คืบหน้า กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามให้เอาผิด นักศึกษา คนวาดพระพุทธรูปอุลตร้าแมน ยืนยันไม่สงสาร ชี้ พระพุทธเจ้าสอนให้ยึดติด ไม่ใช่ปล่อยวาง
ยังเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง สำหรับดราม่าภาพวาด พระพุทธรูปอุลตร้าแมน ผลงานของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา หลังจาก กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เตรียมเดินหน้าเข้ายื่นหนังสือต่อ ผบก.ป. เพื่อแจ้งความนักศึกษาเจ้าของภาพ รวมทั้งแจ้งความเอาผิด อาจารย์ที่ปรึกษา เจ้าของห้างที่จัดแสดงภาพวาด อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ และทนายเดชา กิติวิทยานันท์ เพราะถือเป็นผู้ช่วยสนับสนุนในการกระทำความผิด ซึ่งทำให้ทางทนายเดชา ต้องออกมาเตือนว่า ระวังคดีพลิกติดคุกเอง 5 ปี ฐานแจ้งความเท็จ นั้นอ่านข่าว : กลุ่มชาวพุทธฯ ร้องเอาผิดปม พระอุลตร้าแมน ทนายเตือนเบา ๆ ระวังติดคุกเอง
ล่าสุด (11 กันยายน 2562)
ข่าวช่องวัน รายงานว่า กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน ไม่สนคำเตือน เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้บังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนักศึกษาที่วาดภาพพระพุทธรูปอุลตร้าแมน นำทีมโดย ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์ ทนาย พงศ์นรินทร์ อมรรัตนา และคณะ
ทั้งนี้ ดร.จรูญ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการลบหลู่พระพุทธศาสนา ผู้วาดย่อมทราบดีว่า พระพุทธรูปหรือภาพของพระพุทธเจ้านั้น เป็นที่เคารพสักการะบูชาของชาวพุทธทั่วประเทศกว่า 60 ล้านคน เป็นการทำให้ศรัทธาของประชาชนมัวหมอง แปดเปื้อน ซึ่งมองว่าไม่ใช่ศิลปะ และคำกล่าวที่ว่าขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนนั้น เป็นเพียงข้ออ้าง ข้อแก้ตัวเท่านั้น
ส่วนตัวเชื่อว่า พระพุทธศาสนาสอนให้ยึดติด ให้สิ่งสักการะเหล่านี้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อนำไปสู่สวรรค์ เปิดประตูไปสู่นิพพาน พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่าไม่ให้ยึดติด หรือให้ปล่อยวาง เป็นคำสอนที่ผิด หากสอนให้ปล่อยวางจริง แล้วเงิน บ้าน ก็ต้องปล่อยวางไปทั้งหมดไม่ต้องเอาอะไรสักอย่าง ไม่ต้องทำงาน คำสอนแบบนี้มันไม่ใช่ ยืนยันว่า ไม่สงสารเด็ก เพราะเรื่องนี้ผิดแน่นอน
นอกจากนี้ พระพุทธรูป
หรือภาพวาดของพระพุทธเจ้านั้น ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา
67 และกฎหมายอาญา มาตรา 206
ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาพุทธ
อีกทั้งยังได้ยื่นเรื่องดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 4 คน
ฐานเป็นผู้ร่วมกันกระทำความผิด
หรือโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้ผู้นั้นกระทำผิดต่อไป
ด้วยการออกมารับรองว่าผู้ทำไม่ผิด และให้กำลังใจทำต่อไป ประกอบด้วย
1. นายวีรยุทธ (ไม่ทราบนามสกุล) อาจารย์ที่ปรึกษาและเป็นผู้ช่วยเหลือในการกระทำความผิด
2. น.ส.ปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ให้สถานในการกระทำความผิด
3. นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้โฆษณาหรือประกาศให้การสนับสนุนผู้กระทำความผิด
4. ทนายเดชา กิติวิทยานันท์ ทนายความ ผู้โฆษณาหรือประกาศให้การสนับสนุนผู้กระทำความผิด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
