ศาลสั่งปรับ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เลี่ยงภาษีบุหรี่นอก สำแดงต้นทุนบุหรี่ต่ำกว่าราคาจริง ถูกปรับกว่า 1,225 ล้านบาท - บริษัทเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อไป
จากกรณีพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด จำกัด ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ภาษีศุลกากร พ.ศ. 2469 และ พ.ร.บ.บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489 โดยได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2559 ระบุพฤติการณ์ความผิดจำเลยสรุปว่า ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม 2546 - 24 มิถุนายน 2549 เจ้าหน้าที่พบว่า จำเลยทั้ง 8 คน ยื่นใบขนส่งสินค้าขาเข้า 272 ใบ ต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อผ่านพิธีการศุลกากร โดยสำแดงราคาบุหรี่ ต่ำกว่าราคาที่แท้จริง ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ประเมินราคาบุหรี่และค่าอากรแสตมป์ ทั้งสิ้นเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาทนั้น
ล่าสุด (29 พฤศจิกายน 2562) สำนักข่าว INN รายงานว่า คดีนี้ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ ได้ความว่า ในช่วงที่เกิดเหตุจำเลยมีการสำแดงต้นทุนราคาบุหรี่นอก ยี่ห้อมาร์ลโบโร จากซองละ 9.5 บาท และสุดท้ายอยู่ที่ซองละ 7.76 บาท ส่วนบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็ม จากซองละ 7 บาท สุดท้ายอยู่ที่ซองละ 5.88 บาท
แต่เมื่อดีเอสไอลงพื้นที่ ไปตรวจเปรียบเทียบราคาต้นทุนที่ผลิตในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นทั้งต้นทางผลิตส่งนำเข้ามาในไทยและส่งขายไปยังประเทศใกล้เคียง กลับพบว่า มีราคาต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ซองละ 13-19 บาท และเขตปลอดภาษีในไทยก็ตั้งราคาขายอยู่ที่ซองละกว่า 20 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังมีคำพิพากษา นายเจอรัลด์ มาโกลีส ชาวอเมริกัน ผู้จัดการสาขา บริษัทฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด จำกัด เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ส่วนตัวยินดีกับพนักงานทั้ง 7 คน ที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ส่วนคำตัดสินในส่วนของบริษัทฯ เบื้องต้น ทางบริษัทฯ ให้ความเคารพกับคำตัดสิน และจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อไป เพราะมองว่าขัดแย้งกับคำตัดสินที่ศาลไทยกับองค์การการค้าโลก (WTO) เคยมีคำตัดสินไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งยืนยันว่าบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายของไทยในเรื่องของการแสดงราคาสินค้าและการยื่นสำแดงนำเข้ามาโดยตลอด
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN