แม่วัย 18 ปีสุดเศร้าเสียลูกสาวที่เพิ่งเกิด 3 วัน เสียชีวิต พยาบาลพาไปฉีดยาฆ่าเชื้อ และบอกเพียงว่าลูกกำลังป่วย ครอบครัวขอให้ตำรวจส่งศพพิสูจน์ที่นิติเวช และให้ รพ. ออกมาชี้แจง

ภาพจาก สำนักข่าว INN
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อพบกับผู้ที่โพสต์ข้อความดังกล่าว โดยได้พบกับ น.ส.จินดารัตน์ หรือน้องฟ้า อายุ 18 ปี มารดาของ ด.ญ.วาวา อายุ 3 วัน ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยน้องฟ้า ยังอยู่ในสภาพอิดโรยและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น โดยมีนายนราธิป อายุ 21 ปี สามีของน้องฟ้า และญาติ ๆ คอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง
น้องฟ้า บอกว่า น้องวาวา นั้นคือลูกสาวคนแรก ที่ผ่านมาตนเองและสามีไม่เคยป่วยไข้ สุขภาพร่างกายแข็งแรงทั้งสองคน เมื่อตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ก็ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและพบแพทย์ตามนัดทุกเดือน โดยครบกำหนดคลอด ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จึงมาผ่าคลอดที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ การคลอดผ่านไปด้วยดี ลูกสาวออกมาร่างกายแข็งแรง อวัยวะครบ 32 และไม่มีโรคแทรกซ้อน
ช่วงหลังคลอดจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน ลูกสาวก็ปกติ และอยู่ในช่วงหัดดูดนมแม่ ในขณะที่ทางครอบครัวก็ไปแจ้งเกิดลูกสาว โดยตั้งชื่อว่า ด.ญ.สุดารัตน์ หรือน้อง วาวา ลูกสาวแข็งแรง ร้องไห้ตามปกติ พร้อมกับหัดดูดนมแม่ และมีนมที่ทาง รพ. เตรียมมาให้หยดใส่ปากลูก ลูกก็กินได้ และนอนหลับเป็นปกติ
จากนั้นเวลาประมาณตีสองของเช้ามืดวันที่ 8 พฤศจิกายน พยาบาลก็มาที่เตียงและบอกว่ามาฉีดยาฆ่าเชื้อให้น้องวาวาอีกครั้ง เมื่อพยาบาลให้ยาเรียบร้อย และเดินออกไป จึงอุ้มลูกมาให้นม ปรากฏว่าลูกตัวแข็ง ไม่กระดุกกระดิก เนื่องจากน้องเสียชีวิตแล้ว
น้องฟ้า กล่าวต่ออีกว่า น้องวาวาเป็นหลานสาวคนแรกของครอบครัว ปู่ย่าตายาย และคนในครอบครัวต่างพากันเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ตนเองนั้นเสียใจมาก ทำให้ขณะนี้ต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้กลับมาแข็งแรงเป็นปกติ เพื่อจะเรียกร้องขอความเป็นธรรม และให้แพทย์หรือผู้เกี่ยวข้องออกมาพูดออกมาเปิดเผยความจริงที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องวาวา และให้โรงพยาบาลเยียวยาให้กับครอบครัวด้วย
ด้าน พ.ต.ท. ธีร์ธัช พงษ์สุวรรณ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ครอบครัวได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอให้ตำรวจส่งศพน้องวาวาไปตรวจที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ เพราะญาติติดใจการตาย ในเบื้องต้น ตำรวจรับแจ้งความไว้แล้ว และได้ส่งศพไปชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อหาสาเหตุการตายของทารก แต่ยังไม่มีการสรุปว่าใครผิดพลาด หรือใครผิด เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนการปฏิบัติทางการแพทย์ ซึ่งก็ควบคุมโดยแพทยสภา ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า สสจ.ขก. ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวหรือยัง เพราะตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้ ก็เมื่อมีผลสรุปจากนิติเวช, สสจ.ขก. และแพทยสภาเท่านั้น
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN