หมออ๋อง เผยชาวบ้านไม่กลัวโควิด 19 แล้ว กลัวไม่มีกินมากกว่า กับความจริงน่าเศร้า เรื่องเงิน 5,000

          หมออ๋อง ถึงกับนอนไม่หลับ หลังลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน เผยคนไม่กลัว COVID-19 กันแล้ว แต่กลัวเรื่องปาก-ท้องมากกว่า ชี้ไปมาหลายร้อยหลังคาเรือน เจอคนได้ 5,000 เราไม่ทิ้งกัน แค่ 5 คน ซึ่งเป็นคนในเมือง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Padipat Suntiphada - ปดิพัทธ์ สันติภาดา

          วันที่ 17 เมษายน 2563 นายสัตวแพทย์ ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวช่วงประมาณ 4 ทุ่ม ระบุว่า ไลฟ์กลางดึกเพราะนอนไม่หลับ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ไปเยี่ยมชาวบ้านในหลายพื้นที่ พร้อมมอบถุงน้ำใจให้ชาวบ้าน ตอนนี้ชาวบ้านแทบไม่กลัวโควิด 19 แล้ว แต่ทุกคนกลัวเรื่องปัญหาปากท้อง

          อย่างตลาดนัดหลายแห่งปิดไปนานแล้ว พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดจำนวนมหาศาลที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงอาชีพอื่น ๆ อีก สถานบันเทิง ร้านอาหาร ลูกจ้าง ร้านตัดผม ทุกอาชีพได้รับผลกระทบหมด เดือดร้อนกันมาก ๆ หลายคนเป็นลูกจ้างรายวัน หาเช้ากินค่ำ พอหยุดงานปุ๊บ วันต่อมาไม่มีกินทันที

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Padipat Suntiphada - ปดิพัทธ์ สันติภาดา

          จากที่ตนและทีมงานลงพื้นที่พบปะประชาชน เดินไปเยี่ยมแต่ละบ้านเป็นร้อย ๆ บ้าน เจอคนที่ได้รับเงิน 5,000 บาท จากมาตรการ เราไม่ทิ้งกัน เพียงแค่ 5 คนเท่านั้น แค่ 5 คนจริง ๆ ซึ่ง 5 คนนี้เป็นคนที่อยู่ในเมืองทั้งหมด ทำให้เห็นว่าแม้แต่การเข้าถึงบริการของรัฐยังมีความเหลื่อมล้ำ เพราะคนที่ยากจน ไม่มีสมาร์ตโฟน เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต ก็ยิ่งทำให้เขาห่างไกลสิทธิ์ของรัฐไปอีก จึงเกินเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมคนที่มีฐานะดีกว่าเขาถึงได้ 5,000 แต่สำหรับเขาที่ยากจนจริง ๆ กลับไม่ได้

          หากพูดถึงระบบสาธารณสุขของไทยทำงานกันได้ดีอยู่แล้ว แต่ในเรื่องปากท้องจะดำเนินการอย่างไรกันต่อ เพราะยังมีชาวบ้านอีกมากมายจริง ๆ ที่เดือดร้อน ระบบ AI ที่ใช้คัดกรองสิทธิ์ก็มีปัญหา กระทรวงดิจิทัลฯ ก็ไม่กระตือรือร้นที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่มัวไปไล่จับคนเผยแพร่ข่าวปลอม

          นับเป็นเรื่องที่เศร้ามากว่า ต้องให้ประชาชนพิสูจน์ว่าตัวตนขนาดไหนถึงจะได้รับการสงเคราะห์จากรัฐ ทั้งที่ประเทศกำลังประสบภัยพิบัติ ประชาชนไม่ควรต้องรอรับความสงเคราะห์จากรัฐ มันเป็นหน้าที่ของรัฐที่ควรเอาเงินภาษีมาดูแลพวกเรา เพราะเราเป็นเจ้าของเงิน คนจนทุกคนเสียภาษีเหมือนกันหมด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Padipat Suntiphada - ปดิพัทธ์ สันติภาดา