สุโขทัย อ่วม หลังพนังกั้นน้ำแตก จนน้ำท่วมไหลทะลัก 5 อำเภอ ด้านชาวบ้านต้องกรอกกระสอบทรายเอง พร้อมเพิ่มจุดเฝ้าระวัง
สถานการณ์แม่น้ำยมล้นตลิ่งตลอดแนว 5 อำเภอของสุโขทัยนั้น ล่าสุด เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 3 กันยายน 2562 ชาวบ้าน ม.2 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ต้องช่วยกันกรอกกระสอบทรายและนำกระสอบทรายมาวางกันเสริมแนวผนังกั้นน้ำ ที่มีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ก็ไม่สามารถต้านความเชี่ยวของน้ำได้ กระแสน้ำยังกัดเซาะชั้นใต้ดิน ทำให้เกิดน้ำผุดจากแรงดันน้ำขนาดประมาณ 1 เมตร ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วม บ้านของพันตรีทับทิม พาโคกทม บ้านเลขที่ 1/2 ม.2 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น และแผ่ขยายออกเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ม.2 ต.ทับผึ้ง ออกไปเป็นวงกว้าง
ในขณะที่อีกหลายพื้นที่ เช่น ม.8 ต.ยางซ้าย อ.เมืองสุโขทัย
ต.ปากพระ อ.กงไกรลาศ พนังดินกั้นน้ำก็ทรุดตัวพังไปหลายจุด
และน้ำจากแม่น้ำยม ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรไปหลายหลังเช่นกัน
สถานการณ์โดยรวมของจังหวัดสุโขทัย ได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ คือ
- อ.สวรรคโลก
- อ.ศรีสำโรง
- อ.เมืองสุโขทัย
- อ.กงไกรลาศ
- อ.คีรีมาศ
ภาพจาก สำนักข่าว inn
และมีจุดเสี่ยงที่ อ.เมือง 9 จุด ซึ่งยังคงจัดเวรยามเฝ้าระวัง ระดับน้ำที่จุดวัดน้ำ Y 4 หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำยังคงสูงถึง 8 เมตร เลยจุดวิกฤตที่ 7.40 เมตร โดยทางจังหวัดสุโขทัย ได้นำแผ่นผ้าไวนิลมาปิดกันระดับน้ำเสริมเป็นแนวยาวกว่า 10 กิโลเมตร ตลอดแนวพนังกั้นน้ำช่วงถนนนิกรเกษม ขณะที่มวลน้ำจากแม่น้ำยมสายหลักที่ไหลมายัง อ.เมืองสุโขทัย ปริมาณ 550 ลบ.ม./วินาที
ทางสำนักงานชลประทานจังหวัดสุโขทัย ได้มีการผันน้ำเข้าแก้มลิงทะเลหลวง และผันออกทางคลองท้ายแก้มลิงทะเลหลวง เข้าทุ่งกุยทอง เข้า ต.ปากพระ อ.กงไกรลาศ ระยะทาง 20 กิโลเมตร เพื่อเป็นการเพิ่มเวลาการเดินทางของน้ำ ลดการรวมตัวของน้ำที่ อ.เมืองสุโขทัย เพื่อประคองให้น้ำอยู่ในระดับทรงตัว ไม่สูงขึ้น และพร้อมรับน้ำใหม่ที่กำลังเดินทางมาจากจังหวัดแพร่เพิ่มเติม โดยคาดว่าสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งของจังหวัดสุโขทัย จะยังคงต้องเฝ้าระวังไปอีก 2-3 วัน
สถานการณ์แม่น้ำยมล้นตลิ่งตลอดแนว 5 อำเภอของสุโขทัยนั้น ล่าสุด เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 3 กันยายน 2562 ชาวบ้าน ม.2 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ต้องช่วยกันกรอกกระสอบทรายและนำกระสอบทรายมาวางกันเสริมแนวผนังกั้นน้ำ ที่มีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ก็ไม่สามารถต้านความเชี่ยวของน้ำได้ กระแสน้ำยังกัดเซาะชั้นใต้ดิน ทำให้เกิดน้ำผุดจากแรงดันน้ำขนาดประมาณ 1 เมตร ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วม บ้านของพันตรีทับทิม พาโคกทม บ้านเลขที่ 1/2 ม.2 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น และแผ่ขยายออกเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ม.2 ต.ทับผึ้ง ออกไปเป็นวงกว้าง
สถานการณ์โดยรวมของจังหวัดสุโขทัย ได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ คือ
- อ.สวรรคโลก
- อ.ศรีสำโรง
- อ.เมืองสุโขทัย
- อ.กงไกรลาศ
- อ.คีรีมาศ
ภาพจาก สำนักข่าว inn
และมีจุดเสี่ยงที่ อ.เมือง 9 จุด ซึ่งยังคงจัดเวรยามเฝ้าระวัง ระดับน้ำที่จุดวัดน้ำ Y 4 หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำยังคงสูงถึง 8 เมตร เลยจุดวิกฤตที่ 7.40 เมตร โดยทางจังหวัดสุโขทัย ได้นำแผ่นผ้าไวนิลมาปิดกันระดับน้ำเสริมเป็นแนวยาวกว่า 10 กิโลเมตร ตลอดแนวพนังกั้นน้ำช่วงถนนนิกรเกษม ขณะที่มวลน้ำจากแม่น้ำยมสายหลักที่ไหลมายัง อ.เมืองสุโขทัย ปริมาณ 550 ลบ.ม./วินาที
ทางสำนักงานชลประทานจังหวัดสุโขทัย ได้มีการผันน้ำเข้าแก้มลิงทะเลหลวง และผันออกทางคลองท้ายแก้มลิงทะเลหลวง เข้าทุ่งกุยทอง เข้า ต.ปากพระ อ.กงไกรลาศ ระยะทาง 20 กิโลเมตร เพื่อเป็นการเพิ่มเวลาการเดินทางของน้ำ ลดการรวมตัวของน้ำที่ อ.เมืองสุโขทัย เพื่อประคองให้น้ำอยู่ในระดับทรงตัว ไม่สูงขึ้น และพร้อมรับน้ำใหม่ที่กำลังเดินทางมาจากจังหวัดแพร่เพิ่มเติม โดยคาดว่าสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งของจังหวัดสุโขทัย จะยังคงต้องเฝ้าระวังไปอีก 2-3 วัน