ชายออสเตรเลีย อ้างตัวเป็นลูกลับ ๆ ของ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ - คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ยื่นคำร้องต่อศาลสูงให้ตรวจดีเอ็นเอ พิสูจน์ความจริง อยากรู้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์หรือไม่
วันที่ 29 มกราคม 2563 เว็บไซต์ ladbible.com รายงานว่า ไซมอน ชาร์ล โดรันที-เดย์ ชายชาวออสเตรเลีย วัย 53 ปี ได้กลายมาเป็นที่สนใจของสื่อ หลังจากที่เขาออกมาอ้างตัวว่าเป็นลูกลับ ๆ ที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่าง เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แห่งอังกฤษ และ คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ซึ่งเขาได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงในออสเตรเลีย ด้วยความหวังว่าจะได้รับการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอกับทั้ง 2 พระองค์
เว็บไซต์เมโทร เปิดเผยว่า ไซมอน เกิดในเมืองกอสพอร์ต รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2509 ก่อนที่เขาจะถูกส่งมอบให้คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งรับอุปการะเป็นลูกบุญธรรม ตอนที่เขาอายุ 18 เดือน แล้วจึงย้ายมาอาศัยอยู่กับที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ไซมอน ยังได้เผยถึงข้อมูลหลายอย่างมาสนับสนุนคำอ้างของเขา โดยบอกว่าเขาถือกำเนิดมาตอนที่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจริญพระชนมายุได้ 18 พรรษา หรือช่วงเวลา 5 ปีก่อนที่สาธารณชนจะรับทราบว่า ทรงพบเจอกับคามิลลาเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ในปีที่เขาเกิดมานั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าคามิลลาได้หายตัวอย่างลึกลับเป็นเวลานานถึง 9 เดือน ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ล ก็ถูกส่งไปเยือนออสเตรเลีย ในช่วงเวลาเดียวกัน
"ผมรู้ว่ามันฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ทุกอย่างที่ผมพูดนั้นสามารถตรวจสอบได้ ผมเป็นแค่ชายธรรมดาที่กำลังตามหาพ่อแม่แท้ ๆ และทุก ๆ เส้นทางก็นำผมกลับไปสู่คามิลลาและเจ้าฟ้าชายชาร์ล" ไซมอน กล่าว
ภาพจาก MARTY MELVILLE / POOL / AFP
ทั้งนี้ ไซมอนยอมรับว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่เสมียนในศาลสูงของรัฐควีนส์แลนด์ หัวเราะเยาะใส่ ตอนที่เขายื่นเอกสารเพื่อขอให้ศาลพิสูจน์ความจริง คำร้องของเขาถูกปัดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีมาแล้ว 3 ครั้ง กระทั่งครั้งล่าสุด เขาทราบว่าได้มีการส่งเรื่องไปถึงผู้พิพากษาเพื่อตรวจสอบและประเมินผลแล้ว
ไซมอนยังเชื่ออย่างจริงจังว่า ทางราชวงศ์น่าจะได้ทราบเรื่องเกี่ยวกับการยื่นคำร้องต่อศาลของเขาแล้ว จึงมีกระบวนการต่าง ๆ เพื่อพยายามปกปิดความจริง และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องที่ เจ้าชายแฮร์รี่ และพระชายา ทรงประกาศสละสถานะราชวงศ์ชั้นสูง ซึ่งได้กลายมาเป็นประเด็นใหญ่ที่คนทั้งโลกจับจ้อง
เขายังคาดหวังว่าจริงจังว่า จะได้รับการพิสูจน์เสียทีว่าตัวเองมีเลือดของราชวงศ์ไหลอยู่ในตัวหรือไม่ รวมถึงอ้างว่าหากเจ้าฟ้าชายชาร์สเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของเขาจริง เขาเองก็ควรอยู่ในสถานะรัชทายาทลำดับที่ 2 ของราชวงศ์ แทนที่ เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ เพราะเขาเกิดก่อน
