เปิดชีวิตเศรษฐีหนุ่ม จากเด็กที่ถูกทิ้งในถังขยะ สู่การเป็นเจ้าของกิจการระดับพันล้าน

        หนุ่มพลิกชีวิต จากเด็กที่ถูกทิ้งในถังขยะ สู่การเป็นเจ้าของกิจการบริษัทมูลค่าพันล้าน เพราะชีวิตอยู่ที่โอกาสและทางเลือก



        ย้อนกลับไปเมื่อปี 2532 เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังคลอด เฟรดดี้ก็ได้ถูกนำมาทิ้งไว้ในถังขยะ ย่านชนบทของรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เขาอยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก มีบาดแผลเล็กน้อยตามร่างกาย แต่นับว่าเคราะห์ยังดีที่มีคนผ่านมาเจอเข้า จึงโทร. แจ้งตำรวจเพื่อรับตัวเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนจะส่งต่อไปยังบ้านอุปภัมภ์

        โดยคู่รักที่รับดูแลทารกคนนี้ก็คือ นาธานและเบ็ตตี้ ฟิกเกอร์ส ซึ่งมีลูกสาวอยู่แล้ว 1 คน อย่างไรก็ตาม หลังจากดูแลทารกน้อยได้ไม่กี่วัน พวกเขาก็ตัดสินใจจะขอรับเด็กคนนี้มาเป็นลูกบุญธรรม พร้อมตั้งชื่อให้ว่า เฟรดดี้

        อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเฟรดดี้มาถึงจุดพลิกผันตอนที่พ่อของเขาตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์พัง ๆ เครื่องหนึ่งมาให้เมื่อเขาอายุ 9 ขวบ โดยนาธาน พ่อของเขา เป็นช่างซ่อมบำรุงที่มหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดา แล้วพ่อก็คิดว่าอยากให้ลูกชายลองใช้สมาธิอยู่กับการซ่อมคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ จะได้ไม่ต้องสนใจปัญหารอบตัวที่ทำให้เขาไม่สบายใจ

        และพ่อของเขาก็คิดถูก เฟรดดี้ได้ลองแยกชิ้นส่วนและประกอบคอมพิวเตอร์เครื่องนี้อยู่หลายครั้ง เขายังมีความคิดสร้างสรรค์พอจะนำอุปกรณ์อื่น ๆ ในวิทยุมาติดตั้ง จนทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้งานได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจในเรื่องเทคโนโลยี

        ความสำเร็จอีกขั้นของเฟรดดี้ เกิดขึ้นในปี 2555 ตอนที่เขาอายุ 23 ปี โดยเฟรดดี้ได้ขายโปรแกรมเกี่ยวกับระบบติดตาม GPS แก่บริษัทแห่งหนึ่งในรัฐแคนซัส ได้รับเงินมา 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 66 ล้านบาท ซึ่งจุดเริ่มต้นของไอเดียโปรแกรมนี้ คือพ่อของเขาที่เริ่มมีอาการอัลไซเมอร์ จนชอบเดินเตร่ออกไปนอกบ้าน เฟรดดี้จึงได้ทำอุปกรณ์ตรวจจับ GPS นำไปใส่ไว้ในรองเท้าของพ่อ เพื่อให้หาตัวพ่อเจอ และสามารถคุยกับพ่อผ่านรองเท้านี้ได้

        อย่างไรก็ตาม นาธาน พ่อของเฟรดดี้ ได้เสียชีวิตในปี 2557 เพียงไม่นานหลังจากที่เฟรดดี้ได้เริ่มต้นทำบริษัท Figgers Communications ด้วยเงินที่ได้รับมาจากการขายเทคโนโลยีข้างต้น

        ตอนนี้เฟรดดี้ยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทโทรคมนาคม Figgers Wireless ที่ได้รับการประเมินในปี 2560 ว่ามีมูลค่าสูงถึง 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.87 พันล้านบาท

        นอกจากนี้เขายังได้ตั้งมูลนิธิ Figgers Foundation ซึ่งมอบความช่วยเหลือแก่สังคมหลายอย่าง เช่น การบรรเทาทุกข์หลังภัยธรรมชาติ มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนมัธยมปลาย ช่วยเหลือด้านอุปกรณ์การเรียนรู้แก่ครูที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

        "สิ่งดีที่สุดที่มนุษย์ทุกคนสามารถทำได้ คือการสร้างอิทธิพลต่อใครอีกคน" เฟรดดี้ กล่าว โดยเขายกความดีความชอบทั้งหมดแก่พ่อแม่บุญธรรมที่เชื่อมั่นในตัวเขา และอนุญาตให้เขาใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานด้านคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุยังน้อย