เปิดใจสาวช้ำรัก แฟนหนุ่มทิ้งไม่ไยดี ไม่สนแม้ตั้งท้อง 8 เดือน ชิ่งหนีออกจากบ้าน อ้างกลับไปเรียน จนต้องยอมจ่ายเงินจัดงานหมั้นเอง แต่ฝ่ายชายก็ไม่มา สุดท้ายรู้ความจริง แอบมีหญิงอื่นถึง 8 คน
เมื่อวานนี้ (21 เมษายน 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานบทสัมภาษณ์ นางสาวเฌอพัชญ์ แก้วกัณหา หรือ ส้ม อายุ 21 ปี หญิงสาวเจ้าของโพสต์แฉแฟนหนุ่ม หลังรู้ว่าตั้งท้อง 8 เดือน ก็ทิ้งไป ก่อนจะมาจับได้ว่าแฟนแอบมีคนอื่นถึง 8 คน โดยเจ้าตัวเล่าว่า เรารู้จักกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 ตอนที่เขามาฝึกงานที่ระยอง ก่อนจะตัดสินใจคบกันเดือนมิถุนายน 2562 และฝ่ายชายได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านของตนเดือนสิงหาคม 2562 จนถึงเดือนตุลาคม 2562
นางสาวเฌอพัชญ์ เผยว่า ระหว่างที่คบกัน ตนเป็นฝ่ายดีมาตลอด ตามใจตลอด เวลาทะเลาะกันก็จะเป็นฝ่ายขอโทษ ซึ่งนิสัยของผู้ชายนั้น เขาเป็นคนเงียบ ๆ แต่พอรู้ว่าตนตั้งท้อง วันรุ่งขึ้นเขาก็เก็บของออกจากบ้านตนทันที อ้างว่าโรงเรียนจะเปิดแล้ว แต่ตอนนั้นตนก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเชื่อว่าเขาดี แต่พอฝ่ายชายกลับไป เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป แชตไม่ค่อยตอบ โทร. ไปก็ตัดสาย
พอแม่ตนรู้เรื่องก็โทร. ไปหาบ้านฝ่ายชาย แต่กลับถูกป้าเขาต่อว่า หาว่าตนท้องกับคนอื่น ให้ไปตรวจดีเอ็นเอก่อน พยายามจะบ่ายเบี่ยง และขู่ว่าถ้าจะให้ฝ่ายชายกลับมาหาก็ให้ไปฟ้องเอา และขู่ฝ่ายชายว่าถ้ากลับมาหาตนก็ไม่ต้องไปเผาผีป้า
ตนตัดสินใจจัดงานหมั้น โดยเป็นการออกเงินกันเองกับแม่ รวม 40,000 บาท เป็นค่าสินสอด ซึ่งฝ่ายชายรับปากว่าจะมา แต่ก็ไม่มา อ้างว่าที่บ้านไม่ให้มา กระทั่งเดือนมีนาคม 2563 ตนตัดสินใจขอเลิก และโพสต์เรื่องราวดังกล่าว เพราะตนท้อง 8 เดือน ฝ่ายชายไม่เคยมาหา มาดูแล แต่กลับมีการยืมเงินเรื่อย ๆ รวม 10,000 บาท เมื่อทวงคืนก็ให้มาแค่ 500 บาท และมารู้เรื่องภายหลังอีกว่า ระหว่างที่คบกัน ฝ่ายชายทักจีบผู้หญิงไปทั่ว รวมแล้ว 8 คน
นางสาวเฌอพัชญ์ ทิ้งท้ายว่า ตอนแรกอยากให้ฝ่ายชายกลับมา เพราะต้องการให้ลูกมีพ่อ แต่อีกฝ่ายไม่เคยซื่อสัตย์เลย จากนี้ไม่ต้องการแล้ว และคงจะไม่ให้อภัย
ขณะที่แม่ของนางสาวเฌอพัชญ์ เผยว่า ระหว่างที่ลูกคบกับฝ่ายชายและย้ายมาอยู่ที่บ้าน ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่บอกไปว่าแม่ชอบคนเรียนหนังสือ ซึ่งเขาก็ทำดีกับลูกตนมาตลอด จนรู้ว่าลูกสาวตั้งท้องเขาก็หายไป ตนติดต่อไปหาญาติฝ่ายชาย เขาไม่ได้สนใจเลยว่าลูกสาวท้องแล้วเป็นไง ถามแต่ว่าลูกทำงานอะไร ครอบครัวเป็นใคร เหมือนอยากรู้ว่าบ้านรวยหรือไม่ และกล่าวหาว่าปล่อยให้ท้องเองเพื่อต้องการจับฝ่ายชาย
ทั้งนี้ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น เพราะลูกสาวตนโตและทำงานดูแลตัวเองแล้ว แต่ฝ่ายชายต่างหากที่ยังแบมือขอเงินที่บ้าน ซึ่งเบื้องต้นได้เข้าแจ้งความที่โรงพัก แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง บอกให้ไปแจ้งกับหน่วยงานอื่น เพราะลูกตนบรรลุนิติภาวะแล้ว หลังจากนี้ตนต้องการให้ฝ่ายชายรับผิดชอบเรื่องค่าเลี้ยงดู แต่ไม่ยินยอมหากจะกลับมาอยู่กับลูกสาวเหมือนก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
นางสาวเฌอพัชญ์ เผยว่า ระหว่างที่คบกัน ตนเป็นฝ่ายดีมาตลอด ตามใจตลอด เวลาทะเลาะกันก็จะเป็นฝ่ายขอโทษ ซึ่งนิสัยของผู้ชายนั้น เขาเป็นคนเงียบ ๆ แต่พอรู้ว่าตนตั้งท้อง วันรุ่งขึ้นเขาก็เก็บของออกจากบ้านตนทันที อ้างว่าโรงเรียนจะเปิดแล้ว แต่ตอนนั้นตนก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเชื่อว่าเขาดี แต่พอฝ่ายชายกลับไป เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป แชตไม่ค่อยตอบ โทร. ไปก็ตัดสาย
ตนตัดสินใจจัดงานหมั้น โดยเป็นการออกเงินกันเองกับแม่ รวม 40,000 บาท เป็นค่าสินสอด ซึ่งฝ่ายชายรับปากว่าจะมา แต่ก็ไม่มา อ้างว่าที่บ้านไม่ให้มา กระทั่งเดือนมีนาคม 2563 ตนตัดสินใจขอเลิก และโพสต์เรื่องราวดังกล่าว เพราะตนท้อง 8 เดือน ฝ่ายชายไม่เคยมาหา มาดูแล แต่กลับมีการยืมเงินเรื่อย ๆ รวม 10,000 บาท เมื่อทวงคืนก็ให้มาแค่ 500 บาท และมารู้เรื่องภายหลังอีกว่า ระหว่างที่คบกัน ฝ่ายชายทักจีบผู้หญิงไปทั่ว รวมแล้ว 8 คน
นางสาวเฌอพัชญ์ ทิ้งท้ายว่า ตอนแรกอยากให้ฝ่ายชายกลับมา เพราะต้องการให้ลูกมีพ่อ แต่อีกฝ่ายไม่เคยซื่อสัตย์เลย จากนี้ไม่ต้องการแล้ว และคงจะไม่ให้อภัย
ขณะที่แม่ของนางสาวเฌอพัชญ์ เผยว่า ระหว่างที่ลูกคบกับฝ่ายชายและย้ายมาอยู่ที่บ้าน ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่บอกไปว่าแม่ชอบคนเรียนหนังสือ ซึ่งเขาก็ทำดีกับลูกตนมาตลอด จนรู้ว่าลูกสาวตั้งท้องเขาก็หายไป ตนติดต่อไปหาญาติฝ่ายชาย เขาไม่ได้สนใจเลยว่าลูกสาวท้องแล้วเป็นไง ถามแต่ว่าลูกทำงานอะไร ครอบครัวเป็นใคร เหมือนอยากรู้ว่าบ้านรวยหรือไม่ และกล่าวหาว่าปล่อยให้ท้องเองเพื่อต้องการจับฝ่ายชาย
ทั้งนี้ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น เพราะลูกสาวตนโตและทำงานดูแลตัวเองแล้ว แต่ฝ่ายชายต่างหากที่ยังแบมือขอเงินที่บ้าน ซึ่งเบื้องต้นได้เข้าแจ้งความที่โรงพัก แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง บอกให้ไปแจ้งกับหน่วยงานอื่น เพราะลูกตนบรรลุนิติภาวะแล้ว หลังจากนี้ตนต้องการให้ฝ่ายชายรับผิดชอบเรื่องค่าเลี้ยงดู แต่ไม่ยินยอมหากจะกลับมาอยู่กับลูกสาวเหมือนก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก