ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร เสียความรู้สึก หนัง THE CAVE นางนอน ถูกเติมฉากล้อเลียนข้าราชการไทย อาจทำเสียชื่อไปทั่วโลก รวมถึงไม่ให้ความสำคัญกับกู้ภัยไทย
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เข้าร่วมชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์การกุศลภาพยนตร์แห่งปี เรื่อง THE CAVE นางนอน เพื่อร่วมบริจาคเงินเพื่อนำรายได้สมทบช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ใน จ.ลำปาง และสมทบทุน น.ต. สมาน กุนัน หรือ จ่าแซม วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง
โดย นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวชื่นชม ทอม วอลเลอร์ ผู้กำกับ และทีมงาน เรื่องการทำโปรดักชั่นในเวลาที่จำกัด รวมถึงชื่นชมเรื่องที่เก็บรายละเอียดของจ่าแซม ซึ่งถือเป็นวีรบุรุษตัวจริงของเหตุการณ์นี้ แต่ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ขอเสริมความรู้เพิ่มเติมจากการดูภาพยนตร์ และจะทำให้เข้าใจบริบทมากขึ้น หากถามว่าภาพยนตร์เรื่อง THE CAVE นางนอน เป็นอย่างไร ขอบอกว่าเป็นการนำเสนอวีรบุรุษท่านหนึ่งคือ จิม วอร์นี นักดำน้ำชาวเบลเยียม จ่าแซม และทีมงานนักดำน้ำที่เข้าไปช่วยอย่างยากลำบาก เพราะใครที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์จะไม่รู้
ทั้งนี้ ถ้าถามถึงความไม่สบายใจของเนื้อหาในภาพยนตร์ มองว่าบทบางส่วนไม่ตรงกับความเป็นจริง ที่อาจทำให้หลายคนรับไม่ได้ หนังเรื่องนี้น่าจะสร้างความสามัคคีให้กับคนในโลกได้ เพราะเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับความสามัคคี แต่ผู้กำกับภาพยนตร์ตีความแก่นของเรื่อง พยายามนำเสนอให้เห็นการทำงานของทีมกู้ภัย จิม วอร์นี นักดำน้ำชาวเบลเยียม และไม่ได้ถ่ายทอดแผนการปฏิบัติงานของเรา 4 แผน คือ 1. สูบน้ำออกเท่าที่นักดำน้ำต้องการ เพื่อให้นักดำน้ำเข้าไปช่วยเด็กออกมา 2. เดินทางโพรงบนยอดดอย เพื่อหาทางเข้าถ้ำ 3. หาเส้นทางของน้ำที่ไหลเข้าถ้ำ 4. หาจุดผนังถ้ำที่บางที่สุด และหาจุดที่เด็กอยู่และเจาะถ้ำ
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
นอกจากนี้
ยังมีมุกในหนังที่มีลักษณะโจมตีการทำงานของราชการไทย ทำให้เสียความรู้สึกและเสียใจที่ถูกนำมาล้อเลียนในภาพยนตร์ที่จะนำไปฉายทั่วโลก เช่น ฉากที่มีการแลกบัตร
และการด่าว่าหากอยากใหญ่ก็ไปใหญ่ที่จังหวัด..ของคุณโน่น
รวมถึงการติดต่องานที่เจ้าหน้าที่หญิงบอกว่าให้ไปที่ศาลากลางจังหวัด
ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ตนเองในฐานะทีมปฏิบัติการก็ขอบ่นในจุดนี้นิดหนึ่ง
พร้อมแนะว่าถ้าเป็นแบบนี้ควรใช้คำว่าบทภาพยนตร์
ไม่ใช่ว่าสร้างจากเรื่องจริง
ขณะที่ ทอม วอลเลอร์ ผู้กำกับ กล่าวว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้อยากให้เห็นถึงการช่วยชีวิตเด็กออกจากถ้ำโดยทีมกู้ภัยทางน้ำ ซึ่งใช้ทีมที่เข้าไปช่วยจริงมาแสดง จึงคิดว่าถ่ายทอดเรื่องตรงจุดนี้ได้สมบูรณ์ แต่ส่วนอื่นเนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ก็อาศัยการบอกเล่าจากผู้ที่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ประกอบ พร้อมใส่บางประเด็นที่อยากเล่าเข้าไป เช่น บางคนอยากไปช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง หรือไม่มีบัตรเข้า แบบนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ อยากเล่าตรงนี้ด้วย ไม่อยากให้เห็นว่าเราเข้าข้างใคร เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้มีอะไรหลายอย่างที่สามารถนำมาใส่ในภาพยนตร์ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก