x close

บิ๊กโจ๊ก จัดหนักเป็นฉาก ๆ ต้นตอโดนสั่งยิงรถ รักษาผลประโยชน์ชาติ จนสั่นวงการตำรวจ


         บิ๊กโจ๊ก จัดหนักแตกหักกันไปเลย เผยที่มาของการถูกสั่งยิงรถ กับโครงการไบโอเมทริกซ์ ที่ไปสั่งยกเลิก หลังเห็นงวดงานส่งช้า 3 ผู้บังคับบัญชาก็ไม่เสร็จ ไม่ว่าถ้าจะจัดซื้อ แต่ต้องได้ของดีสมราคามาใช้ โครงการจาก 1,000 ล้าน ขยายวงเงิน 2,000 ล้าน ได้เครื่องมาทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ เหลือ ๆ 40 เครื่องเอาไปให้ภูธร โดนรังแกมาเยอะก็ขอพูดบ้าง เอาไงเอากันทีนี้ !

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์

         กลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงสีกากีเลยทีเดียว สำหรับกรณีคนร้ายลอบยิงรถ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช. สตม.) โดยบิ๊กโจ๊ก มั่นใจว่าสาเหตุที่ถูกลอบยิงรถนั้น มาจากการที่มีคำสั่งยกเลิกโครงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลไบโอเมทริกซ์ ในสมัยที่เป็น ผบช.สตม. ซึ่งต่อมามีคลิปเสียงหลุดออกมา อ้างเป็นบทสนทนาระหว่าง พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. คล้ายขอไม่ให้ลงไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ จนถูกวิจารณ์สนั่นโซเชียล

         รายการโหนกระแสวันที่ 9 มกราคม 2563 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ บิ๊กโจ๊ก ซึ่งขอเปิดหน้าชก เปิดศึก บิ๊กชนบิ๊ก ในครั้งนี้

เหตุการณ์ที่ถูกลอบยิง เห็นว่าก่อนหน้านั้นบอกว่า หมายเอาชีวิต ?

         บิ๊กโจ๊ก : ความจริงแล้วผมมีข้อมูลอยู่นานแล้วเกือบเดือน เราก็เป็นตำรวจเก่า เราก็ต้องรู้ใครคิดปองร้ายเรา ผมมีข้อมูลอยู่แล้วว่า มีการตรวจสอบทะเบียนรถผม มีการติดตามผม มีการเช็กที่อยู่ผม แต่ผมมีความเชื่อมั่น วันนี้ผมไม่ได้ทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อน ผมขับรถไปเอง เป็นคนสมถะเรียบง่าย แต่เมื่อก่อนมีลูกน้องขับ เพราะว่างานเยอะ ส่วนใหญ่ผมไปนวดร้านนั้นประจำ มีคนเตือนผมแล้วว่า ช่วงนี้อย่าไปที่ร้านนั้นเพราะเขาตามอยู่ แต่ผมมีความมั่นใจว่าเราทำดีมาทั้งชีวิต ช่วยเหลือประชาชนมาทั้งแผ่นดิน ไม่มีทางตายไม่ดีแน่ ในวันที่เกิดเหตุ เมื่อมีพนักงานมาแจ้งผมก็เฉย ๆ เลย

วิถีกระสุนไม่ได้หมายเอาชีวิต ?

         บิ๊กโจ๊ก : ใช่ ผมก็ตอบสื่อไปหลายคน ว่าการดูลักษณะแบบนี้ไม่ได้หมายเอาชีวิต เป็นการยิงขู่ เมื่อผมมาฟังจากพยานแวดล้อม พนักงานที่ร้านก็บอกว่าคนที่เข้ามายิง ก็มีต้นทางตามสูตร เขาก็ถามต้นทางว่าท่านอยู่ที่ไหน อยู่โรงแรมมณเฑียร หรือร้านกาแฟ หรือร้านนวด ต้นทางบอกอยู่ร้านนวด เขาก็ยิงเลย นั่นหมายถึงว่า เขาไม่ต้องการให้ผมเจอเขา ถ้าหมายเอาชีวิต เขาต้องมายิงผมที่ร้านนวด

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์

วิถีกระสุนดูแล้วถูกฝึกมาอย่างดีมั้ย ?

         บิ๊กโจ๊ก : ก็ต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ยิงอย่างนี้โดยใช้เวลาไม่มากนัก ต้องเชี่ยวชาญชำนาญพอสมควร แต่การยิงลักษณะแบบนี้ยิงข่มขู่ไม่ได้หมายเอาชีวิตแน่นอน

ท่านเองออกมาบ่งชี้บอกว่ารู้ตัวคนบงการ และเรื่องนี้ไปเกี่ยวกับคดีหนึ่งไบโอเมทริกซ์ มันไปเกี่ยวยังไง ทำไมคิดแบบนั้น ?

         บิ๊กโจ๊ก : เราขัดแย้งกับใครก็ต้องรู้ ผมไม่ได้มีปมขัดแย้งกับคนอื่น โอเคที่ผ่านมาทำงานมาเยอะ จับคนร้ายมาเยอะ แต่การจับกุมคนร้าย เขาก็ยอมรับสภาพได้ว่าเขาผิดจริง เราจับเขาตามกระบวนการกฎหมาย ไม่ได้ไปแกล้งจับเขา เหมือนศาลพิพากษา ญาติพี่น้องก็ยอมรับ เหมือนบางคดี ท่านก็ฟ้องผม แล้วศาลพิพากษายกฟ้อง เราไม่ได้ไปขัดแย้ง การทำงานเราไม่ได้ไปแกล้งเขา ผมไปขัดแย้งเรื่องอื่นไม่มีหรอก ยกเว้นเรื่องนี้ เพราะมีการติดต่อผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ มีการนัดเจรจาหลายครั้งแล้ว

หมายถึงตัวคนบงการเหรอ ?

         บิ๊กโจ๊ก : ตัวคนที่สั่งการ ตัวผู้มีอำนาจ แต่ผมไม่เคยไป

อยู่แวดวงเดียวกันไหม ?

         บิ๊กโจ๊ก : แวดวงเดียวกับผม แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ เวลาท่านไปประชุมที่ไหน ประชุมมอบนโยบาย ชั่วโมงสองชั่วโมง ก็ไม่มีมอบนโยบาย แต่ด่าผมอยู่คนเดียว ด่าโดยไม่เอ่ยชื่อ

ใครจะมาด่าบิ๊กโจ๊กได้ ต้องเหนือกว่าบิ๊กโจ๊ก ?

         บิ๊กโจ๊ก : ก็ต้องเหนือผม ไม่มีใครกล้าทำกับผมแบบนี้หรอก ถ้าไม่ใช่ผู้มีอำนาจ

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์

ไบโอเมทริกซ์ คือเครื่องตรวจอัตลักษณ์ คนเข้า ๆ ออก ๆ ประเทศ เครื่องนี้สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ จับเฮโรฮีน ยาเสพติด ดูคนลอบเข้าเมือง มันจับได้หมด มันไม่ดีตรงไหน ?

         บิ๊กโจ๊ก : ต้องเรียนว่าไบโอเมทริกซ์ เป็นนโยบายท่านนายกฯ ท่านคิดดี ไบโอเมทริกซ์ มันต้องใช้ ผมเห็นด้วยเลย เพราะทั่วโลกใช้ เดิมทีระบบ ตม. ใช้มา 20 ปี ผมเป็นผู้บัญชาการได้ 6 เดือนก็เห็นด้วย ผมไปดูงานต่างประเทศมาเยอะ พยายามให้การเข้าออกเมืองมันง่าย คนร้ายเข้ายาก คนดีเข้าง่าย แต่เมื่อผมเข้ามาแล้ว ก็รู้ว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ใช้งบประมาณตรวจคนเข้าเมือง หมายถึงใช้เงินตรวจคนเข้าเมือง แต่ให้ตรวจคนเข้าเมือง โอนเงินไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อเอง โดย ตม.ไม่ได้จัดซื้อ เขาทำมาก่อนผม 3 ผู้บัญชาการแล้ว

          แต่พอผมไปอยู่ ผมต้องการปราบปรามคนร้าย ต้องการให้การเข้าออกเมืองมันง่าย เครื่องมือที่ผมต้องใช้ ผมก็ดูว่าทำไม 3 ผู้บัญชาการแล้วไม่เสร็จ เมื่อเอามาดูก็ปรากฏว่า งวดหนึ่งส่งงานช้าไป 100 กว่าวัน งวดสองส่งช้าไป 100 กว่าวัน งวดที่สามส่งไม่ได้ ผมก็เลยนัดทุกส่วนมาคุย คุยแล้วก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี เมื่อทำไม่ได้ ผมก็หารือรองผู้บังคับบัญชาการทุกท่านแล้ว ผมถึงมีหนังสือในฐานะผมเป็นผู้บัญชาการตม. เรียน ผบ.ตร.ไปเพื่อขอยกเลิกสัญญา

ไม่เกี่ยวกับราคา ?

         บิ๊กโจ๊ก : ราคาอยู่อีกส่วนหนึ่ง แต่ผมอยากได้ของดีมาทำงาน ผมบอกแล้วว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะจัดซื้ออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมต้องได้ของดีมา เพราะผมเป็นคนใช้ในครั้งนั้น แต่ผมไม่ได้ทำเพื่อยกเลิกโครงการนี้ ไม่ใช่ ผมยกเลิกแค่การจัดซื้อครั้งนี้ ท่านจะไปจัดซื้ออะไรมาก็แล้วแต่ ต้องเอาของดีมาให้หน่วย พอทำหนังสือไป 2 ฉบับก็เงียบไป ก็ไม่เป็นไร

          ต่อมาผมก็ย้ายพ้นมาแล้ว พอผมย้ายมาก็ทราบว่ามีการเรียกรองผู้บังคับบัญชาการท่านหนึ่งไป ซึ่งเดี๋ยวท่าน ต้องไปให้การกับผมด้วย มีการเรียกไปและบอกว่าให้เซ็นรับไบโอเมทริกซ์อันนี้ และหาวิธีตั้งกรรมการวินัยผมเพื่อเล่นงานผม รองท่านนี้ก็ปฏิเสธ และบอกว่าถ้าทำได้สองอย่างนี้จะตั้งให้เป็น ผู้บังคับบัญชาการรักษาการ สตม.

มีหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริง ?

         บิ๊กโจ๊ก : มีตัวบุคคล อย่างอื่นไม่มี ก็เหมือนมีการสั่งการบุคคล เหมือนคลิปเสียง ในคลิปเสียงก็สั่งบุคคล

ถ้าเขาบอกใครจะพูดอะไรก็ได้ ?

         บิ๊กโจ๊ก : ก็ต้องมีคนยืนยัน วันนี้ผมก็เล่าตามข้อเท็จจริงไปก่อน วันนี้เมื่อผมโดนอย่างนี้ โดนมานานแล้ว ก็ต้องเอาซะที ต้องเปิดให้ประชาชนเห็นให้สังคมเห็นว่าโดนอะไรได้ ขนาดยศ พล.ต.ท. ยังโดนรังแกได้เลย

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์

เรื่องนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ท่านหลุดออกไปจากแวดวงของท่านหรือเปล่า ?

         บิ๊กโจ๊ก : ไม่ ๆ ผมว่าไม่ใช่หรอก ไม่เกี่ยวกัน คือผมเรียนว่าสมบัติเหล่านี้เป็นสมบัติของชาติ สมบัติของประชาชน เดิมอุปกรณ์เหล่านี้ ใช้วงเงินไม่ถึง 1,000 ล้าน แต่ตอนหลังมีการขยายวงเงินไปถึง 2,000 พันล้านกว่า ผมเรียนว่า ในทีโออาร์ มีการกำหนดเมนูหลายเมนูด้วยกัน มีการเชื่อมโยงกัน แต่ว่า สตม. สมัยก่อน กรรมการตรวจรับเขาไม่ตรวจรับ แต่ต่อมา สตม. มีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัท โดยการไปตรวจรับก่อนที่งานจะเสร็จ ผมไม่ได้กล่าวหาใคร เป็นข้อเท็จจริง

ทำไมถึงเปิดหน้าชกขนาดนี้ ?

         บิ๊กโจ๊ก : ผมต้องพูดแบบนี้ เพราะเราไปเอื้อประโยชน์ให้บริษัท

พูดแบบนี้ เหมือนเข้าข่ายทุจริต ?

         บิ๊กโจ๊ก : ก็ต้องดูข้อเท็จจริง ไปรับงานก่อนได้ยังไง ในเมื่องานยังไม่เสร็จ ปัจจุบันนี้ต้องไปตรวจดูทีโออาร์ว่า มีกี่ข้อ สมมติมี 20 ข้อ สื่อไปไล่เลยว่าแต่ละข้อวงเงินเท่าไร และทำเสร็จหรือยัง ถ้าหน่วยงานไหนไปตรวจรับงานก่อน งานเสร็จมันก็บ่งชี้อยู่แล้ว

คนบงการ เขาได้ผลประโยชน์อะไรจากตรงนี้ ?

         บิ๊กโจ๊ก : วันนี้มีการตรวจสอบโดย ปปช. มีผู้ถูกตรวจสอบ ตามรายชื่อที่ทนายษิทราเขายืนยันมา

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์

เรื่องนี้ทั้งหมด ย้อนมาที่เรื่องไปลอบยิงได้ยังไง ?

         บิ๊กโจ๊ก : ที่ผ่านมามีการติดต่อผมนัดผู้ใหญ่ให้ไปเจรจา แต่ผมไม่เคยไป เมื่อไม่เคยไป ก็ทำให้เป็นประเด็นของการขัดแย้ง ตัวทนายษิทราเองก็เคยถูกประสานให้ไปพบ ไปเจรจา เขาก็ไม่ไป

ให้ไปพบเพื่ออะไร ?

         บิ๊กโจ๊ก : เพื่อให้ยุติตรงนี้ ไม่ต้องมาตาม ให้ปากคำ ไม่ต้องพูดถึงประเด็นนี้ เพราะอย่าลืมว่า ผมเป็นคนทำหนังสือยกเลิก ผู้บัญชาการตม. 3 คนเขาคงอึดอัดแบบผม แต่คงไม่กล้าทำแบบผม ผมก็เข้าใจ แต่ในเมื่อผมมานั่งอยู่ ผมไม่ได้ถูกสอนมาให้เอาใจคน ๆ เดียว ผมมาทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ผมต้องดูแลประชาชน ผมจึงทำหนังสือยกเลิก เมื่อทำไปผมก็ต้องยอมรับในชะตากรรมที่เกิดขึ้น

ล่าสุดมีคำสัมภาษณ์ พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า การจัดซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์ เป็นไปตามหลักสากล มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนตัวมองว่าที่บิ๊กโจ๊กบอกว่า สาเหตุถูกยิงรถ เพราะเรื่องจัดซื้อจัดจ้างไม่น่าจะเป็นความจริง และไม่ควรใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือให้ตัวเองเกิดความชอบธรรม รู้สึกยังไง ?

         บิ๊กโจ๊ก : ผมไม่ตำหนิท่านสมพงษ์ แต่ต้องพูดให้ประชาชนเห็นว่าไบโอเมทริกซ์ มีทั้งหมด 30 กว่าเมนู วันนี้ซื้อมา 2,000 กว่าล้าน แต่วันนี้มันทำงานได้ 6-7 เมนูเอง เพราะฉะนั้น ต้องเรียนต่อว่าการเพิ่มเงินจาก 1,000 ล้านเป็น 2,000 กว่าล้าน พันล้านเพิ่มปริมาณเครื่องเกินกว่า ตม.ต้องใช้ ถามว่าไบโอเมทริกซ์ใช้กับอะไร วันนี้ท่านไปดูนะครับ

          ยกตัวอย่างสนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องเกินมา 40 ถามว่า 40 เครื่อง เอาไปไว้ไหน ก็ส่งให้ไปภูธรจังหวัด ทุกวันนี้ไปตรวจสอบได้เลย ภูธรไม่มีใครใช้ เขาไม่ได้รับผิดชอบการเข้าออกเมือง เขาจะมาใช้ได้ยังไง วันนี้ ปปช. เขาถึงมีคำพูดว่าความคุ้มค่า ผมไม่ได้ตำหนิว่าจับคนร้ายไม่ได้ แต่ไบโอเมทริกซ์ ต้องทำให้ได้ 30 กว่าเมนู เช่นการขออยู่ต่อ 90 วัน เรื่องโปร่งใสไม่โปร่งใส เอาง่าย ๆ เลย ไปดูทีโออาร์มีกี่ข้อ และทำงานได้ครบหรือเปล่า

คลิปที่หลุดออกมาในโซเชียล ทราบใช่มั้ยเป็นเสียง ผบ.ตร. กับ รองผบ.ตร. รู้สึกยังไง เพราะมีส่วนเกี่ยวกับคดียิงรถ ?

         บิ๊กโจ๊ก : ผมต้องเรียนตรง ๆ ฟังแล้วหดหู่ใจ ผมไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน ถ้าเป็นผู้นำองค์กรแล้วสั่งแบบนี้ อีกคนอยู่ต่างประเทศ อีกคนรักษาการ ผบ.ตร. เขาทำตามหน้าที่ ผมต้องเรียนตรง ๆ ว่าวันนี้ผมหดหู่ใจ เรื่องจับคนร้ายผมดูแล้วต้องทำใจ วันนี้พูดตรง ๆ ว่า ในวันเกิดเหตุ ผมก็เห็นเฉพาะท่านรองวิระชัย กับผู้การ รองผู้การ รองผู้กำกับ ตั้งแต่เกิดเหตุ ผมยังไม่เห็นผู้บัญชาการนครบาล แต่ผมก็ไม่ตำหนิท่าน แต่ท่านรองวิระชัย ท่านก็ออกมาในฐานะผู้แทนองค์กร วันนี้เมื่อประเด็นต่าง ๆ เข้าไปที่ผู้นำองค์กร ถ้าผมเป็นผู้นำองค์กร ยิ่งทำให้โปร่งใส ยิ่งทำให้สังคมไม่แคลงใจว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม ไม่ใช่มาสั่งแบบนี้ สั่งแบบนี้สั่งเพื่อองค์กรหรือเพื่อตนเอง หรือเพื่ออะไร

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์

ท่านบอกมีนครบาลดูแลอยู่แล้ว เราก็เป็นระดับบน เป็นพี่เลี้ยงคอยประคองไป ไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ เรื่องนี้มองยังไง อาจไม่ต้องถึงมือ รองผบ.ตร. หรือรักษาการ ?

         บิ๊กโจ๊ก : ถามว่าความเสียหายไม่ได้มากหรอก แต่คดีมันเกิดกลางเมือง เมื่อสื่อสนใจ รอง ผบ.ตร. ท่านก็ลงมาแอ็กชั่นเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น มั่นใจ แต่การไปสั่งแบบนี้ ผมถามว่าถ้าใครฟังคลิปแบบนี้ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา จะรู้สึกดีไหมหรือท้อแท้ใจ เพราะการเป็นผู้บัญชาคน ไม่รู้ ถ้าผมเป็นผู้นำองค์กร ผมต้องสั่งให้เร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้ภายใน 2 วัน ทำความจริงให้ปรากฏ ไปแถลงข่าวร่วมกัน เอานครบาลไป เอาหน่วยเกี่ยวข้องไปแถลงข่าวให้เห็นว่าเราทำเต็มที่แล้ว จับได้ไม่ได้ต้องใช้เวลา แต่สำหรับผม ไม่ใช่ยิงรถผมแล้วเป็นเรื่องใหญ่ ผมเป็นประชาชนคนหนึ่ง การปฏิบัติต้องปฏิบัติเหมือนกันทั้งหมด แต่ฟังจากที่พูด มองว่าผมรู้กัน ไปพูดอย่างนี้ได้ยังไง ถามว่าท่านเป็นผมบ้าง ผมว่าวันนี้สังคมต้องเข้าใจผม ว่าผมออกมาวันนี้เพราะโดนมาเยอะแล้ว

แตกหักเลยนะ ?

         บิ๊กโจ๊ก : วันนี้ผมต้องทำแบบนี้ ถ้าใครไม่เป็นผมบ้างไม่รู้
 
การเปิดหน้าชกแบบนี้ จะกลับมา ?

         บิ๊กโจ๊ก : ไม่เกี่ยวเรื่องกลับมา ไม่ได้คิดเลย แต่มันโดนมาเยอะแล้ว ต้องพอซะที เรื่องบิดเบือนสังคม ผมไม่ใช่แบบนั้น อย่ามาทำแบบนี้กับผม เอาพอประมาณ ผมโดนรังแกมาเยอะแล้ว ต้องพอซะที

คิดว่าเรื่องนี้จะยาว ๆ ไหม ?

         บิ๊กโจ๊ก : ต้องไปดูว่าผู้ถูกสั่งเขามองว่าผิดอาญาหรือไม่ การสั่งแบบนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ผมพูดทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริยธรรม ถ้าผมเป็นผู้นำองค์กร แล้วไปสั่งแบบนี้ ผมเป็นผู้นำแบบนี้ แล้ววันนี้สังคมรู้แบบนี้ ผมลาออกดีกว่า ผมบอกเลยผมอยู่ไม่ได้หรอก ผมมีสปิริต เรื่องนี้เป็นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ผมถามว่าอย่างนี้จะให้ประชาชนมั่นใจได้ยังไง จะอยู่ยังไง องค์กรจะอยู่ยังไง

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์

เข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ย ?


         บิ๊กโจ๊ก : ผมพร้อมพูดคุยหมด ผมให้สัมภาษณ์หลายวัน แทบไม่ต้องอ่านเอกสารเลย เพราะพูดด้วยแววตาและความจริงใจ ผมไม่ต้องมาเสแสร้ง วันนี้ผมเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผมไม่ตำหนิใคร รวมทั้งผู้บัญชาการสมพงษ์ ผมก็ไม่ตำหนิท่าน ท่านต้องรักษาหน่วย

ถ้าจับไม่ได้ต้องทำยังไง ?

         บิ๊กโจ๊ก : ผมถามย้อนกลับไปที่สื่อมวลชน วันนี้คดีแบบนี้ กล้องวงจรปิดเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ท่านได้ประกาศไปแล้วว่าท่านย้ายคนเก่งมาทั้งนั้นในกรุงเทพฯ

ประชดท่านหรือเปล่า ?

         บิ๊กโจ๊ก : ไม่ได้ประชด ถ้าคนเก่ง ๆ มาอยู่ ก็ต้องจับคนร้ายให้ได้

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บิ๊กโจ๊ก จัดหนักเป็นฉาก ๆ ต้นตอโดนสั่งยิงรถ รักษาผลประโยชน์ชาติ จนสั่นวงการตำรวจ อัปเดตล่าสุด 9 มกราคม 2563 เวลา 18:04:35 11,615 อ่าน
TOP