อาม่าสุดช้ำ โดนลูกสาวในไส้ ร่วมกับพนักงานธนาคารอีก 4 คน อาศัยจังหวะแม่ป่วยเส้นเลือดหัวใจตีบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง แอบพิมพ์ลายนิ้วมือถอนเงินเกลี้ยงบัญชี 250 ล้าน
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ได้เปิดเผยกับทีมข่าวกระปุกดอทคอม ว่า อาม่าฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 76 ปี ได้มาปรึกษาขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกลูกสาวในไส้ รวมหัวกับพนักงานแบงก์อีก 4 คน แอบโอนเงินในบัญชีออกไปขณะที่นอนป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ต้องเจาะคอ มือเท้าอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง โดยแอบเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงินเดิมในบัญชีออมทรัพย์จากการลงลายมือชื่อ เป็นพิมพ์ลายนิ้วมือ และปลอมหนังสือมอบอำนาจ เพื่อนำไปใช้ในการเบิก-ถอนเงิน และสั่งจ่ายเช็คแทนในบัญชีกระแสรายวัน ถอนเงินออกจากบัญชี นอกจากนี้ยังถอนเงินออกจากกองทุนเปิดของอาม่าฮวย กว่า 250 ล้านบาท และถ่ายโอนทรัพย์สินอื่น ๆ ออกไปจนหมดเกลี้ยง
อาม่าฮวย เล่าว่า หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วตนก็เดินทางกลับมาที่บ้าน จึงตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ของตัวเองว่าอยู่ครบหรือไม่ แต่เมื่อเปิดตู้เซฟดูกลับพบว่าสมุดบัญชีของตนได้หายไป จึงเดินทางไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเจ้าของบัญชี แต่ทางพนักงานกลับไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ตนแปลกใจเป็นอย่างมาก จนสุดท้ายตนจึงมาทราบว่าเงินในบัญชีกว่า 250 ล้าน ถูกโอนออกไปจำนวนหลายร้อยครั้ง จนหมดบัญชี จากฝีมือของลูกสาวของตนที่รวมหัวกับพนักงานแบงก์ โดยการแอบพิมพ์ลายนิ้วมือขณะที่ตนนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
จากนั้นตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความเอาไว้ตั้งแต่ปี 2557 แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งทางทนายอนันต์ชัยได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่อง จึงทำให้เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาพระโขนง 3 ศาลอาญาพระโขนง ได้ฟ้องคดีลูกในไส้และพนักงานแบงก์ จำนวน 4 คน เป็นคดีอาญา ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม
โดยหลังจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (19 พฤศจิกายน 2562) ทนายอนันต์ชัย พร้อมกับอาม่าฮวย จะเดินทางไปที่ศาลแพ่งพระโขนง เพื่อยื่นฟ้องธนาคารชื่อดัง พนักงานแบงก์ทั้ง 4 คน และลูกสาว เพื่อเรียกร้องเงินที่ถูกขโมยไป
