานติก้า เราก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไร แต่พอได้เห็นข่าว ไฟลุกแบบไม่น่าเชื่อว่าจะลุกรุนแรงขนาดนั้น เลยรีบตามหาตามโรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่เจอ จนประมาณตี 3 ก็กลับกัน ปรากฏว่า 7 โมงเช้า โรงพยาบาลโทร. มา บอกว่าเป็นญาติน้องหรือเปล่า ตอนนี้น้องอยู่ที่นี่นะ มาดูน้องหน่อย
ตอนนั้นคิดว่าน้องไม่เป็นอะไร คงปลอดภัย ?
มาลี : ใช่ แต่พอไปถึงโรงพยาบาล พยาบาลหยิบเสื้อมา ก็ไหม้เกรียมเลย ก็คิดว่าน้องคงเป็นเยอะ ตอนนี้ให้ยาอยู่ พอไปเห็นสภาพ ตาข้างขวาถลกขึ้น อาจจะโดนเหยียบกัน แต่ไม่เสียชีวิต ปากคอไหม้ แขนยังไม่ไหม้ เหมือนเขาโดนเบิร์น 90 เปอร์เซ็นต์ คุณหมอบอกว่าระหว่างไก่อบกับไก่ย่างมันต่างกัน ไก่อบคือสุกจากข้างใน กว่าข้างนอกไหม้ ข้างในมันสุกแล้ว แต่ถ้าไก่ย่างคือไหม้จากข้างนอก รักษาได้
แต่ของน้อง ?
มาลี : เป็นไก่อบ ข้างในสุกหมดแล้ว ก็เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์
น้องเสียชีวิตไหม ?
มาลี : เสียชีวิตหลังจากนั้น 2 วัน
ทางคุณมาลีเป็น 1 ใน 46 โจทก์ ศาลสั่งยังไง ?
มาลี : ศาลสั่งให้เสี่ยขาว และพวกอีก 6 คน ชดใช้เงิน ตอนนั้นไปช้า ทนายก็ฟังสรุป เราเลยไม่รู้สรุปได้เท่าไหร่ แต่ถ้าดูจากศาลชั้นต้นน่าจะประมาณ 2 ล้านกว่าบาท ก็ยังไม่ได้สักบาท ไม่เคยได้
เขาเคยติดต่อมา ?
มาลี : มีตอนครั้งแรกช่วงเริ่มเกิดเหตุ เขาให้มาหมื่นนึง แต่เราต้องทำสัญญากันไว้ ว่าให้ในกรณีที่ไม่ใช่ชดใช้ ให้เป็นค่าเยียวยาด้านมนุษยธรรม
อวยชัย : ลูกสาวคนโต ตอนนั้นลูกอายุ 31 ตอนนั้นเขามีแฟน ไปอยู่กับแฟน คืนนั้นเขานัดกับเพื่อนไปเคาต์ดาวน์ที่ซานติก้า แล้วเขาบอกให้แฟนเขาไปรับตอนกลับ ตอนจะกลับแล้ว แฟนเขาเข้าไปรับ แต่เกิดไฟไหม้ขึ้นมา กำลังจะออกจากประตูแล้ว แต่ไม่พ้น ลูกสาวถูกควันก็ล้มลง ก่อนออกจากประตู แต่แฟนเขาหนีออกมาได้ พอรุ่งเช้าวันที่ 1 มกราคม แฟนเข้ามาหาที่บ้าน บอกว่าลูกสาวกลับมาหาหรือยัง ก็บอกว่าไม่มี ไม่ได้กลับมา แฟนเขาก็หาไม่เจอ ทีนี้ก็ตามหาตามโรงพยาบาล ทุกที่ที่บอกว่ามีส่งคนเจ็บไป สุดท้ายไปเจอที่ รพ.ตำรวจ ร่างกายไม่โดนไหม้ แต่สำลักควันเสียชีวิต
คุณพ่ออวยชัยก็เป็น 1 ใน 46 โจทก์ฟ้อง ศาลสั่งเท่าไหร่ ?
อวยชัย : 1 ล้าน 3 แสน 7 หมื่นบาท ก็ไม่ได้สักบาท
ในมุมมนุษยธรรม ที่จำเลยช่วยเท่าไหร่ ?
อวยชัย : 3 หมื่นเท่านั้น เขายังบอกว่าก่อนที่ศาลจะตัดสินล้านกว่า ทนายเข้ามาคุยว่าจะให้ 6 หมื่นแล้วจบ เอามั้ย ผมก็คุยกับทนาย เขาบอกว่าเอาแบบนี้ดีกว่า ขอแค่คำเดียว ขอไป 5 แสน เขาบอกว่าเขาให้ไม่ได้ ถ้าเอาก็เอา ถ้าไม่เอาก็ไม่ได้สักบาทเดียว ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ได้ก็ไม่เอา วันนี้ยังไม่ได้สักสลึง เงียบเลย
สนทยา : วันเกิดเหตุผมอยู่ลำปาง ไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ตอนแรกลูกเขาอยากไปด้วยปีใหม่ แต่แฟนเขาทำงานที่ห้าง เขาไม่หยุด ก็บอกให้ลูกเฝ้าบ้าน มารู้ข่าวอีกที ลูกสะใภ้โทร. ไปบอกว่า พ่อ ตอนนี้ซานติก้าผับไฟไหม้ที่เอกมัย แล้วนิวไปเที่ยวที่นั่นด้วย ตอนนี้ยังหาไม่เจอเลย เขาตามทุกโรงพยาบาล คำพูดคำนั้นยังฝังหัวผมอยู่ทุกวันนี้ว่า พ่อ หนูเจอแล้ว ทำใจดี ๆ นะ แค่นั้นมือไม้ผมอ่อน เขาบอกว่านิวเสียแล้ว (น้ำตาไหล) ตอนที่เขาเสียอายุ 20 วันที่ 12 สิงหาคม ที่เพิ่งผ่านไป เป็นวันเกิดเขา เหตุไม่เกิดกับใครไม่รู้นะ หัวอกพ่อแม่ ผมรู้เลยว่าพ่อแม่รักลูกขนาดไหน
เป็นหนึ่งในโจทก์ที่ฟ้อง ทางฝั่งศาลสั่งให้เยียวยาเท่าไหร่ ?
สนทยา : 1 ล้าน 2 แสนกว่า พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ตั้งแต่วันฟ้อง ไม่ได้แม้แต่สลึงเดียว ได้แค่ค่าเยียวยาเบื้องต้น 3 หมื่นบาท ตอนเกิดเหตุใหม่ ๆ
เดชา : เป็นถ้อยคำที่เลี่ยงกฎหมาย อยากจ่ายเงิน แต่ไม่อยากรับผิด ยังสู้คดีต่อ เหมือนลูกเล่นทางกฎหมาย ตามคำพิพากษาก็ไม่ได้จ่าย
พี่เดชามองยังไง เพราะเสี่ยขาว ณ ตอนนี้ เขาเหมือนเป็นไทแล้ว ?
เดชา : ถ้าล้มละลายก็จบแล้ว มีทางเดียวให้เขาสำนึก เขาจะมีสำนึกหรือเปล่าแค่นั้นเอง
แล้วผู้เสียหายล่ะ ?
เดชา : ต้องไปดำเนินคดีกับคนอื่น ซึ่งยังมีอีก 6 คน ก็ไปไล่สืบทรัพย์ บังคับคดีเอาเงินมาชำระหนี้
อีก 6 คน มีใครล้มละลาย ?
เดชา : ไม่มี ถ้ามีต้องอยู่ในสำนวน ต้องไปสืบทรัพย์ตามตัวเขา หนึ่ง เจรจา ถ้าพบทรัพย์สินก็ดี ถ้าพบว่าโอนย้ายก็ดำเนินคดีอาญาไป
ศาลสั่งมาปี 2559 ?
เดชา : 10 ปี นับจากวันอ่านคำพิพากษา
ใครว่าความให้ก่อนหน้านี้ ?
เดชา : สภาทนายความ เขาว่าความฟรี
ถ้าทั้ง 46 คนไม่ได้สักบาท ถ้าร่วมกันตั้งทนายเอง ลงขัน แล้วจ้างทนาย ตามให้ได้ไหม ?
เดชา : ต้องไปสืบทรัพย์ก่อน ทำได้ ไปสืบว่ามีอะไรบ้าง หลังจากนั้นค่อยไปยึด ถ้าเจอตัวก็เจรจา ถ้าสืบแล้วมีการยักย้ายถ่ายเท ก็ดำเนินคดีอาญา โกงเจ้าหนี้ อาจรวมถึงเสี่ยขาวด้วย แม้จะล้มละลายแต่คดีอาญาคนละส่วนกัน ถ้าสืบได้นะ มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน
วันนี้ก็ไม่ได้หมดหวังซะเลยทีเดียว ?
เดชา : ยังมีหวัง มาโหนกระแส มีหวังทุกราย ดูคดีแพรวาสิ มาที่นี่ยิ่งกว่าแสงสว่างอีก
ตอนนี้เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับต่อไปนี้ ต้องตั้งทนาย ไปรวมกันมา ?
เดชา : อันนี้สำนวนมันแยก ไม่ได้รวมเหมือนแพรวา เลขคดีก็แยกหมด ของแพรวามันง่าย ต้องไปรวบรวมมา คุณหนุ่มที่พึ่งสุดท้าย มาได้เลย มันยุ่งตรงแยกกันหมดเลย ต้องไปเอาคำพิพากษา เอาคดีอะไรต่าง ๆ มา เอามารวมให้เร็วที่สุด ทนายก็ไม่เป็นไร มาที่ผมก็ได้ เดี๋ยวผมดูก่อนว่าจะเป็นยังไง ไปเอาเอกสารมาก่อน
ตั้งแต่ปี 2559 ถามพี่มาลี ยอดล่าสุดที่ศาลฎีกาสั่งมาเท่าไหร่ แกบอกว่ายังไม่รู้ ยังไม่ได้ไปคัดเอกสารเลย ?
เดชา : ทนายต้องไปคัด
มาลี : วันนั้นไปช้า ทนายบอกว่าเดี๋ยวจะคัดมาให้
ผ่านมา 3 ปีแล้ว แล้วจะคัดเมื่อไหร่ ?
มาลี : เขาไม่ได้บอกค่ะ
ฝากสภาทนายความถ้าจะช่วยต้องสุดทาง ?
เดชา : ต้องไปดูว่าเขาออกคำบังคับและหมายบังคับหรือยัง ถ้ายังไม่ทำอะไรเลยก็จะทำอะไรไม่ได้ มีขั้นตอนเยอะแยะในการบังคับคดี
แต่ยังมีแสงสว่าง ?
เดชา : แน่นอน มาที่นี่สว่างทุกคน






