แจ้งข้อหา ไต๋เรือ-ลูกน้อง คลิปดังจับปลาโลมา อ้างเอาไปทำโลมาแดดเดียว

 
          แจ้งข้อหา ไต๋เรือ-ลูกน้อง ในคลิปฉาวเรือประมงใช้อวนล้อมจับ โลมา ล่าสุดเจ้าตัวรับสารภาพจับปลาโลมา 30 ตัว อ้างเอามาทำโลมาแดดเดียวรับประทาน

คลิปดังจับปลาโลมา

          จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปข่าวเรือประมงและคนงานในเรือจับปลาโลมา ขึ้นจากมหาสมุทร บริเวณน่านน้ำประเทศมาเลเซีย และมีการใช้ภาษาไทยสื่อสารกันบนเรือ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ก่อนมีการเผยแพร่ภาพในโซเชียลมีเดีย ระหว่างวันที่ 14 และ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งตรวจสอบจนทราบว่า เป็นเรือประมง "ส.พรเทพนาวี 9" ซึ่งถูกระบุว่าขายให้กับนายทุนชาวมาเลเซียไปแล้วกว่า 2 ปี พร้อมเปลี่ยนเป็นเรือสัญชาติมาเลเซีย และคาดว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น "KNF 7779"

          จากนั้น พล.ต.ท. จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) จึงลงพื้นที่ด้วยตนเอง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสืบสวนโดยได้ประสานงานกับกรมประมงและทางการมาเลเซีย พร้อมได้ทำการร้องทุกข์ไว้ตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คลิปดังจับปลาโลมา

          ล่าสุด วันที่ 2 กันยายน 2562 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. จารุวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นที่แน่ชัดในเบื้องต้นว่ามีผู้กระทำความผิดเป็นคนไทย จำนวน 2 คน คือ นายธนัญชัย หรือ ไต๋หาร มิ่งมิตร อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นไต๋เรือลำที่เกิดเหตุ และอีกคนคือ นายสันติ หรือ ไต๋ติ บัวผุด อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยไต๋เรือลำดังกล่าว จึงได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มาพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 2 กันยายน 2562 ที่ห้องประชุมพร้อมพินิจ ชั้น 15 สำนักงานกฎหมายและคดี

          โดยทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสองคนตาม พ.ร.ก.การประมง มาตรา 66 ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด หรือนําสัตว์น้ำดังกล่าวขึ้นเรือประมง เว้นแต่มีความจําเป็นเพื่อการช่วยชีวิตของสัตว์น้ำนั้น ซึ่งตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กําหนดชนิดสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ที่ห้ามจับหรือนําขึ้นเรือประมง พ.ศ. 2559 ข้อ 2 กําหนดให้สัตว์นํ้าชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ เป็นสัตว์น้ำที่ห้ามมิให้ผู้ใดจับหรือนําขึ้นเรือประมง ซึ่งรวมถึงโลมา และวาฬทุกชนิด โดยการกระทำผิดดังกล่าวมีโทษตามมาตรา 145 มีโทษปรับตั้งแต่ 3 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท ตามจำนวนผู้ต้องหา

          พล.ต.ท. จารุวัฒน์ กล่าวว่า ในชั้นสอบสวน นายธนัญชัยให้การรับสารภาพว่าเป็นไต๋เรือ ส่วนนายสันติ ผู้ช่วยไต๋เรือ ก็ได้รับว่าเป็นผู้ช่วยไต๋เรือลำที่เกิดเหตุจริง และผู้ต้องหาทั้งสองคนยังเป็นผู้สั่งการให้คนงานในเรือลำดังกล่าวเอาโลมาที่ติดอวนจำนวน 30 ตัว ขึ้นมาบนเรือจริง หลังจากนำขึ้นมาแล้วได้นำมาทำอาหาร ประมาณ 4 ตัว เป็นเนื้อแดดเดียว ส่วนปลาโลมาที่เหลือได้โยนทิ้งลงทะเลไป ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการเปรียบเทียบตาม พ.ร.ก.การประมง ดำเนินการพิจารณาเปรียบเทียบผู้ต้องหาทั้งสองคนตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหากผู้ต้องหาไม่มีเงินจ่ายค่าปรับจะต้องถูกกักขังไม่เกิน 2 ปี

 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แจ้งข้อหา ไต๋เรือ-ลูกน้อง คลิปดังจับปลาโลมา อ้างเอาไปทำโลมาแดดเดียว อัปเดตล่าสุด 2 กันยายน 2562 เวลา 14:54:51 7,276 อ่าน
TOP
x close