สื่อกังขา ซากเครื่องบินมีรอยคล้ายถูกกระสุน - ด้านยูเครนแจง พบเครื่องยนต์มีปัญหา

        สถานทูตยูเครน ชี้ เครื่องบินยูเครนตกที่อิหร่าน ไม่ได้เกิดจากการ "ก่อการร้าย" ข้อมูลเบื้องต้นพบเครื่องยนต์มีปัญหา ด้านสื่อยังไม่ล้มข้อสงสัย เหตุใดซากเครื่องบินมีรอยคล้ายถูกกระสุนหรือสะเก็ดระเบิด 



        อ่านข่าว : ประมวลภาพสลด เครื่องบินยูเครนตกที่อิหร่าน เศษซากกระจายเกลื่อนพื้น ดับ 176 ศพ

        ล่าสุด (8 มกราคม 2563) เว็บไซต์แอโรนิวส์ โกโบล รายงานว่า ภายหลังจากที่ทีมกู้ภัยได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเครื่องบินตก โลกโซเชียลมีเดียก็ได้มีการแชร์ต่อภาพถ่ายซากเครื่องบิน ที่มีหลายชิ้นส่วนอยู่ในสภาพคล้ายถูกฉีกกระชาก จนทำให้เกิดการคาดการณ์กันว่า เครื่องบินอาจถูกทำลายตั้งแต่อยู่กลางอากาศ ก่อนที่จะตกกระแทกกับพื้นหรือไม่ 

        นอกจากนี้ ทางเพจ Aeronews ยังตั้งข้อสังเกตว่า มีชิ้นส่วนจากซากเครื่องบินหลายชิ้นที่ปรากฏร่องรอยคล้ายโดนกระสุนหรือสะเก็ดระเบิด


        ทางด้านเว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าวหยุดส่งสัญญาณมายังศูนย์ควบคุม ทันทีที่นำเครื่องออกเดินทางจากสนามบินอิหม่ามโคไมนี ซึ่งหลังจากที่เครื่องบินตก เจ้าหน้าที่ของอิหร่านก็ได้ออกมาระบุอย่างรวดเร็ว ว่าสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากปัญหาทางเทคนิค

        ด้านเว็บไซต์ rte.ie ชี้ว่า เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนของอิหร่าน เผยว่าทางนักบินไม่ได้ประกาศว่าเครื่องอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก่อนที่เครื่องจะตกด้วยซ้ำ

        ทางด้าน คาเซม บิเนียซ โฆษกของรัฐมนตรีกระทรวงถนนและการคมนาคมอิหร่าน ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า นักบินสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน หลังเครื่องยนต์ตัวหนึ่งเกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กรมการบินพลเรือนของอิหร่านได้เริ่มสอบสวนเหตุดังกล่าวแล้ว

        ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ภายหลังจากมีกระแสความสงสัยกระจายไปในวงกว้างว่าเครื่องบินของยูเครนตกเพราะถูกยิงหรือไม่นั้น ทางสถานทูตยูเครนประจำกรุงเตหะราน ก็ได้ออกมาระบุว่า เครื่องบินตกในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจาก "การก่อการร้าย" และมีข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า มันเกิดจากความผิดปกติของเครื่องยนต์

        อนึ่ง วาดิม พรีสไตโค รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ได้ออกมาทวีต เผยรายละเอียดของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ประกอบด้วย

        - ชาวอิหร่าน 82 ราย
        - ชาวแคนาดา 63 ราย
        - ชาวยูเครน 11 ราย (ผู้โดยสาร 2 ราย และลูกเรือ 9 ราย)
        - ชาวสวีเดน 10 ราย
        - ชาวอัฟกานิสถาน 4 ราย
        - ชาวเยอรมนี 3 ราย
        - ชาวอังกฤษ 3 ราย