เปิดปมยิงกันในศาลจันทบุรี สังเวย 3 ชีวิตให้คดีที่ดินมรดก 300 ล้าน ที่ต้องการเอาไปบริจาควัด แต่คนในตระกูลยื้อแย่งกันเอง พบ พล.ต.ต. ธารินทร์ จันทราทิพย์ มือยิง ซุกซ่อนปืนอย่างมิดชิด - ใช้ปืนแบบ FBI - ใช้กระสุนหัวตัด กะเอาให้ตาย
จากกรณีที่ พล.ต.ต. ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ ได้ก่อเหตุอุกอาจด้วยการใช้ปืนยิง นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ โจทก์ และนายวิจัย สุขรมย์ ทนายความฝั่งโจทก์ ก่อนที่ตำรวจจะยิง พล.ต.ต. ธารินทร์ จันทราทิพย์ จนเสียชีวิต (อ่านเพิ่มเติม นายพลมือยิงในศาล เสียชีวิตแล้ว - ยธ. ทบทวนความปลอดภัย หวั่นยิงบุคคลสำคัญ)
ล่าสุด (13 พฤศจิกายน 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ในห้องพิจารณาคดี ซึ่งมีการฟ้องร้องเรื่องการแจ้งเท็จอันเนื่องมาจากคดีที่ดิน โดยมี นายบัญชา (โจทก์) นางสุภาพร (ภรรยาของนายบัญชา) นายวิจัย (ทนายความฝั่งโจทก์) และนายวิชัย (ทนายความฝั่งโจทก์) ส่วนฝั่งจำเลยนั้นคือ พล.ต.ต. ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ
อาวุธที่ พล.ต.ต. ธารินทร์ ใช้คือ ปืนกล็อก ซึ่งเป็นปืนพก และสามารถยิงได้ทีละนัด กระสุนที่ใช้เป็นแบบหัวตัด มีแรงปะทะสูง ทำลายเนื้อเยื่อมากกว่ากระสุนหัวกลม ทำให้เกิดแผลฉกรรจ์ ปืนชนิดนี้เป็นปืนที่ FBI ใช้กัน ส่วนเหตุที่ พล.ต.ต. ธารินทร์ พกปืนเข้าศาลได้นั้น เพราะ พล.ต.ต. ธารินทร์ เข้าด้านหลังศาลในจุดที่ไม่มีเครื่องตรวจจับโลหะ ตรงข้ามกับด้านหน้าศาลที่มีเครื่องตรวจจับโลหะไว้อยู่
นายสุรินทร์ ชลพัฒนา เลขาธิการประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ประธานศาลฎีการับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นและมีความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ และมีการสั่งให้ทบทวนเรื่องมาตรการความปลอดภัยทั้งหมด โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการลงมือสืบพยานจำเลยนัดแรก หลังจากสืบพยานโจทก์มาแล้ว 20 นัด โดยที่มี พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต. ธารินทร์ ได้ซุกซ่อนปืนอย่างมิดชิดเพื่อใช้ยิงโจทก์ และเมื่อได้ยิงเสียงปืน ตำรวจจาก สภ.เมืองจันทบุรี ก็วิ่งเข้าห้องพิจารณาคดีทันที แต่เกิดโรคประจำตัวกำเริบ ตำรวจจึงส่งปืนให้เสมียนศาล เสมียนศาลจึงยิงปืนใส่ พล.ต.ต. ธารินทร์ 6 นัด จนเสียชีวิต
ด้าน ร.ต.อ. อรุณ สุกใส อดีตลูกน้องของ พล.ต.ต. ธารินทร์ กล่าวว่า พล.ต.ต. ธารินทร์ จริง ๆ เป็นคนใจร้อน เจ้าระเบียบ ละเอียดกับงาน ท่านรักลูกน้อง และช่วยเหลือลูกน้องอย่างดี เรื่องความใจร้อนนั้น อาจจะมีบ้างแต่ไม่เคยมีปัญหา พอตนรู้ว่า พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นมือยิงในศาล ตนก็ช็อกเหมือนกัน
น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยาของ พล.ต.ต. ธารินทร์ ได้เผยเบื้องลึกของมูลเหตุยิงกันในศาลนี้ว่า ที่ดินที่เป็นข้อพิพาทนี้ เป็นที่ดินขนาดกว่า 3,800 ไร่ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ของนายสมพล โกศลานันท์ คุณตาของตน ยกให้เป็นมรดกลูกหลาน ซึ่งตอนแรก พล.ต.ต. ธารินทร์ ในฐานะลูกเขยของตระกูล ต้องการยกที่ดินให้วัด แต่วัดไม่สามารถส่งค่างวดได้ จึงคืนที่ดินให้ แต่เมื่อคืนที่ดินแล้วก็กลายเป็นว่าที่ดินนี้กลับเข้าสู่กองมรดกอีกครั้ง จึงกลายเป็นข้อพิพาทของคนในตระกูลที่ต้องการครอบครองที่ดินผืนดังกล่าว พล.ต.ต. ธารินทร์ มีความต้องการนำที่ดินไปพัฒนาและบริจาคที่ดินผืนนี้ให้พระพุทธศาสนาเหมือนเดิม แต่คนในตระกูลไม่เห็นด้วย จนสุดท้ายกลับเกิดการฟ้องร้องกันขึ้น พล.ต.ต. ธารินทร์ เคยเปรยเอาไว้ว่า คดีนี้จะไม่ยอมเด็ดขาด หากแพ้คือเสียศักดิ์ศรี และตนหวังว่าเขาจะไม่ตายฟรี และต้องขอโทษเขาด้วยที่เอาเขามาเอี่ยวกับคดีพิพาทที่ดินในตระกูลของตน
"พี่อยากจะขอโทษเขาค่ะ พี่อยากจะขอโทษ พี่ไม่น่าเอาเขาเข้ามาในคดีนี้ เพราะมันเป็นคดีของตระกูลพี่ พี่ไม่มีความรู้ พี่ไม่ใช่นักกฎหมาย เพียงแต่พี่เห็นเขาเป็นตำรวจ"
ด้าน นายเตชนิธิ ชัยณรงวิทย์ ทนายความของ พล.ต.ต. ธารินทร์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเหตุที่ พล.ต.ต. ธารินทร์ ลงมือยิงนั้น ส่วนหนึ่งมาจากเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่ 3 นายวิจัย ทนายฝั่งโจทก์ ซึ่งได้ซักถาม พล.ต.ต. ธารินทร์ ได้พาดพิงไปถึงพ่อของ พล.ต.ต. ธารินทร์ เพื่อให้เป็นผลเสียต่อคดี จน พล.ต.ต. ธารินทร์ ไม่พอใจ เพราะคุณพ่อของ พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศ และ พล.ต.ต. ธารินทร์ ยังขอให้ศาลไม่บันทึกคำให้การในส่วนที่เกี่ยวกับคุณพ่อของตัวเอง แต่ศาลก็ต้องบันทึก นอกจากนี้ นายวิจัยยังได้โชว์หลักฐานเอกสารต่อหน้าผู้พิพากษา และ พล.ต.ต. ธารินทร์ ได้เข้ายื้อแย่งเอกสารกับนายวิจัย จนผู้พิพากษาต้องตักเตือน
พ.ต.ท. ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 กล่าวว่า ปืนของ พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นปืนกล็อก 22 จุด 40 ระบบเซมิออโตเมติก กระสุนบรรจุในแม็กกาซีน 15 นัด ขึ้นลำ 1 ครั้ง สามารถยิงได้จนหมดแม็ก แต่ยิงได้ครั้งละ 1 นัด ปืนชนิดนี้เป็นปืนที่ FBI ใช้สู้กับอาชญากร มีอำนาจทำลายล้างสูง กระสุนก็เป็นแบบหัวตัด มีแรงปะทะสูงกว่ากระสุนทั่วไป พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นตำรวจ คงได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี จนสามารถยิงได้อย่างแม่นยำ
ด้าน นายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ 1 ใน 3 ผู้เสียชีวิตนั้น ถือเป็นคนที่มีประวัติเป็นทนายชั้นดี เคยว่าความในคดีสำคัญ ๆ อย่าง คดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเคยเป็นถึงอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นต้น
![เบื้องลึกยิงกันในศาล]( "เบื้องลึกยิงกันในศาล")
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
![เบื้องลึกยิงกันในศาล]( "เบื้องลึกยิงกันในศาล")
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
![เบื้องลึกยิงกันในศาล]( "เบื้องลึกยิงกันในศาล")
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
![เบื้องลึกยิงกันในศาล]( "เบื้องลึกยิงกันในศาล")
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
![เบื้องลึกยิงกันในศาล]( "เบื้องลึกยิงกันในศาล")
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
![เบื้องลึกยิงกันในศาล]( "เบื้องลึกยิงกันในศาล")
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณีที่ พล.ต.ต. ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ ได้ก่อเหตุอุกอาจด้วยการใช้ปืนยิง นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ โจทก์ และนายวิจัย สุขรมย์ ทนายความฝั่งโจทก์ ก่อนที่ตำรวจจะยิง พล.ต.ต. ธารินทร์ จันทราทิพย์ จนเสียชีวิต (อ่านเพิ่มเติม นายพลมือยิงในศาล เสียชีวิตแล้ว - ยธ. ทบทวนความปลอดภัย หวั่นยิงบุคคลสำคัญ)
ล่าสุด (13 พฤศจิกายน 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ในห้องพิจารณาคดี ซึ่งมีการฟ้องร้องเรื่องการแจ้งเท็จอันเนื่องมาจากคดีที่ดิน โดยมี นายบัญชา (โจทก์) นางสุภาพร (ภรรยาของนายบัญชา) นายวิจัย (ทนายความฝั่งโจทก์) และนายวิชัย (ทนายความฝั่งโจทก์) ส่วนฝั่งจำเลยนั้นคือ พล.ต.ต. ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ
อาวุธที่ พล.ต.ต. ธารินทร์ ใช้คือ ปืนกล็อก ซึ่งเป็นปืนพก และสามารถยิงได้ทีละนัด กระสุนที่ใช้เป็นแบบหัวตัด มีแรงปะทะสูง ทำลายเนื้อเยื่อมากกว่ากระสุนหัวกลม ทำให้เกิดแผลฉกรรจ์ ปืนชนิดนี้เป็นปืนที่ FBI ใช้กัน ส่วนเหตุที่ พล.ต.ต. ธารินทร์ พกปืนเข้าศาลได้นั้น เพราะ พล.ต.ต. ธารินทร์ เข้าด้านหลังศาลในจุดที่ไม่มีเครื่องตรวจจับโลหะ ตรงข้ามกับด้านหน้าศาลที่มีเครื่องตรวจจับโลหะไว้อยู่
นายสุรินทร์ ชลพัฒนา เลขาธิการประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ประธานศาลฎีการับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นและมีความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ และมีการสั่งให้ทบทวนเรื่องมาตรการความปลอดภัยทั้งหมด โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการลงมือสืบพยานจำเลยนัดแรก หลังจากสืบพยานโจทก์มาแล้ว 20 นัด โดยที่มี พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต. ธารินทร์ ได้ซุกซ่อนปืนอย่างมิดชิดเพื่อใช้ยิงโจทก์ และเมื่อได้ยิงเสียงปืน ตำรวจจาก สภ.เมืองจันทบุรี ก็วิ่งเข้าห้องพิจารณาคดีทันที แต่เกิดโรคประจำตัวกำเริบ ตำรวจจึงส่งปืนให้เสมียนศาล เสมียนศาลจึงยิงปืนใส่ พล.ต.ต. ธารินทร์ 6 นัด จนเสียชีวิต
ด้าน ร.ต.อ. อรุณ สุกใส อดีตลูกน้องของ พล.ต.ต. ธารินทร์ กล่าวว่า พล.ต.ต. ธารินทร์ จริง ๆ เป็นคนใจร้อน เจ้าระเบียบ ละเอียดกับงาน ท่านรักลูกน้อง และช่วยเหลือลูกน้องอย่างดี เรื่องความใจร้อนนั้น อาจจะมีบ้างแต่ไม่เคยมีปัญหา พอตนรู้ว่า พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นมือยิงในศาล ตนก็ช็อกเหมือนกัน
น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยาของ พล.ต.ต. ธารินทร์ ได้เผยเบื้องลึกของมูลเหตุยิงกันในศาลนี้ว่า ที่ดินที่เป็นข้อพิพาทนี้ เป็นที่ดินขนาดกว่า 3,800 ไร่ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ของนายสมพล โกศลานันท์ คุณตาของตน ยกให้เป็นมรดกลูกหลาน ซึ่งตอนแรก พล.ต.ต. ธารินทร์ ในฐานะลูกเขยของตระกูล ต้องการยกที่ดินให้วัด แต่วัดไม่สามารถส่งค่างวดได้ จึงคืนที่ดินให้ แต่เมื่อคืนที่ดินแล้วก็กลายเป็นว่าที่ดินนี้กลับเข้าสู่กองมรดกอีกครั้ง จึงกลายเป็นข้อพิพาทของคนในตระกูลที่ต้องการครอบครองที่ดินผืนดังกล่าว พล.ต.ต. ธารินทร์ มีความต้องการนำที่ดินไปพัฒนาและบริจาคที่ดินผืนนี้ให้พระพุทธศาสนาเหมือนเดิม แต่คนในตระกูลไม่เห็นด้วย จนสุดท้ายกลับเกิดการฟ้องร้องกันขึ้น พล.ต.ต. ธารินทร์ เคยเปรยเอาไว้ว่า คดีนี้จะไม่ยอมเด็ดขาด หากแพ้คือเสียศักดิ์ศรี และตนหวังว่าเขาจะไม่ตายฟรี และต้องขอโทษเขาด้วยที่เอาเขามาเอี่ยวกับคดีพิพาทที่ดินในตระกูลของตน
"พี่อยากจะขอโทษเขาค่ะ พี่อยากจะขอโทษ พี่ไม่น่าเอาเขาเข้ามาในคดีนี้ เพราะมันเป็นคดีของตระกูลพี่ พี่ไม่มีความรู้ พี่ไม่ใช่นักกฎหมาย เพียงแต่พี่เห็นเขาเป็นตำรวจ"
ด้าน นายเตชนิธิ ชัยณรงวิทย์ ทนายความของ พล.ต.ต. ธารินทร์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเหตุที่ พล.ต.ต. ธารินทร์ ลงมือยิงนั้น ส่วนหนึ่งมาจากเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่ 3 นายวิจัย ทนายฝั่งโจทก์ ซึ่งได้ซักถาม พล.ต.ต. ธารินทร์ ได้พาดพิงไปถึงพ่อของ พล.ต.ต. ธารินทร์ เพื่อให้เป็นผลเสียต่อคดี จน พล.ต.ต. ธารินทร์ ไม่พอใจ เพราะคุณพ่อของ พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศ และ พล.ต.ต. ธารินทร์ ยังขอให้ศาลไม่บันทึกคำให้การในส่วนที่เกี่ยวกับคุณพ่อของตัวเอง แต่ศาลก็ต้องบันทึก นอกจากนี้ นายวิจัยยังได้โชว์หลักฐานเอกสารต่อหน้าผู้พิพากษา และ พล.ต.ต. ธารินทร์ ได้เข้ายื้อแย่งเอกสารกับนายวิจัย จนผู้พิพากษาต้องตักเตือน
พ.ต.ท. ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 กล่าวว่า ปืนของ พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นปืนกล็อก 22 จุด 40 ระบบเซมิออโตเมติก กระสุนบรรจุในแม็กกาซีน 15 นัด ขึ้นลำ 1 ครั้ง สามารถยิงได้จนหมดแม็ก แต่ยิงได้ครั้งละ 1 นัด ปืนชนิดนี้เป็นปืนที่ FBI ใช้สู้กับอาชญากร มีอำนาจทำลายล้างสูง กระสุนก็เป็นแบบหัวตัด มีแรงปะทะสูงกว่ากระสุนทั่วไป พล.ต.ต. ธารินทร์ เป็นตำรวจ คงได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี จนสามารถยิงได้อย่างแม่นยำ
ด้าน นายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ 1 ใน 3 ผู้เสียชีวิตนั้น ถือเป็นคนที่มีประวัติเป็นทนายชั้นดี เคยว่าความในคดีสำคัญ ๆ อย่าง คดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเคยเป็นถึงอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นต้น
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
