เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังคุมตัว ไอ้เอ็ม มือฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็นก่อนโบกปูน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ ที่เกิดเหตุ เผยเล่าว่านาทีสังหารโหด เอาถุงพลาสติกรัดคอ ก่อนโยนศพลงตู้เย็น
จากกรณี น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐินีใจบุญ พบศพถูกฆ่ามัดมือมัดเท้ายัดตู้เย็น และโบกปูนทับ ภายในห้องพักตรงข้ามวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้แล้ว ทราบชื่อคือ นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ หรือ เอ็ม อายุ 39 ปี คนขับรถสองแถว และเป็นคนขับรถของผู้เสียชีวิต โดยไปจนมุมที่ จ.นครสวรรค์ สารภาพก่อเหตุไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ (อ่านข่าว : เอ็ม ร่ำไห้ ขอขมาพี่เศรษฐินี โกรธขอเงินดาวน์รถไม่ได้ ฆ่าไปแล้วภาพติดตา)
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เพจ บิ๊กเกรียน รายงานว่า พ.ต.อ. สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก. ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ. ดำเนิน กันอ่อง ผกก.สภ.จอมทอง นำตัว นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร หรือ ไอ้เอ็ม ผู้ต้องหาฆาตกรรม น.ส.วรรณี ออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมเตรียมตัวพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยัง ที่เกิดเหตุอาคารพาณิชย์
โดยคาดว่า 2 จุดใหญ่ ที่ไอ้เอ็ม จะนำชี้สถานที่เกิดเหตุ คือ อาคารพาณิชย์ บ้านหลังที่เกิดเหตุฆาตกรรม และร้านวัสดุก่อสร้าง ที่คนร้ายขับรถ BMW ของผู้เสียชีวิต ไปซื้อปูนมาโบกปูนศพในตู้เย็น
ต่อมา เพจบิ๊กเกรียน รายงานต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรววจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว โดย ไอ้เอ็ม เล่าวินาทีสังหาร น.ส.วรรณี ด้วยการใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ก่อนอุ้มร่างยัดลงตู้เย็นและโบกปูนทับ
ขณะที่ข่าวช่องวัน เผยถึงบรรยากาศรอบบ้านหลังที่เกิดเหตุ พบว่ามีชาวบ้านกว่า 100 คน มาเฝ้าดูเหตุการณ์และส่งเสียงสาปแช่ง ขณะที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาทำแผน
พบว่าจุดแรก เป็นจุดที่นายเอ็มเคาะประตูเรียกผู้ตาย ก่อนเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน จากนั้นจับผู้ตายมัดมือไพล่หลังบนเก้าอี้ ใช้เทปกาวปิดอากและต่อยหน้าทรมาน บีบให้บอกรหัสเอทีเอ็ม เมื่อได้รหัสนายเอ็มก็ออกไปกดเงิน ก่อนกลับมาอีกครั้ง
ระหว่างนั้นพบว่าผู้ตายพยายามร้องขอชีวิต บอกว่าอยากได้อะไรก็เอาไปเลย แต่อยากเอาชีวิต ทำให้นายเอ็มชั่งใจเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อสูบบุหรี่ ก่อนตัดสินใจนำถุงพลาสติกครอบศีรษะจนผู้ตายแน่นิ่ง และอำพรางศพด้วยการยกใส่ตู้เย็น ก่อนนำผงปูนโรยทับร่างผู้ตายอีกครั้ง และหลบหนีไป
ทั้งนี้ นายเอ็มได้เผยกับสื่อมวลชนว่า ตนสำนึกผิดแล้ว อยากขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป พร้อมชดใช้กรรมหลังจากนี้ โดยทางตำรวจได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยโหดร้ายทารุณ, ชิงทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปิดบัง ซ่อนเร้น อำพรางศพ และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตำรวจจะนำตัวฝากขังต่อศาล ก่อนเที่ยงวันนี้ (2 พฤศจิกายน)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ข่าวช่องวัน
