เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ยันปล่อยเงินทหารกู้ซื้อบ้านมีระเบียบชัด ชี้กรณี จ่าคลั่ง ซื้อบ้านเอกชน ย้ำมั่นใจไม่มีเงินทอน
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีที่คนร้าย ได้ใช้อาวุธสงคราม บุกเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 และกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน ซึ่งทำให้พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มีปัญหาเรื่องการถูกโกงเงินกู้ซื้อบ้าน ซึ่งมีการกู้ยืมผ่านสวัสดิการ โดยพบว่ามีเงินบางส่วนที่เป็นนอกเหนือจากราคาบ้าน หรือเรียกว่า เงินทอน ซึ่งกำลังถูกสื่อตีแผ่อยู่ในขณะนี้
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 รายการข่าววันใหม่ รายงานว่า พล.ต. ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ชี้แจงว่า ขั้นตอนการกู้เงินนั้นเป็นไปตามระเบียบ กรณีที่มีการอนุมัติเงินกู้ในวงเงินที่สูงกว่าระดับเงินเดือนนั้น ตนคิดว่า อยู่ที่การประเมินราคาจากที่ดินบางส่วน หรือราคาบ้านบางส่วน ซึ่งยอดการกู้ของกำลังพล อาจกู้ในประเภทอื่นด้วย การที่จะกู้ได้นั้น ต้องผ่านการประเมินทรัพย์สินจากคณะกรรมการที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาทำหน้าที่ทุก ๆ 3 เดือน ทุกอย่างเราจะดูเงินเดือนเป็นหลักว่าเหลือเท่าไรเพื่อขออนุมัติการกู้ โดยมีการกำหนดไว้อยู่แล้ว เหมือนกับการกู้เงินกับธนาคาร แต่สินเชื่อเงินกู้กรมสวัสดิการทหารบกนั้น จะเข้าไปอยู่ในกิจการออมทรัพย์กรมสวัสดิการทหารบก
เมื่อถามว่า จากนี้จะมีการสังคายนาระเบียบเงินกู้กรมสวัสดิการทหารบกอย่างไรหรือไม่ พล.ต. ราชิต กล่าวว่า ทุกอย่างมีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจน ที่ผ่านมา ผบ.ทบ. ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และสั่งการกับผู้บังคับบัญชาว่าต้องให้ความสำคัญ ต้องทำทุกอย่างที่เกิดประโยชน์กับกำลังพลและครอบครัว
เรื่องของ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุกราดยิงโคราช ทางกองทัพภาคที่ 2 จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ในส่วนของกรมสวัสดิการทหารบก ถ้ามีช่องว่างตรงไหน เราก็ต้องไปดูแลให้รัดกุมมากขึ้น ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับโครงการบ้านของกรมธนารักษ์ที่เช่าที่ดินราชพัสดุ ซึ่งเป็นคนละประเภทกัน โดย จ.ส.อ. จักรพันธ์ ไปซื้อของเอกชน
ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยข้อมูลเอกสารการกู้เงินนั้น เป็นความเข้าใจผิด เอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ตกลงกับผู้ประกอบการกับผู้ซื้อ ไม่ใช่การกู้เงินกรมสวัสดิการทหารบก และไม่ใช่เงินส่วนต่างหรือเงินทอนอะไร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีที่คนร้าย ได้ใช้อาวุธสงคราม บุกเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 และกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน ซึ่งทำให้พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มีปัญหาเรื่องการถูกโกงเงินกู้ซื้อบ้าน ซึ่งมีการกู้ยืมผ่านสวัสดิการ โดยพบว่ามีเงินบางส่วนที่เป็นนอกเหนือจากราคาบ้าน หรือเรียกว่า เงินทอน ซึ่งกำลังถูกสื่อตีแผ่อยู่ในขณะนี้
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 รายการข่าววันใหม่ รายงานว่า พล.ต. ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ชี้แจงว่า ขั้นตอนการกู้เงินนั้นเป็นไปตามระเบียบ กรณีที่มีการอนุมัติเงินกู้ในวงเงินที่สูงกว่าระดับเงินเดือนนั้น ตนคิดว่า อยู่ที่การประเมินราคาจากที่ดินบางส่วน หรือราคาบ้านบางส่วน ซึ่งยอดการกู้ของกำลังพล อาจกู้ในประเภทอื่นด้วย การที่จะกู้ได้นั้น ต้องผ่านการประเมินทรัพย์สินจากคณะกรรมการที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาทำหน้าที่ทุก ๆ 3 เดือน ทุกอย่างเราจะดูเงินเดือนเป็นหลักว่าเหลือเท่าไรเพื่อขออนุมัติการกู้ โดยมีการกำหนดไว้อยู่แล้ว เหมือนกับการกู้เงินกับธนาคาร แต่สินเชื่อเงินกู้กรมสวัสดิการทหารบกนั้น จะเข้าไปอยู่ในกิจการออมทรัพย์กรมสวัสดิการทหารบก
เมื่อถามว่า จากนี้จะมีการสังคายนาระเบียบเงินกู้กรมสวัสดิการทหารบกอย่างไรหรือไม่ พล.ต. ราชิต กล่าวว่า ทุกอย่างมีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจน ที่ผ่านมา ผบ.ทบ. ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และสั่งการกับผู้บังคับบัญชาว่าต้องให้ความสำคัญ ต้องทำทุกอย่างที่เกิดประโยชน์กับกำลังพลและครอบครัว
เรื่องของ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุกราดยิงโคราช ทางกองทัพภาคที่ 2 จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ในส่วนของกรมสวัสดิการทหารบก ถ้ามีช่องว่างตรงไหน เราก็ต้องไปดูแลให้รัดกุมมากขึ้น ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับโครงการบ้านของกรมธนารักษ์ที่เช่าที่ดินราชพัสดุ ซึ่งเป็นคนละประเภทกัน โดย จ.ส.อ. จักรพันธ์ ไปซื้อของเอกชน
ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยข้อมูลเอกสารการกู้เงินนั้น เป็นความเข้าใจผิด เอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ตกลงกับผู้ประกอบการกับผู้ซื้อ ไม่ใช่การกู้เงินกรมสวัสดิการทหารบก และไม่ใช่เงินส่วนต่างหรือเงินทอนอะไร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม