ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีความผิด กรณีสลายการชุมนุม 2553 ชี้มีกลุ่มบุคคลใส่ร้าย สร้างวาทกรรมให้เสียหาย
วันที่ 17 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวพาดพิง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง การสลายการชุมนุมและทำให้คนเสียชีวิต ว่า กลุ่มบุคคลที่ออกมากล่าวหาได้ใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ และเป็นการสร้างวาทกรรมเพื่อทำลายนายอภิสิทธิ์ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทั้ง ๆ ที่เรื่องดังกล่าวได้ผ่านการพิสูจน์จากกระบวนการยุติธรรมจนสิ้นกระแสความว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา
หลักฐานจากรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ยืนยันชัดเจนในเรื่องการชุมนุมเมื่อปี 2553 ว่าการชุมนุมครั้งนั้นเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชัดเจน และในบริเวณการชุมนุมดังกล่าวก็มีกลุ่มชายชุดดำแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม อีกทั้งมีการใช้อาวุธสงคราม รายงานของ คอป. มีรายละเอียดเป็นจำนวนมากที่ยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องต่าง ๆ
คดีนี้ยังไม่จบเหตุ เพราะเมื่อคดีไม่อยู่ในอำนาจของศาลอาญา อำนาจการพิจารณาคดีก็ตกไปอยู่กับ ปปช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่มีอำนาจโดยตรง มีการยื่นคำร้องให้เอาผิดในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สั่งใช้กำลังทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แก่ 3 บุคคล คือ
1. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
2. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
3. พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก
ผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการ ปปช. รับฟังเป็นยุติว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เหตุผลไว้น่าสนใจคือ
"อยู่ในช่วงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาของศาล ว่าการชุมนุมของกลุ่ม นปช. มิใช่การชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ และมีบุคคลที่มีอาวุธปืนปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. จึงมีเหตุจำเป็นที่ ศอฉ. ต้องใช้มาตรการขอพื้นที่คืน เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง
โดยมีคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่นำอาวุธติดตัว หากมีความจำเป็นสามารถนำมาใช้เพื่อระงับยับยั้งได้ไปตามสถานการณ์ หรือเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือป้องกันตนเองได้ อันเป็นไปตามหลักสากล ตามนัยคำพิพากษาศาลแพ่ง ในคดีหมายเลขดำที่ 1433/2553"
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ปปช. ระบุไว้ชัดเจนว่า ทั้งนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และ พล.อ. อนุพงษ์ ไม่ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา และศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้ในคดีเลขที่ 1699/2560 ว่า "การกระทำของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง" ก็เป็นข้อเท็จจริงที่สอดคล้องต้องกัน
ทั้งนี้ ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวนี้ควรจะยุติ เพราะได้ผ่านการค้นหาความจริงด้วยกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรที่จะมาใช้วาทกรรมในการปลุกปั่นให้ประชาชนเข้าใจผิดในข้อมูล
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
