แม่จำเลย เผยไม่ทันได้อ่านเอกสารลับ ช็อกผู้พิพากษายิงตัวเองในห้องพิจารณาคดี

           อ่านข่าว : ภาพล่าสุด คณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษายิงตัวเอง ปลอดภัยหายห่วง แต่ยังต้องรอดูอาการ

           ล่าสุด (6 ตุลาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายแพทย์บรรยงค์ เหล่าเจริญสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา แถลงความคืบหน้าอาการ นายคณากร ระบุว่า กระสุนทะลุร่างกายด้านซ้าย ทำให้บริเวณม้ามมีรอยฉีกขาด มีเลือดออกในช่องท้อง แต่ไม่มาก
           โดยแพทย์เจ้าของไข้พิจารณาว่า ยังไม่จำเป็นต้องผ่าตัดและให้รักษาตามอาการ ส่วนอาการปวดช่องท้องบริเวณแผลที่เกิดจากการบาดเจ็บ แพทย์ได้ตรวจเอกซเรย์อีก พบว่า นอกจากที่ม้ามแล้ว ก็ไม่พบอาการบาดเจ็บอวัยวะอื่น แต่ต้องดูอาการอีกระยะ ซึ่งจะต้องพักรักษาตัวต่ออีกไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์

           ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์การแทรกแซงการทำหน้าที่ของศาลยุติธรรมนั้น นายสราวุธ กล่าวว่า ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอเรียนพี่น้องประชาชนให้มั่นใจว่า ศาลเคารพรูปแบบการพิพากษาของคณะผู้พิพากษา ซึ่งเรื่องการแทรกแซง จะระมัดระวังไม่ให้เกิดอยู่แล้ว

           และการทำงานของผู้พิพากษาที่เขียนไว้ในกฎหมาย นอกจากพระธรรมนูญ วิธีพิจารณาความอาญา ก็มีชัดเจนในมาตรา 183 กรณีถ้าผู้พิพากษามีความเห็นต่างกัน สามารถทำความเห็นแย้งได้ ซึ่งการทำความเห็นแย้งต้องทำเป็นหนังสือ และในมาตรา 184 คดีอาญา ผู้พิพากษาสามารถปรึกษาหารือกัน ถ้ามีความเห็นต่างกันในคดีอาญา คนที่เห็นเป็นผลร้ายกับจำเลยมากกว่า ต้องยอมตามความเห็นของผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้ายน้อยกว่า เช่น ถ้ายกฟ้องมากกว่าลงโทษ ต้องเห็นชอบยกฟ้อง

           ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าผู้พิพากษาศาลยุติธรรมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอิสระ ปราศจากการแทรกแซง และยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับฝ่ายบริหาร ซึ่งฝ่ายบริหารต้องไปทบทวนว่ารูปแบบในการรวบรวมพยานหลักฐานมีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง ศาลมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน ย้ำว่าศาลมีความเป็นกลางและมีความเป็นอิสระที่แท้จริง
           ด้าน นางยะ (นามสมมติ) แม่ของผู้ต้องหาในคดี กล่าวว่า หลังจากที่นายคณากรอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ด้านในห้องล็อกประตูห้ามคนนอกเข้า ทำให้ตนเริ่มกังวลเพราะคิดว่าต้องมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นแน่นอน หลังจากนั้น นายคณากร ก็หันหลังไปทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์และชักปืนขึ้นมายิง โดยหันหน้ามาและคว้าเก้าอี้เพื่อนั่งลงไป

           อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ นายคณากร พิจารณาคดี ได้มีการแจกเอกสารความหนากว่า 30 แผ่น โดยแผ่นหลังสุดเขียนว่า "ลับ" แต่ตนไม่ทันได้อ่าน เพราะอยากฟังสิ่งที่นายคณากรพูดมากกว่า เนื่องจากคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสเดียวที่ตนจะได้ฟัง ซึ่งหลังเกิดเหตุ ด้วยความตกใจ ตนได้ทิ้งเอกสารดังกล่าวไว้ในห้องพิจารณา ทำให้ไม่เห็นว่าเอกสารนั้นเป็นบันทึกเรื่องใด

           ทั้งนี้ ตนรู้สึกดีใจมากที่ศาลยกฟ้อง รวมถึงดีใจที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ยังมีคนดีอย่าง นายคณากร คอยช่วยเหลือประชาชนที่ถูกเอาเปรียบ อีกทั้งอยากขอบคุณ นายคณากร ที่เสียสละตัวเองเพื่อชาวใต้ และขอให้อาการบาดเจ็บดีขึ้นโดยเร็ว