กรมราชทัณฑ์ เผย สนธิ ลิ้มทองกุล นักโทษชั้นเยี่ยม เข้าเกณฑ์พระราชทานอภัยโทษ ได้รับการปล่อยตัวแล้ว พร้อมยืนยันไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ไม่มีใบสั่ง
พ.ต.อ. ณรัชต์ กล่าวต่อว่า แต่มีการตีความทางกฎหมายว่า นายสนธิ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ จึงเข้าข้อยกเว้นไม่ปล่อยตัว เพียงแค่ลดโทษ ต่อมาได้มีนักโทษชายรายหนึ่งยื่นอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการอภัยโทษ โดยโต้แย้งว่าตนเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมิใช่สถาบันการเงิน ดังนั้นจึงไม่เข้าองค์ประกอบตามที่ระบุไว้ในบัญชีแนบท้าย จึงได้มีการประชุมกัน ผลปรากฏว่ายืนยันการตีความทางกฎหมายเป็นคุณกับผู้ร้อง คำร้องของผู้ร้องฟังขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบเคียงกับกรณีของนายสนธิแล้วเป็นข้อเท็จจริงในลักษณะเดียวกัน จึงเข้าข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษดังกล่าว
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า
การปล่อยตัวนายสนธิในครั้งนี้
เป็นเรื่องของความคลาดเคลื่อนในการตีความทางกฎหมายโดยแท้
ได้มีการหารือกับผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่
และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด มิได้มีเบื้องหน้า
เบื้องหลังหรือมีใบสั่งจากผู้ใด
รวมทั้งไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองแต่อย่างใดทั้งสิ้น
วันที่ 4 กันยายน 2562 สปริงนิวส์ รายงานว่า พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า
ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ทำการปล่อยตัว นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 72 ปี
ผู้ต้องขังชั้นเยี่ยม
ที่ต้องคดีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และอื่น ๆ
ซึ่งรับโทษมาแล้ว 3 ปี 1 เดือน ระหว่างนายสนธิ
อยู่ในเรือนจำมีความประพฤติดี ช่วยเหลืองานของทางราชการหลายอย่าง
ประกอบกับเป็นผู้ที่มีอายุเกินกว่า 70 ปี และมีโรครุมเร้า
ตามข้อเท็จจริงแล้วนายสนธิ น่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ
เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 10
พ.ต.อ. ณรัชต์ กล่าวต่อว่า แต่มีการตีความทางกฎหมายว่า นายสนธิ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ จึงเข้าข้อยกเว้นไม่ปล่อยตัว เพียงแค่ลดโทษ ต่อมาได้มีนักโทษชายรายหนึ่งยื่นอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการอภัยโทษ โดยโต้แย้งว่าตนเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมิใช่สถาบันการเงิน ดังนั้นจึงไม่เข้าองค์ประกอบตามที่ระบุไว้ในบัญชีแนบท้าย จึงได้มีการประชุมกัน ผลปรากฏว่ายืนยันการตีความทางกฎหมายเป็นคุณกับผู้ร้อง คำร้องของผู้ร้องฟังขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบเคียงกับกรณีของนายสนธิแล้วเป็นข้อเท็จจริงในลักษณะเดียวกัน จึงเข้าข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษดังกล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก