กมธ.ท่องเที่ยว ขอความเป็นธรรม 12 นายพล ผู้ปิดทองหลังพระ ทุกคนเก่ง มีประสบการณ์

 

              รองเลขาฯ กมธ.ท่องเที่ยว แจง บิ๊กติ๊ก สมัครใจมาช่วยงานเอง ไม่ได้มีใครตั้งใคร ส่วน 12 นายพล ส.ว. ทุกคน เป็นคนเก่ง มีความรู้ เปรียบเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ ทำงานกันมานานแล้ว แค่ไม่ได้ออกสื่อ

             วันที่ 17 เมษายน 2563 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า พล.อ. บุญธรรม โอริส รองเลขานุการคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การแต่งตั้ง พล.อ. ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกวุฒิสภา น้องชาย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา ว่า เนื่องจากมีตำแหน่งในกรรมาธิการว่างลง พล.อ. ปรีชา จึงอาสาเข้ามาทำงานในคณะกรรมาธิการชุดนี้เอง

             โดยยืนยันว่าไม่ได้มีใครตั้งใคร แต่เป็นการสมัครใจเข้ามาทำงาน เนื่องจากวิธีการเลือกคณะกรรมาธิการ คือนำคนที่สมัครใจและเคยมีทักษะในด้านนี้มาแล้ว ซึ่งกรรมาธิการคนหนึ่งสามารถเลือกทำงานได้ 2 คณะ อย่างเช่นตนก็เลือกการบริหารราชการแผ่นดิน กับการท่องเที่ยว

             ส่วนที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า มีอดีตนายทหารหลายคนนั่งเก้าอี้คณะกรรมาธิการท่องเที่ยว ขอชี้แจงว่า คณะกรรมาธิการชุดนี้ มีทั้งหมด 19 คน โดย 14 คน เป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่เป็นทหาร ตำรวจ และอีก 5 คน เป็นพลเรือน ซึ่งทั้งหมดมีความรู้ความสามารถ และทำงานกันมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมี เพียงแต่ว่าพอมี พล.อ. ปรีชา เข้ามาเป็นคณะกรรมาธิการอีกคน ก็กลายเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับ 12 นายพลที่นั่งอยู่ในคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวด้วย

             อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ไปดูโปรไฟล์ของแต่ละท่านว่าผ่านงานอะไรมาบ้าง ทุกท่านเป็นคนเก่งและมีประสบการณ์ ในส่วนของตนก็ทำงานด้านการท่องเที่ยวมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2550 เป็นกรรมาธิการท่องเที่ยว สภาฯ ช่วงที่ยังไม่มีรัฐประหารมาด้วยซ้ำ ทุกท่านมีองค์ความรู้ พวกเราทำงานปิดทองหลังพระมาตลอด

             สำหรับหน้าที่ของคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว คือ ติดตามเร่งรัด ตรวจสอบ เสนอแนะฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 เรื่องเร่งรัดการปฏิรูปประเทศช่วง 5 ปีแรก เพื่อให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ 10 ปี ที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่เมื่อเกิดปัญหาโควิด 19 ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานใหม่หมด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก