อิหร่านขู่โจมตีทหารยุโรปในตะวันออกกลาง หลังถูก 3 มหาอำนาจยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเคส และเยอรมนี กดดันให้ยอมรับข้อตกลงนิวเคลียร์
ภาพจาก IRANIAN PRESIDENCY / AFP
วันที่ 15 มกราคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ฮัสซัน รูฮานี (Hassan Rouhani) ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ประกาศเพิ่มการคุกคามไปยังชาติยุโรป ภายหลังจากถูก 3 ประเทศมหาอำนาจยุโรป ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเคส เยอรมนี ใช้กลไกการระงับข้อพิพาท กดดันให้อิหร่านทำตามข้อตกลงนิวเคลียร์ใหม่อีกครั้ง ภายหลังจากอิหร่านได้ล้มเลิกการทำตามข้อตกลงไป
"วันนี้ ทหารอเมริกันตกอยู่ในอันตราย พรุ่งนี้ ทหารยุโรป อาจจะตกอยู่ในอันตราย" ฮัสซัน รูฮานี กล่าว พร้อมทั้งกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีอังกฤษ "ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร เขาบอกว่าเราจะจัดการเรื่องนิวเคลียร์ และดำเนินแผนของทรัมป์ในทางปฏิบัติ ถ้าคุณทำผิดขั้นตอน มันจะกลายเป็นความเสียหายของคุณ กรุณาเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง เส้นทางที่ถูกต้องคือการกลับไปสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์"
โดยอิหร่านได้เริ่มยกเลิกข้อตกลงการจำกัดด้านนิวเคลียร์
ตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวออกจากสนธิสัญญาในปี 2561
พร้อมกันนี้ ทางประธานาธิบดีอิหร่าน ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของสหรัฐฯ
เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับใหม่ ที่จะมุ่งแก้ไขเรื่องนิวเคลียร์
ชี้ว่าเป็นข้อตกลงที่ประหลาด พร้อมทั้งแสดงความต้องการให้สหรัฐฯ
กลับมาร่วมสนธิสัญญานิวเคลียร์ฉบับเดิมที่ถอนตัวไป
โดยภายหลังจากที่สหรัฐฯ ถอนตัวไป ได้มีการได้คว่ำบาตรอิหร่านทางเศรษฐกิจ และคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายแรงกดดันสูงสุด โดยระบุว่า มีเป้าหมายเพื่อบังคับให้อิหร่านยอมรับข้อตกลงที่กว้างขึ้น ซึ่งทำให้มีข้อจำกัดที่เข้มงวดในการทำงานด้านนิวเคลียร์ ควบคุมโปรแกรมขีปนาวุธทิ้งตัว และยุติสงครามพร็อกซีในระดับภูมิภาค แต่อิหร่านกล่าวว่า จะไม่เจรจาตราบใดที่ยังมีการคว่ำบาตรอยู่
นอกจากนี้ อิหร่านยังรื้อฟื้นการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ทำให้อิหร่านยิ่งถอยห่างจากข้อตกลงนิวเคลียร์ไปเรื่อย ๆ และทางรัฐบาลกรุงเตหะรานของอิหร่านประกาศจะละทิ้งขีดจำกัดของข้อตกลงนิวเคลียร์ที่เหลือ เมื่อต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ภายหลังจาก คาเซม โซเลมานี (Qasem Soleimani) ผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน ถูกสหรัฐฯ สั่งโดรนยิงสังหารในอิรัก ทำให้เกิดความกังวลว่าจะถึงเวลาที่อิหร่านจะทะลุขีดจำกัดด้านเวลา พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างรวดเร็ว อาจภายในระยะเวลาแค่ 2 เดือน
กระทั่งเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ทางสหราชอาณาจัก ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้มีการประชุมเปิดการใช้กลไกการระงับข้อพิพาท เพื่อกดดันให้อิหร่านยอมรับตกลงการจำกัดนิวเคลียร์ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวกับรัฐสภาว่า อิหร่านเพิกเฉยต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ ทั้งนี้ หากการกดดันไม่เป็นผล ในที่สุดอาจนำไปสู่การคว่ำบาตรสหประชาชาติ ตามการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
ภาพจาก IRANIAN PRESIDENCY / AFP
วันที่ 15 มกราคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ฮัสซัน รูฮานี (Hassan Rouhani) ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ประกาศเพิ่มการคุกคามไปยังชาติยุโรป ภายหลังจากถูก 3 ประเทศมหาอำนาจยุโรป ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเคส เยอรมนี ใช้กลไกการระงับข้อพิพาท กดดันให้อิหร่านทำตามข้อตกลงนิวเคลียร์ใหม่อีกครั้ง ภายหลังจากอิหร่านได้ล้มเลิกการทำตามข้อตกลงไป
"วันนี้ ทหารอเมริกันตกอยู่ในอันตราย พรุ่งนี้ ทหารยุโรป อาจจะตกอยู่ในอันตราย" ฮัสซัน รูฮานี กล่าว พร้อมทั้งกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีอังกฤษ "ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร เขาบอกว่าเราจะจัดการเรื่องนิวเคลียร์ และดำเนินแผนของทรัมป์ในทางปฏิบัติ ถ้าคุณทำผิดขั้นตอน มันจะกลายเป็นความเสียหายของคุณ กรุณาเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง เส้นทางที่ถูกต้องคือการกลับไปสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์"
โดยภายหลังจากที่สหรัฐฯ ถอนตัวไป ได้มีการได้คว่ำบาตรอิหร่านทางเศรษฐกิจ และคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายแรงกดดันสูงสุด โดยระบุว่า มีเป้าหมายเพื่อบังคับให้อิหร่านยอมรับข้อตกลงที่กว้างขึ้น ซึ่งทำให้มีข้อจำกัดที่เข้มงวดในการทำงานด้านนิวเคลียร์ ควบคุมโปรแกรมขีปนาวุธทิ้งตัว และยุติสงครามพร็อกซีในระดับภูมิภาค แต่อิหร่านกล่าวว่า จะไม่เจรจาตราบใดที่ยังมีการคว่ำบาตรอยู่
นอกจากนี้ อิหร่านยังรื้อฟื้นการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ทำให้อิหร่านยิ่งถอยห่างจากข้อตกลงนิวเคลียร์ไปเรื่อย ๆ และทางรัฐบาลกรุงเตหะรานของอิหร่านประกาศจะละทิ้งขีดจำกัดของข้อตกลงนิวเคลียร์ที่เหลือ เมื่อต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ภายหลังจาก คาเซม โซเลมานี (Qasem Soleimani) ผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน ถูกสหรัฐฯ สั่งโดรนยิงสังหารในอิรัก ทำให้เกิดความกังวลว่าจะถึงเวลาที่อิหร่านจะทะลุขีดจำกัดด้านเวลา พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างรวดเร็ว อาจภายในระยะเวลาแค่ 2 เดือน
กระทั่งเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ทางสหราชอาณาจัก ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้มีการประชุมเปิดการใช้กลไกการระงับข้อพิพาท เพื่อกดดันให้อิหร่านยอมรับตกลงการจำกัดนิวเคลียร์ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวกับรัฐสภาว่า อิหร่านเพิกเฉยต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ ทั้งนี้ หากการกดดันไม่เป็นผล ในที่สุดอาจนำไปสู่การคว่ำบาตรสหประชาชาติ ตามการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ