ตำรวจส่งสำนวนยื่นอัยการ สั่งฟ้อง 21 ผู้ต้องหา ระเบิดกรุงเทพฯ เผยตอนนี้จับคนร้ายได้แล้ว 3 คน ที่เหลืออีก 18 คน หลบหนีออกต่างประเทศหมดแล้ว
วันที่ 24 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมพนักงานสอบสวน นำสำนวนการสอบสวน และเอกสารคดีระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 18 คดี กว่า 13,000 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหารวม 21 คน ในข้อหาอั้งยี่, ซ่องโจร, ก่อการร้าย และข้อหาอื่น ๆ รวม 11 ข้อหา เข้าส่งมอบให้นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการ
สำหรับข้อหาทั้งหมด มีดังนี้...
- ข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร
- ร่วมกันก่อการร้าย
- ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
- ร่วมกันพยายามกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น
- ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น
- ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่นและโรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้า
- ร่วมกระทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นรับอันตรายสาหัส
- พาอาวุธ (ระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร
- ร่วมกันทำ ใช้ มีไว้ซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
- มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดย พล.ต.อ. สุวัฒน์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมด 21 คน มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 21 ถูกจับกุมตัวได้และส่งฝากขังที่ศาลอาญาแล้ว ที่เหลืออีก 18 คน ขณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับตั้งแต่วันที่ 17-18 กันยายน ที่ผ่านมา โดยคดีมีอายุความในการติดตามตัวมาฟ้อง 20 ปี
ทั้งนี้ อธิบดีอัยการ เปิดเผยว่า คดีนี้มีการกระทำความผิดในพื้นที่นอกราชอาณาจักร โดยให้อำนาจการสั่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 เป็นของอัยการสูงสุด เมื่อวันนี้ได้รับมอบสำนวนก็จะส่งให้อัยการสูงสุดผ่านสำนักงานคดีอัยการสูงสุดต่อไป ซึ่งสำนักงานคดีอาญาได้ตั้งคณะทำงาน 6 คน มีนายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ดูแลในส่วนของการร่างคำฟ้อง หากอัยการสูงสุดมีความเห็นทางคดีออกมาว่าสั่งฟ้อง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 24 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมพนักงานสอบสวน นำสำนวนการสอบสวน และเอกสารคดีระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 18 คดี กว่า 13,000 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหารวม 21 คน ในข้อหาอั้งยี่, ซ่องโจร, ก่อการร้าย และข้อหาอื่น ๆ รวม 11 ข้อหา เข้าส่งมอบให้นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการ
สำหรับข้อหาทั้งหมด มีดังนี้...
- ข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร
- ร่วมกันก่อการร้าย
- ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
- ร่วมกันพยายามกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น
- ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น
- ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่นและโรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้า
- ร่วมกระทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นรับอันตรายสาหัส
- พาอาวุธ (ระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร
- ร่วมกันทำ ใช้ มีไว้ซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
- มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดย พล.ต.อ. สุวัฒน์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมด 21 คน มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 21 ถูกจับกุมตัวได้และส่งฝากขังที่ศาลอาญาแล้ว ที่เหลืออีก 18 คน ขณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับตั้งแต่วันที่ 17-18 กันยายน ที่ผ่านมา โดยคดีมีอายุความในการติดตามตัวมาฟ้อง 20 ปี
ทั้งนี้ อธิบดีอัยการ เปิดเผยว่า คดีนี้มีการกระทำความผิดในพื้นที่นอกราชอาณาจักร โดยให้อำนาจการสั่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 เป็นของอัยการสูงสุด เมื่อวันนี้ได้รับมอบสำนวนก็จะส่งให้อัยการสูงสุดผ่านสำนักงานคดีอัยการสูงสุดต่อไป ซึ่งสำนักงานคดีอาญาได้ตั้งคณะทำงาน 6 คน มีนายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ดูแลในส่วนของการร่างคำฟ้อง หากอัยการสูงสุดมีความเห็นทางคดีออกมาว่าสั่งฟ้อง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
