โดนัลด์ ทรัมป์ ลั่นเดินหน้าคว่ำบาตรอิหร่าน แทนตอบโต้ด้วยยุทโธปกรณ์ พร้อมขอให้ชาติมหาอำนาจร่วมกันกดดันอิหร่าน
ภาพจาก SAUL LOEB / AFP
วันที่ 8 มกราคม 2563 สำนักข่าวบีบีซี และสำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแถลงถึงกรณีการเปิดฉากโจมตีของอิหร่าน ด้วยการยิงมิสไซล์ใส่กองกำลังของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในอิหร่าน โดยเขาเริ่มจากการกล่าวทักทาย และยืนยันว่าไม่มีทหารชาวอเมริกันหรืออิรักที่เสียชีวิตจากเหตุโจมตีดังกล่าว แค่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น
ทรัมป์ ยังได้กล่าวชื่นชมในความแข็งแกร่งและยุทโธปกรณ์อันยอดเยี่ยมของกองทัพสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าไม่คิดที่จะใช้ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ ในการโต้ตอบอิหร่าน
โดยชี้ว่าสหรัฐฯ
มีความแข็งแกร่งทั้งทางการทหารและเศรษฐกิจ จากนี้สหรัฐฯ
จะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้นต่ออิหร่าน
จนกว่าอิหร่านจะยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
พร้อมกันนั้น ทรัมป์ยังได้ออกมาอธิบายถึงการตัดสินใจลอบสังหาร นายพลคาเซม ซูลีมานี โดยระบุว่า นายพลรายนี้เป็นบุคคลชั่วร้ายที่สมควรถูกสหรัฐฯ กำจัดมานานแล้ว นั่นเพราะมือของนายพลซูลีมานีชุ่มไปด้วยเลือดทั้งชาวอเมริกันและชาวอิหร่าน ที่ผ่านมานายพลซูลีมานียังเป็นผู้ให้การสนับสนุนกองกำลังต่าง ๆ ยุแยงให้เกิดสงครามกลางเมืองในภูมิภาค และยังมีแผนจะทำการโจมตีกองกำลังของสหรัฐฯ ด้วย
ทั้งนี้ ทรัมป์ ยังได้เรียกร้องให้สมาชิกที่เหลือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ทั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน ให้ยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน โดยชี้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำการเจรจาข้อตกลงใหม่ที่มีความปลอดภัยและทำให้โลกมีความสงบสุขมากขึ้น รวมถึงเขายังร้องขอให้องค์การนาโต (NATO) เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางด้วย
ภาพจาก SAUL LOEB / AFP
วันที่ 8 มกราคม 2563 สำนักข่าวบีบีซี และสำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแถลงถึงกรณีการเปิดฉากโจมตีของอิหร่าน ด้วยการยิงมิสไซล์ใส่กองกำลังของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในอิหร่าน โดยเขาเริ่มจากการกล่าวทักทาย และยืนยันว่าไม่มีทหารชาวอเมริกันหรืออิรักที่เสียชีวิตจากเหตุโจมตีดังกล่าว แค่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น
ทรัมป์ ยังได้กล่าวชื่นชมในความแข็งแกร่งและยุทโธปกรณ์อันยอดเยี่ยมของกองทัพสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าไม่คิดที่จะใช้ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ ในการโต้ตอบอิหร่าน
ภาพจาก ERIC BARADAT / AFP
ในระหว่างการปราศรัย ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ลั่นวาจาว่า "ตราบใดที่ผมยังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อิหร่านจะไม่มีวันได้รับอนุญาตให้มีอาวุธนิวเคลียร์"พร้อมกันนั้น ทรัมป์ยังได้ออกมาอธิบายถึงการตัดสินใจลอบสังหาร นายพลคาเซม ซูลีมานี โดยระบุว่า นายพลรายนี้เป็นบุคคลชั่วร้ายที่สมควรถูกสหรัฐฯ กำจัดมานานแล้ว นั่นเพราะมือของนายพลซูลีมานีชุ่มไปด้วยเลือดทั้งชาวอเมริกันและชาวอิหร่าน ที่ผ่านมานายพลซูลีมานียังเป็นผู้ให้การสนับสนุนกองกำลังต่าง ๆ ยุแยงให้เกิดสงครามกลางเมืองในภูมิภาค และยังมีแผนจะทำการโจมตีกองกำลังของสหรัฐฯ ด้วย
ทั้งนี้ ทรัมป์ ยังได้เรียกร้องให้สมาชิกที่เหลือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ทั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน ให้ยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน โดยชี้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำการเจรจาข้อตกลงใหม่ที่มีความปลอดภัยและทำให้โลกมีความสงบสุขมากขึ้น รวมถึงเขายังร้องขอให้องค์การนาโต (NATO) เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางด้วย