โซเชียลวิจารณ์สนั่น หลังหนุ่มติดเชื้อ HIV แนะวิธีเอาใจคนมีรสนิยมไม่ชอบสวมถุงยาง แค่กินยาต้าน ด้านหมอโต้เป็นวิธีคิดที่ผิด ชี้โรคทางเพศสัมพันธ์ ไม่ได้มีแต่ HIV
จากกรณีที่โลกออนไลน์กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในขณะนี้ กรณีที่มีคำแนะนำว่า ผู้ติดเชื้อ HIV สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้โดยที่ไม่ต้องสวมถุงยางอนามัย เพียงแค่กินยา PrEP และคนที่กินยา สามารถมีเพศสัมพันธ์กับคนที่กินยาด้วยกันได้โดยไม่สวมถุงยาง รวมถึงคนที่มีเชื้อ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อด้วยกันได้โดยไม่สวมถุงยาง ซึ่งหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็ถูกกระแสตีกลับจำนวนมาก
ภาพจาก เพจ หมอบูดขี้บ่น
- ชายที่มีเพศสัมพันธ์ชาย
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี
- ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน
- ผู้ที่ทำงานบริการทางเพศ
- ผู้ที่มาขอรับบริการ Post-Exposure Prophylaxis (PEP) อยู่เป็นประจำโดยไม่สามารถลดพฤติกรรมเสี่ยงลงได้
- ผู้ที่ใช้สารเสพย์ติดชนิดฉีด
- ผู้ที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา
- จะรับเพร็พ (PrEP) ได้อย่างไร คือ ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ 2 สัปดาห์ก่อนมารับเพร็พ (PrEP) ผู้มารับบริการจะได้รับการตรวจเอชไอวี การทำงานของตับและไต หลังจากที่ได้รับยาเพร็พ (PrEP) ครั้งแรกจะนัดตรวจเลือด 1 เดือน หลังจากนั้นนัดตรวจเลือดทุก 3 เดือน หากต้องการหยุดยา ผู้มารับบริการต้องมาตรวจเลือดก่อนหยุดยาเพร็พ (PrEP) ทุกครั้ง
- ใครบ้างที่ควรได้รับยาเป็ป (PEP) คือ ยาเป็ป (PEP) มีไว้สำหรับผู้ที่คาดว่ามีการสัมผัสเชื้อเอชไอวี มาภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ซึ่งจะใช้ในกรณีดังนี้
- มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่อาจจะมีเชื้อเอชไอวีและไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ถุงยางอนามัยหลุดหรือฉีกขาด (ถุงแตก)
- ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
- ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
- เป็ป (PEP) ป้องกันจากการติดเชื้อเอชไอวีได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ หากผู้รับบริการคาดว่าเพิ่งสัมผัสเชื้อเอชไอวีมาภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง และรับยาเป็ป (PEP) เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะว่ายิ่งรับยาเร็ว ยาจะยิ่งมีประสิทธิภาพ
- จะรับยาเป็ป (PEP) ได้อย่างไร คือ ก่อนที่ผู้รับบริการจะรับยาเป็ป (PEP) แพทย์จะซักประวัติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพิจารณาว่าจำเป็นต้องรับยาเป็ป (PEP) หรือไม่ โดยแพทย์จะสั่งตรวจเอชไอวี ตรวจไวรัสตับอักเสบบี การทำงานของตับและไตก่อนรับยาเป็ป (PEP) (หากติดเชื้อ HIV อยู่ก่อนแล้ว จะไม่สามารถใช้ยาเป็ป (PEP) ได้) หลังรับประทานยาครบ 28 วัน ตรวจเอชไอวีซ้ำ 1 เดือน และ 3 เดือน งดบริจาคเลือด และใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก สภากาชาดไทย