เกรตา ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม จวกผู้นำโลก ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ผลักภาระให้คนรุ่นหลัง ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ไม่อยู่เฉย สวนกลับทันควัน
ไม่นานมานี้ เกรตา ธันเบิร์ก (Greta Thunberg) สาวน้อยชาวสวีเดน วัย 16 ปี ได้ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของบุคคลที่มีอิทธิพลระดับโลก สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า แม้ว่าเธอจะประสบภาวะแอสเพอร์เกอร์ (Asperger Syndrome)
หนึ่งในกลุ่มอาการออทิสติก
แต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถฉุดรั้งความคิดเกินวัยของเธอได้
เกรตามองว่าความแตกต่างนี้คือของขวัญ ทำให้เธอกล้าคิดนอกกรอบ
กล้ามองโลกในมุมมองที่ต่างออกไป และทำให้เธอลุกขึ้นมาสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกใบนี้
เกรตาได้ลุกออกมาต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
เธอได้หยุดเรียนเพื่อเป็นการสไตรก์
แล้วเดินหน้าเรียกร้องให้สังคมหันมาแก้ปัญหาโลกร้อนกันอย่างจริงจัง
คำพูดของเธอได้สร้างแรงบันดาลใจและสร้างแรงกระเพื่อมในสังคม
ไปสู่ระดับประเทศ และระดับโลก ปลุกกระแสรักษ์โลกให้กลับขึ้นมาอีกครั้ง
และจริงจังกว่าเดิม
ล่าสุด
เด็กสาวคนนี้ได้ลุกขึ้นมาจับไมค์อีกครั้ง
ครั้งนี้เธอพูดถึงเหล่าผู้นำโลกโดยตรง
ที่ไม่ได้ใส่ใจและคำนึงถึงปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง
แต่กลับผลักภาระมาให้คนรุ่นหลังอย่างซึ่ง ๆ หน้า
จากการรายงานของ
สำนักข่าวบีบีซี ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 ระบุว่า
เกรตาได้เข้าร่วมงานสัมมนาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ
ที่จัดขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติ ณ มหานครนิวยอร์ก โดยผู้นำจากกว่า 60
ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย
ได้เข้าร่วมเสวนาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาและลดมลพิษ นายอันโตนิโต กูเตรร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า
ขณะนี้โลกกำลังตกอยู่ในห้วงปัญหาสภาพอากาศที่ยิ่งใหญ่มาก และมันถึงเวลาแล้วที่เหล่าผู้นำโลกต้องรีบหาทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เปิดเผยว่า
เยอรมนีจะเพิ่มงบประมาณเพิ่มอีก 4 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.34 แสนล้านบาท เพื่อต่อสู้กับปัญหาสภาวะโลกร้อน ขณะที่
นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า
องค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร ได้เตรียมทุ่มงบประมาณ 500
ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.52 หมื่นล้านบาท เพื่อปกป้องผืนป่าฝนเขตร้อนด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว
นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ก็เผยว่า
ปัจจุบันนิวซีแลนด์ลดมลพิษลงไปได้แล้ว
80 เปอร์เซ็นต์ เพราะเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด
และตั้งเป้าหมายว่าจะลดมลพิษให้เหลือศูนย์ในเร็ว ๆ นี้
สำหรับผู้นำโลกที่ยังไม่ขยับเขยื้อนเพื่อแก้ไขปัญหานี้
เกรตาได้ส่งสารไปถึงพวกเขาว่า พวกเขาเหล่านั้นได้ขโมยความฝันของเธอไป
ได้ทำลายชีวิตวัยเด็กของเธอ ความจริงแล้วเธอควรจะได้เรียนหนังสือ
ไม่ควรมาอยู่ตรงนี้ แต่ก็ต้องทำ
เพราะผู้ใหญ่ไร้ซึ่งความใส่ใจในปัญหาที่เกิดขึ้น
"สิ่งที่หนูอยากจะฝากไปถึงพวกคุณ
(ผู้นำโลก) คือ พวกเราจะเฝ้าจับตามองพวกคุณ ทั้งหมดนี้มันไม่ถูกต้อง
หนูไม่ควรมานั่งอยู่ตรงนี้
หนูควรกลับไปโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลข้ามน้ำข้ามทะเลออกไป แต่ถึงกระนั้น
พวกคุณกลับมาเรียกร้องความหวังจากพวกเรา จากเยาวชนอย่างเรา
พวกคุณขโมยความฝันของหนู
ขโมยชีวิตวัยเด็กของหนูด้วยคำพูดที่ว่างเปล่าของพวกคุณ พวกคุณกล้าดีอย่างไร
?"
![]()
ภาพจาก TIMOTHY A. CLARY / AFP
ทางด้าน
เดอะสแตนดาร์ด รายงานว่า หลังจากที่เกรตาได้ออกมากล่าวโจมตีผู้นำโลกด้านการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเธอไม่ได้ระบุเจาะจงถึงใคร
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว
เขารีทวีตคลิปวิดีโอการอภิปรายของเธอ
ช่วงที่เธอกล่าวอย่างเคร่งเครียดว่าผู้คนกำลังล้มตาย ระบบนิเวศก็กำลังขาดใจ
โลกกำลังมาถึงจุดเริ่มต้นของการสูญพันธุ์
แต่เหล่าผู้นำโลกที่ไม่ใส่ใจปัญหากลับให้ความสำคัญกับเงินและระบอบเศรษฐกิจ
นายทรัมป์ทวีตข้อความระบุว่า
"เธอช่างดูเป็นเด็กผู้หญิงที่เปี่ยมด้วยความสุข ที่มุ่งมั่นไปสู่อนาคตที่สดใสและยอดเยี่ยม ผมรู้สึกดีนะที่ได้พบเห็นอะไรแบบนี้"
![]()
ภาพจาก SAUL LOEB / AFP
การให้ความเห็นของนายทรัมป์เป็นไปในทิศทางที่ล้อเลียนเสียดสี
เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเคยออกมาวิจารณ์เกรตามาแล้ว
และได้ปฏิเสธเรื่องปัญหาโลกร้อน
นายทรัมป์ยังได้ถอนสหรัฐฯ
ออกจากความตกลงปารีส
ที่เป็นข้อตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ยกเลิกกฎหมายควบคุมการใช้พลังงานเพื่อลดปัญหาแก๊สเรือนกระจกที่เป็นนโยบายของนายบารัค โอบามา
รวมทั้งยังได้ผลักดันภาคอุตสาหกรรมในการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินให้มากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน