ภาคเหนืออ่วมหนัก PM2.5 เชียงราย พุ่งสูงอันดับ 1 ของโลก อากาศเสียจนหายใจไม่ได้

         ภาคเหนือตอนบนวิกฤต PM2.5 พุ่งสูงอันดับ 1 ของโลก เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ด้านเชียงรายตั้งวอร์รูม แก้ปัญหาฝุ่นควันลอยข้ามแดน จากการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน


          วันที่ 13 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือในช่วงบ่ายวันนี้มีค่าฝุ่นละอองหรือ PM2.5 อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพสูง โดยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตรวจพบค่าสูงถึง 251 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ จ.เชียงราย ตรวจพบค่าสูงถึง 457 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือในระดับที่เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ เช่นเดียวกับที่ จ.แม่ฮ่องสอน ที่ตรวจพบค่า PM2.5 สูงกว่า 301 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อันสืบเนื่องจากปัญหาการเผาในที่โล่งทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ และจากลมที่พัดเอาฝุ่นที่เกิดจากการเผาไร่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน 

          นอกจากนี้รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ เกือบทั้งหมดในพื้นที่ภาคเหนือก็ยังคงมี PM2.5 สูงในระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน เช่น จ.น่าน ค่า PM2.5 อยู่ที่ 168 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จ.พะเยา อยู่ที่ 189 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จ.ลำปาง อยู่ที่ 164 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จ.แพร่ ค่า PM2.5 อยู่ที่ 179 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นต้น


          ขณะเดียวกัน ไทยพีบีเอส ยังได้รายงานว่า จ.เชียงราย ได้ตั้งวอร์รูมแก้ปัญหา ขณะที่ฝ่ายปกครองเตรียมหารือกับประเทศเพื่อนบ้านในวันที่ 15 มีนาคม นี้ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน ทั้งนี้ ล่าสุด ในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ พบตำแหน่งจุดความร้อนจำนวน 70 จุด ส่วนในพื้นที่ใน จ.เชียงราย พบเพียง 3 จุด ส่วนใน อ.แม่สาย ยังไม่พบจุดความร้อนจากการเผาในที่โล่ง

          ด้าน นพ.ศิริศักดิ์ นันทะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สาย เปิดเผยว่า จากปัญหามลพิษทางอากาศที่เริ่มมีมาตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดเริ่มส่งผลกระทบกับผู้ป่วยในกลุ่มโรคเสี่ยงโดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจแล้ว แต่ยังไม่มีจำนวนเพิ่มมากนัก เพราะประชาชนเริ่มปรับตัว งดทำกิจกรรมกลางแจ้งลง และมีการใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นมากยิ่งขึ้น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก